เที่ยวชมสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง 11 แห่ง
ขอนำท่านเดินทางย้อนรอยสู่สุดยอดอารยธรรมของมนุษยชาติ พบกับความยิ่งใหญ่อลังการของสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางที่ไร้ซึ่งขอบเขตแห่งกาลเวลา และยังคงมีให้เห็นอยู่ในยุคปัจจุบัน
1. โคลอสเซียม (Colosseum) ประเทศอิตาลี
สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งนี้เป็นสนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ของโลกที่จุผู้ชมได้ถึง 50,000 คน ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม ประเทศอิตาลี ลักษณะโครงสร้างอัฒจรรย์เป็นแบบวงกลมรี 4 ชั้น ภายในสนามปูด้วยหินปูน มีทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังขณะที่ฝนตก เป็นการออกแบบที่ชาญฉลาดมากทำให้ผู้ชมรู้สึกเข้าถึงนักกีฬา ถือว่าเป็นต้นแบบให้กับสนามกีฬาในยุคปัจจุบัน ในอดีตสนามกีฬาแห่งนี้ถูกใช้เป็นสนามประลองการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ของ "กลาดิเอเตอร์" นักสู้ชาวโรมันที่สร้างความบันเทิงให้แก่ผู้ชม ที่นั่งอัฒจันทร์ถูกแบ่งตามชนชั้นจากบนลงล่าง ตั้งแต่กษัตริย์ ขุนนาง ราชวงศ์ ชาวโรมันที่ร่ำรวย ประชาชนทั่วไป และข้าทาสที่ตั้งนั่งพื้น
โคลอสเซียมได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกในปี ค.ศ.1979 สนามกีฬาแห่งนี้จึงมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่นิยมแวะมาเที่ยวชม เพื่อซึมซับประวัติศาสตร์และถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน
ภาพจาก www.rome.info/colosseum
ที่อยู่ : Piazza del Colosseo, 1, 00184 Roma RM, อิตาลี
โทรศัพท์ : +39 06 3996 7700
เว็ปไซต์ : https://parcocolosseo.it
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.30-19.15 น. เวลาปิดตามฤดูกาล (ปิดวันที่ 1 ม.ค., 1 พ.ค., 25 ธ.ค.)
แผนที่ : https://goo.gl/maps/TeEFKeKVjm52jnnr7
2. สุสานแห่งอเล็กซานเดรีย (Catacombs of Kom el Shoqafa) ประเทศอียิปต์
เป็นสถานที่ฝังศพใต้ดินของกษัตริย์อียิปต์โบราณอีกแบบหนึ่งนอกเหนือไปจากปิรามิด อยู่ที่เมืองอเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์ อุโมงค์แห่งนี้มีชื่อเรียกว่า คาตาโกมบ์ โดยขุดลึกเข้าไปในภูเขาหินทรายเป็นขั้นๆ บางตอนมีความลึกถึง 70-80 ฟุต มีทางเดินกว้าง 3-4 ฟุต ทางเดินจะวกไปเวียนมาเป็นระยะทางนับร้อยไมล์ สุสานแห่งนี้มีทั้งหมดสามชั้น และถูกสลักมาจากหิน
ชั้นที่ 1 มีไว้สำหรับเตรียมการปลงศพ
ชั้นที่ 2 เป็นที่เก็บรักษา
ชั้นที่ 3 ใช้เป็นที่รวมญาติเพื่อระลึกถึงผู้ตาย โดยมีการเลี้ยงสังสรรค์กันทั้งวัน ซึ่งเล่ากันว่าตอนที่นักโบราณคดีค้นพบที่นี่เป็นครั้งแรก บนโต๊ะยังมีขวดไวน์และจานวางอยู่
ที่นี่เคยเป็นสถานที่ฝังศพเก่าแก่สมัยศตวรรษที่ 2-4 ถูกค้นพบในปี ค.ศ.1900 ลงบันไดหินไปจะเจอรหัสอักษรภาพและสัญลักษณ์ต่างๆ ทั่วทั้งสุสาน หนึ่งในไฮไลต์เด็ดของที่นี่ก็คือ Hall of Caracalla ซึ่งเป็นที่ฝังศพม้าของจักรพรรดิการากัลลานั่นเอง
หากท่านได้มาอียิปต์ นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เยี่ยมชมสุสานแห่งอเล็กซานเดรียอียิปต์หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง
ภาพจาก https://7thingspacial.wordpress.com
ที่อยู่ : Karmouz, Alexandria Governorate, อียิปต์
โทรศัพท์ : +20 3 3936825
เว็ปไซต์ : www.egypt.travel/attractions/catacombs-of-kom-el-shouqafa
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 9.00-16.30 น.
