ปักหมุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่เกาหลี 

ในช่วงเดือนตุลาคม - พฤศจิกายนของทุกปี จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อย เดินทางไปชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่เกาหลีกันในหลาย ๆ เมือง เพื่อสัมผัสบรรยากาศที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ไว้อย่างสวยงาม เป็นฤดูที่โรแมนติกสุด ๆ บวกกับอากาศกำลังดี เย็นสบาย  ช่วงปลายปีแบบนี้ ทริปชมใบไม้เปลี่ยนสีสักแห่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดเลยล่ะ และที่เกาหลีก็เป็นอีกประเทศที่มีจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีอยู่หลายแห่งมาก แล้วจุดไหนที่เป็นแลนด์มาร์คของเมือง จุดไหนถ่ายรูปสวยปัง จุดไหนตามรอยซีรี่ย์เกาหลีที่โด่งดัง สถานที่ไหนเป็นที่นิยมในหมู่นักเดินทาง คัดมาให้ได้เลือกชมแล้วที่นี่เลย

1. พระราชวังถ็อกซูกุง (Deoksugung Palace)

พระราชวังถ็อกซูกุง ตั้งอยู่ในย่านใจกลางกรุงโซล ภายในเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่สำคัญของเกาหลี และในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ต้นไม้ ใบไม้จะมีสีสันสวยงามเรียงรายกัน เป็นวิวถ่ายภาพที่สวยงามไม่น้อยเลยทีเดียว ใกล้ๆกันคือ ถนนจองดองกิล  (Jeongdong-gil)  อยู่เลียบกับกำแพงหินของพระราชวังถ็อกซูกุง เป็นถนนแห่งมรดกทางวัฒนธรรมและมีร่องรอยของประวัติศาสตร์อันยาวนานของเกาหลี ที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย เป็นสถานที่ที่สวยที่สุดในกรุงโซลและได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลกรุงโซลว่าเป็น “ถนนสายสวยแห่งการเดิน” ในปีพ. ศ. 2542 อีกด้วย
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 1, 2 ลงที่สถานี City Hall Station ใช้ทางออกที่ 1, 2, 3

2. อินชอนแกรนด์พาร์ค (Incheon Grand Park)

อินชอนแกรนด์พาร์ค เป็นสวนสาธารณะในเขตเมือง ที่มีความร่มรื่นและสวยงาม เหมาะแก่การมาพักผ่อน เดินชมบรรยากาศของธรรมชาติในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีเป็นอย่างมากอีกแห่งหนึ่ง
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 1 ลงสถานี  Songnae Station ทางออกที่ 1 จากนั้นขึ้นรถบัสประจำทางหมายเลขรถ  103, 16-1, 909 ต่อมาลงที่  Inchen Grand Park

3. วัดฮวาออมซา (Hwaeomsa Temple)

วัดฮวาออมซา เป็นวัดที่มีประวัติศาวตร์ยาวนาน ภายในมีสิ่งปลูกสร้างที่มี ความสำคัญมากมายที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมแห่งชาติ  เก็บไว้หลายชิ้น ด้วยตัววัดตั้งอยู่บนเขา Jirisan Mountain และในระหว่างการเดินทางขึ้นเขาก็จะมีทิวทัศน์ของใบไม้สีสันสวยสดใสปกคลุมไปทั่วทั้งภูเขา เป็นบรรยากาศที่โรแมนติคที่สุด เหมาะมากที่จะไปเที่ยวชมพร้อมกับเก็บภาพความสวยงามนี้ไว้
การเดินทาง : นั่งรถไฟจาก Youngsan ไปลงที่สถานี  Gurye-gu จากนั้นขึ้นรถประจำทางไปลงที่ป้าย Hwa-eomsa Temple

4. มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา(Ewha womans university)

มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา เป็นสถาบันการศึกษาสำหรับผู้หญิง แห่งแรกของเกาหลีใต้ ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2429ถูกล้อมรอบบริเวณด้วยต้นไม้สีสันต่างๆ ปัจจุบันเป็นย่านช้อปปิ้งยอดนิยมแห่งหนึ่งของกรุงโซลด้วย มีร้านขายเสื้อผ้า สินค้าแฟชั่นต่างๆราคาไม่แพงและทันสมัย ทั้งนี้สามารถเดินชมใบไม้เปลี่ยนสีแล้วยังสามารถเดินช้อปปิ้งควบคู่กันไปได้อีกด้วย
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 2 ลงที่สถานี  Ewha Womans University ใช้ทางออกที่ 2,3

5. เขาบุคฮันซาน (Bugaksan Mountain)