แผนที่ : https://goo.gl/maps/CGXJ6AQMJSowccqf6
3. กำแพงเมืองจีน (The Great Wall of China) ประเทศจีน
กำแพงเมืองจีนซึ่งเป็นสถานที่ที่สำคัญมากของประเทศจีน ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกปี ค.ศ.1987 กำแพงเมืองจีนแห่งนี้มีความยาวทั้งหมด 6,500 กม. นับได้ว่าเป็นกำแพงที่ยาวที่สุดในโลกเลยทีเดียว ถูกสร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้โดยใช้คนสร้างนับล้านคน ลักษณะกำแพงเป็นป้อมคั่นเป็นช่วงๆ เพื่อป้องกันการรุกรานจากพวกฮั่นที่จะเข้ามารุกรานจีนตามแนวชายแดนทางเหนือ สิ่งมหัศจรรย์ของโลกอันเก่าแก่ที่คดเคี้ยวไปมา มีหอคอย ทางเดิน หลายด่านตลอดเส้นทาง อย่างเช่น ด่านซานไห่กวาน ด่านปาต้าหลิ่ง ด่านมู่เถียนยวี่ ด่านจวียงกวน ด่านจินซานหลิ่ง ด่านซือหม่าไถ ด่านเจี้ยนโค่ว ด่านหวงฮวาเฉิง ด่านเจียยวี่
มาเที่ยวเมืองจีนทั้งทีจะพลาดสัมผัสกับกำแพงเมืองจีนหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางได้อย่างไร
ภาพจาก https://th.wikipedia.org/wiki
ที่อยู่ : Huairou District, จีน
โทรศัพท์ : +86 10 6162 6022
เว็ปไซต์ : mutianyugreatwall.com
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 09.00-16.00 น.
แผนที่ : https://goo.gl/maps/seiRRfd7yhSNSLD36
4. สโตนเฮนจ์ (Stonehenge) ประเทศอังกฤษ
สโตนเฮนจ์ เป็นอนุสรณ์สถานยุคหินใหม่ นักโบราณคดีเชื่อว่ากลุ่มกองหินนี้ถูกสร้างขึ้นจากที่ไหนสักแห่งเมื่อประมาณ 3000 ปีก่อนคริสตกาล ในตำนานว่ากันว่าถูกสร้างขึ้นโดยใช้หินที่ส่งมาจากเวลส์ วงเสาหินที่ลี้ลับนี้เรียงตัวตามดวงอาทิตย์ท่ามกลางทุ่งราบกว้างใหญ่บนที่ราบซอลส์บรีในบริเวณตอนใต้ของเกาะอังกฤษ ประกอบด้วยแท่งหินขนาดยักษ์ 112 ก้อน ตั้งเรียงกันเป็นวงกลมซ้อนกัน 3 วง แท่งหินบางอันตั้งขึ้น บางอันวางนอนลง และบางอันก็วางซ้อนกัน สโตนเฮนจ์และบริเวณโดยรอบนี้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1986 เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางที่ยิ่งใหญ่และชวนสงสัย ใครกันนะที่สร้างอนุสรณ์ประวัติศาสตร์แห่งนี้ เพื่อจุดประสงค์สร้างขึ้นมาเพื่ออะไร หรือว่าจะเป็นปฏิทินยุคใหม่??
ห้ามพลาดแหล่งมรดกโลกอันงดงามนี้หากคุณได้มาเยือนที่อังกฤษ!!
ภาพจาก www.english-heritage.org.uk/visit/places/stonehenge
ที่อยู่ : Salisbury SP4 7DE, England
โทรศัพท์ : +44 370 333 1181
เว็ปไซต์ : english-heritage.org.uk
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 09.30-17.00 น. ปิด 24-25 ธ.ค.
แผนที่ : https://goo.gl/maps/mFPm7aiDAUqAerWL9
5. เจดีย์กระเบื้องเคลือบ (Porcelain Tower of Nanjing) ประเทศจีน
เจดีย์กระเบื้องเคลือบนานกิง ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำ Qinhuai เป็นหนึ่งในอาคารที่สูงที่สุดในประเทศจีน อาคารแห่งนี้สูงเก้าชั้นสูง 260 ฟุต บันไดเวียน 184 ขั้น ลักษณะเจดีย์มีรูปทรงแปดเหลี่ยม หลังคามุงด้วยกระเบื้องเคลือบสีเขียว ชายคาแขวนกระดิ่ง 80 ลูกโดยรอบ องค์เจดีย์ก่ออิฐประดับกระเบื้องเคลือบยอดแหลมเป็นทรงกลมต่อขึ้นไปเคลือบทอง เดิมองค์เจดีย์มีเพียง 3 ชั้น ถูกสร้างช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15 ในสมัยราชวงศ์หมิง ด้านนอกของหอคอยประกอบด้วยอิฐดินเผาสีขาวซึ่งสะท้อนแสงของดวงอาทิตย์ในแบบที่เป็นประกาย ในเวลากลางคืนมีการแขวนโคมไฟไว้ด้านนอกเพื่อส่องสว่างเพิ่มเติม ภูมิทัศน์ดอกไม้สัตว์และพระพุทธรูปประดับด้านข้างของหอคอยผ่านการตกแต่งด้วยหินและการเคลือบ หอคอยแห่งนี้จึงเป็นสถานที่สำคัญและเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่รู้จักกันดีมาหลายร้อยปี ถือว่าเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง ถึงแม้ว่าหอคอยจะเคยถูกทำลายไปในช่วงกบฏไทปิงในยุค 1850 แต่ในปี ค.ศ.2010 เอกชนได้บริจาคเงิน 1,000 ล้านหยวน (ประมาณ 156 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อสร้างปรับปรุงหอคอยแห่งนี้ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ซึ่งในปัจจุบันหอคอยแห่งนี้ได้เปลี่ยนจากสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางกลายสู่เจดีย์ยุคมิลเลนเนียม
หากมาเมืองจีนทั้งทีจะพลาดสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่จากเจดีย์ยุคมิลเลนเนียมได้อย่างไร!!
ภาพจาก www.culturedcreatures.co/porcelain-tower-of-nanjing และ CNN
ที่อยู่ : Saozhou Alley, Qinhuai District, Nanjing, Jiangsu, จีน
เว็ปไซต์ : https://en.wikipedia.org/wiki/Porcelain_Tower_of_Nanjing
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.30-17.00 น.
แผนที่ : https://goo.gl/maps/zWKFRPjGSv9R7mFY7
6. หอเอนเมืองปิซา (Torre Pendente di Pisa) ประเทศอิตาลี
สัญลักษณ์แห่งเมืองปิซ่า เป็นส่วนหนึ่งในจัตุรัสเปียซซา เดล ดูโอโม สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ได้รับรองขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกปี ค.ศ.1987 ตั้งอยู่ในเมืองปิซ่า ประเทศอิตาลี บนพื้นที่กลุ่มอนุสาวรีย์ที่เป็นที่รู้จักทั่วโลกอย่าง 4 ชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมยุคกลาง - มหาวิหาร พิธีศีลจุ่ม หอระฆัง(หอเอน) และสุสาน มีอิทธิพลอย่างมากต่อศิลปะอนุสรณ์สถานในอิตาลีตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ถึงศตวรรษที่ 14
หอเอนปิซ่าเป็นหอระฆังทรงกระบอก 8 ชั้น ของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เนื่องจากพื้นใต้ดินเป็นดินนิ่มทำให้หอระฆังยุบตัวเอนลงมาอย่างไม่ตั้งใจ ด้วยความที่ไม่เหมือนใครของหอระฆังหินอ่อนสีขาวนี้ ทำให้เราสนุกกับการสร้างสรรค์ไอเดียถ่ายรูปกับหอเอนปิซ่า และเที่ยวชมบริเวณจัตุรัสเปียซซา เดล ดูโอโม แห่งปิซ่าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
บิดาแห่งวิทยาศาสตร์ "กาลิเลโอ" ชาวอิตาเลียนชื่อดังเคยใช้หอเอนปิซาเพื่อทดสอบแรงโน้มถ่วงระหว่างที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยปิซา โดยทิ้งลูกบอลที่น้ำหนักไม่เท่ากัน 2 ลูก ทิ้งลงพื้น เพื่อพิสูจน์ว่าลูกบอล 2 ลูกนั้นจะตกถึงพื้นพร้อมกัน
ภาพจาก https://whc.unesco.org/en/list/395/gallery
ที่อยู่ : Piazza del Duomo, 56126 Pisa PI, อิตาลี
โทรศัพท์ : +39 050 835011
เว็ปไซต์ : www.opapisa.it/en
เวลาเปิด-ปิด : เช็คได้ที่นี่ www.opapisa.it/en/opening-and-closing-time
แผนที่ : https://goo.gl/maps/AG19rX6ZGHk6eSbB8
7. พิพิธภัณฑ์ ฮายาโซฟีอา (Ayasofya Museum) ประเทศตุรกี
เดิมเคยเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกมานานเกือบพันปีของคริสต์ศาสนานิกายอีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 532 ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นสุเหร่า ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ภายในประดับด้วยโมเสคแวววาว มีภาพแสดงจากคัมภีร์ไบเบิล มหาวิหารนี้ตั้งอยู่ที่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี ถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งและถูกจัดให้อยู่ในหนึ่งสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ถูกขึ้นทะเบียนโดยยูเนสโกปี ค.ศ.1985 จุดเด่นของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้อยู่ที่ยอดโดมขนาดมหึมากลางวิหาร เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามและทรงคุณค่าทางศิลปะที่ยิ่งใหญ่ เป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของประวัติศาสตร์โบราณคดีด้านสถาปัตยกรรมที่มีโดมข้างบนแขวนอยู่ในอากาศด้วยเสาหินอ่อนเสาหินและกระเบื้องโมเสคที่เป็นเอกลักษณ์ นอกเหนือจากสถาปัตยกรรมที่น่าประทับใจแล้ว ยังขึ้นชื่อเรื่องกระเบื้องเคลือบสลับสีที่ทำจากทองคำชุบเงินแก้วดินเผาและหินสี โมเสกเพดานดั้งเดิมในศตวรรษที่ 6 ที่น่าหลงใหลกับลวดลายดอกไม้และเรขาคณิต
หากได้มาสักครั้งก็ถือว่าคุ้มค่าแล้วที่จะเห็นจากกระเบื้องโมเสคถึงพระธรรมเทศนา...
ภาพจาก https://muze.gov.tr
ที่อยู่ : Sultan Ahmet, Ayasofya Meydani No.1, 34122 Fatih/Istanbul, ตุรกี
โทรศัพท์ : +90 212 522 17 50
เว็ปไซต์ : muze.gov.tr
เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 09.00-17.00 น.
แผนที่ : https://g.page/hagiasophiamuseum?share
8. ป้อมซิทาเดล (Salah El Din Al Ayouby Citadel) ประเทศอียิปต์
ป้อมปราการยุคกลางของอิสลามในกรุงไคโรประเทศอียิปต์ถูกสร้างขึ้นโดย Salah ad-Din เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง ตั้งอยู่บนแหลมของภูเขา Mokattam ใกล้ศูนย์กลางของกรุงไคโรซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐบาลในประเทศอียิปต์และเป็นที่พำนักของผู้ปกครองเป็นเวลาเกือบ 700 ปี จากศตวรรษที่ 13-19 เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สามารถมองเห็นเมืองและครองเส้นขอบฟ้า ปัจจุบันโบราณสถานแห่งนี้ได้รับการอนุรักษ์ไว้ทั้งพิพิธภัณฑ์และมัสยิดหลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือมัสยิดเศวตศิลาของมูฮัมหมัดอาลีปาชาร์ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดของป้อมปราการ ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าทำไมป้อมปราการนี้มีชื่ออยู่ในมัสยิด บางคนเชื่อว่าเพราะตำแหน่งของมัสยิดถูกใช้ในการประชุมสุดยอดของผู้นำ ขณะที่คนอื่นอ้างว่าเป็นเพราะมูฮัมหมัดอาลีปาชาร์เป็นคนสุดท้ายที่จะยึดอำนาจของป้อมปราการเมื่อเขานำมันจากมัมลุคในปี ค.ศ.1805
ภาพจาก https://en.wikipedia.org/wiki/Catacombs_of_Kom_El_Shoqafa
ที่อยู่ : Salah Salem St, El-Darb El-Ahmar, Cairo Governorate, อียิปต์
โทรศัพท์ : +20 2 25121735
เว็ปไซต์ : www.egypt.travel/en/attractions/salah-el-din-citadel-in-cairo
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.
แผนที่ : https://goo.gl/maps/chxYP1EbeaMa44tF9
9. อารามกลูว์นี (Abbaye de Cluny) ประเทศฝรั่งเศส
อารามกลูว์นีตั้งอยู่ที่เมืองกลูว์นี ประเทศฝรั่งเศส เป็นหนึ่งในศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดและเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางศาสนาที่ทรงพลังที่สุดของยุโรปตะวันตกในช่วงยุคกลางที่เริ่มก่อตั้งสำนักสงฆ์ตะวันตก สถาปัตยกรรมเป็นแบบโรมาเนสก์ มีโบสถ์ 3 หลัง ถูกสร้างขึ้นตามลำดับกันมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 10-12 ก่อนการสร้างมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในกรุงโรม อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในมหาวิหารที่ร่ำรวยที่สุด ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2560 มีนักโบราณคดีขุดค้นพบสมบัติพิเศษที่หายากมากจากสมัยกลางฝังอยู่ใต้ดินรวมกับเหรียญทองคำและเหรียญเงินกว่า 2,200 ชิ้น ใกล้พื้นที่อันเป็นเคยที่ตั้งของอารามกลูว์นี
หากคุณผ่าน Cluny อย่าลืมแวะชมซากประวัติศาสต์และร่องรอยอันงดงามที่โบสถ์มหาวิหารที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้กันนะคะ
ภาพจาก https://th-th.facebook.com/AbbayedeCluny
ที่อยู่ : Rue du 11 Aout 1944, 71250 Cluny, ฝรั่งเศส
โทรศัพท์ : +33 3 85 59 15 93
เว็ปไซต์ : www.cluny-abbaye.fr
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 09.30-17.00 น.
แผนที่ : https://goo.gl/maps/KHurGBNAg69wG6po8
10. อาสนวิหารอีลี (Ely Cathedral) ประเทศอังกฤษ
อาสนวิหารแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันในท้องถิ่นว่า “เรือแห่งเฟ็น” ตั้งอยู่ใจกลางเมืองประวัติศาสตร์ ล้อมรอบไปด้วยอาคารอารามยุคกลาง มีสวนสาธารณะและทุ่งหญ้าโดยรอบ เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการปิกนิคหรือนั่งเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์อันงดงาม มหาวิหารแห่งนี้เป็นหอคอยทรงแปดเหลี่ยมมีอายุมานานกว่า 900 ปี เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกว่าเป็นผลงานชิ้นเอกทางวิศวกรรมรูปแบบสถาปัตยกรรมเป็นแบบโรมาเนสก์ แบบกอทิก แบบนอร์มัน และแบบกอทิกอังกฤษ มีพิพิธภัณฑ์กระจกสีอยู่ด้านใน และหอคอยบันได 288 ขั้น ด้วยความงามทางสถาปัตยกรรมและความสำคัญทางประวัติศาสตร์โบสถ์แห่งนี้ทำให้มีชื่อเสียงดังไปทั่วโลกและมหาวิหารแห่งนี้ยังเป็นหนึ่งในมหาวิหารที่เหลือเพียงไม่กี่แห่งที่ยังมีคณะนักร้องประสานเสียงประจำถิ่นพร้อมคอนเสิร์ตและบทเพลงมากมายให้ได้ฟัง
นักท่องเที่ยวจำนวนมากนิยมแวะมาเยี่ยมชมอาสนวิหารอิลีทุกปีจากทั่วทุกมุมโลกปีละประมาณ 250,000 คน สำหรับผู้ที่ชื่นชอบสถาปัตยกรรมสวยๆ บอกเลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอนหากได้มาที่นี่
ภาพจาก https://en.wikipedia.org/wiki/Ely_Cathedral
ที่อยู่ : Chapter House, The College, Ely CB7 4DL สหราชอาณาจักร
โทรศัพท์ : +44 1353 667735
เว็ปไซต์ : www.elycathedral.org
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 07.00-18.30 น. วันอาทิตย์ เวลา 07.00-17.30 น.
แผนที่ : https://goo.gl/maps/JtqTubKxzJ9mC5UEA
11. ทัชมาฮาล (Taj Mahal) ประเทศอินเดีย
เป็นสุสานหินอ่อนสีขาวขนาดมหึมาสร้างขึ้นในอักกราในช่วงปี ค.ศ.1631-1648 ตามคำสั่งของจักรพรรดิโมกุลชาห์จาฮาน ทัชมาฮาลแห่งนี้เป็นอัญมณีแห่งศิลปะมุสลิมในอินเดีย และเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ถูกขึ้นทะเบียนโดยยูเนสโกปี ค.ศ.1983 และยังได้รับการยกย่องว่าเป็นความสำเร็จทางสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสถาปัตยกรรมอินโด-อิสลามทั้งหมด ความเป็นเอกลักษณ์และความงามของสถาปัตย์ที่เป็นที่รู้จักนั้นมีการผสมผสานระหว่างของแข็งและช่องว่างเว้าและนูนและแสงเงา อย่างเช่นโค้งและโดมเพิ่มเติมเพิ่มความงามด้าน การผสมสีของภูมิประเทศสีเขียวชอุ่มเขียวชอุ่มและท้องฟ้าสีฟ้าแสดงให้เห็นถึงอนุสาวรีย์ในการเปลี่ยนสีและอารมณ์
ทัชมาฮาลเปรียบเสมือนอนุสรณ์สถานแห่งความรักที่ถูกสร้างขึ้นจากความรักของสมเด็จพระจักรพรรดิชาห์ชะฮันที่มีต่อพระนางมุมตัซ มาฮาล พระมเหสีของพระองค์
เพื่อใช้เป็นอนุสาวรีย์ฝังศพของพระมเหสีหลังจากสิ้นพระชนม์เพราะให้กำเนิดทายาทองค์ที่ 14 ด้วยความโศกเศร้านี้ทำให้พระองค์สละราชสมบัติเพื่อสร้างทัชมาฮาลนานกว่า 22 ปี
หากได้มาอินเดีย อย่าลืมแวะชมทัชมาฮาล อนุสรณ์แห่งความรักของทั้งสองพระองค์กันนะคะ
ภาพจาก https://whc.unesco.org/en/list/252/gallery
ที่อยู่ : Dharmapuri, Forest Colony, Tajganj, Agra, Uttar Pradesh 282001 อินเดีย
โทรศัพท์ : +91 562 222 7261
เว็ปไซต์ : www.tajmahal.gov.in
เวลาเปิด-ปิด : วันเสาร์-วันพฤหัสบดี เวลา 06.00-18.30 น. ปิดทุกวันศุกร์ และเปิดวันพระจันทร์เต็มดวงตอนกลางคืน เวลา 08.30 – 00.30 น.
แผนที่ : https://goo.gl/maps/RCKQWNUTu8538Dpp9
ขอบคุณข้อมูลจาก
- https://th.wikipedia.org/wiki
- https://whc.unesco.org/en
- www.worldatlas.com/articles
วาติกัน (Vatican City) เมืองจิ๋ว แต่เสน่ห์ล้นเหลือ
แชร์ บทความนี้
พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้