เขาบุคฮันซาน เป็นเทือกเขาเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในกรุงโซล และเป็นอีกจุดหนึ่งที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองได้อย่างสวยงาม จุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของภูเขาแห่งนี้ก็คือ ยอดเขาหินแกรนิต โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วง จะมีต้นไม้สีสันต่างๆปกคลุมทั่วทั้งเขา ราวกับภาพวาดที่ถูกแต่งแต้มสีสันที่หลากหลาย
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 3 ลงที่สถานี Gyeongbokgung Palace ใช้ทางออกที่ 3 จากนั้นให้ขึ้นรถประจำทาง สายสีเขียว หมายเลขรถ 1020, 7022, 7212, ลงที่สถานี  Jahamun Gate Hill

6. สวนสาธารณะนัมซาน (Namsan Park)

สวนสาธารณะนัมซาน เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ในกรุงโซล จากที่แห่งนี้เราจะสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์มุมกว้างได้ทั้งเมือง อีกทั้งยังสามารถเดินทางขึ้นไปชมวิวจากบนยอดเขานัมซานได้โดยเคเบิ้ลคาร์ ผู้คนนิยมมาชมพระอาทิตย์ตกดิน และเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวยามค่ำคืนของโซลอีกด้วย เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันตระการตาจากต้นไม้ ใบไม้หลากสีสันอีกด้วย
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 4 ลงที่สถานี  Chungmuro Station ใช้ทางออกที่  4 จากนั้นขึ้นรถโดยสารประจำทาง สายสีเหลือง หมายเลข 02 ไปลงที่ป้าย Namsan Library

7. พระราชวังเคียงบกกุง และศาลาริมน้ำฮยางวอนจอง (Gyeongbokgung palace)

พระราชวังเคียงบกกุง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์เกาหลี ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะมีความงดงามมากเป็นพิเศษว่าช่วงเวลาอื่น เพราะมีสีสันของบรรดาต้นไม้นานาพรรณ อาทิ เช่น แปะก๊วย เมเปิ้ล ทำให้ที่นี่ดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น ที่ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่มีบริการให้เช่าชุดฮันบก ชุดประจำชาติเกาหลี เพื่อใช้ถ่ายรูปในมุมต่างๆของพระราชวังฯ อีกด้วย นอกจากนั้นบริเวณนี้ยังมี ศาลาริมน้ำ ฮยางวอนจอง เป็นศาลาสองชั้นแบบหกเหลี่ยม ที่สร้างขึ้นบนเกาะเล็ก ๆ ที่อยู่ตรงกลางของทะเลสาบในบริเวณตอนเหนือของพระราชวังฯ และยังมีสะพานไม้ที่มีชื่อเรียกว่า สะพานชวีฮังเกียว (Chwihyanggyo Bridge) เป็นสะพานที่ใช้เดินข้ามไปยังศาลาฮยางวอนจอง มีความงดงามมากไม่แพ้กัน เพราะที่นี่ถูกห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้หลากสีสัน สวยสะดุดตา ไม่ควรพลาดเก็บความประทับใจ
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 3 ลงสถานี  Gyeongbokgung Station ใช้ทางออกที่ 5

8. พระราชวังช็องด็อกกุงและฮูวอน(Changdeokgung Palace and Huwon)

พระราชวังช็องด็อกกุง เป็นพระราชวังที่สำคัญและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ในเดือนธันวาคม ปี 1997 ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม โดยคณะกรรมการมรดกโลกทางวัฒนธรรมของ UNESCO อีกด้วย พื้นที่ภายในพระราชวังแห่งนี้ มีสวนที่ถูกจัดสร้างขึ้นไว้อย่างสมบูรณ์และสวยงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้เปลี่ยนสีที่แห่งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวยอดนิยมของเกาหลีอีกด้วย
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 3 ลงที่สถานี Anguk ใช้ทางออกที่  3

9. อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน (seoraksan national park)

อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน ตั้งอยู่ในเมืองซกโช จังหวัดคังวอนโด ทางฝั่งตะวันออกของเกาหลี พื้นที่แห่งนี้ถูกโอบล้อมไปด้วยขุนเขาและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ตามฉายา “สวิตเซอร์แลนด์เกาหลี” ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง บรรดาต้นไม้ต่าง ๆ ที่อยู่รอบ ๆ จะพากันเปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีส้ม แดง เหลือง สวยงามสลับกันทั่วทั้งภูเขาเลย หากอยากชมทิวทัศน์ของขุนเขาแบบ 360 องศา สามารถโดยสารเคเบิ้ลคาร์ขึ้นไปชมวิวบนยอดเขาได้
ค่าเคเบิ้ลคาร์: Round Trip ผู้ใหญ่ 10,000 วอน และ เด็ก (อายุต่ำกว่า 14 ปี) 6,000 วอน
การเดินทาง : ขึ้นรถโดยสารประจำทางที่สถานี Dong Seoul Bus Terminal (หรือจะขึ้นรถไฟใต้ดินสาย 2 สีเขียว ลงสถานี Gangbyeon ก็ได้) ไปลงยังสถานี Sokcho Intercity Bus Terminal แล้วโดยสารรถเมล์สาย 7 หรือ 7-1 ลงที่ป้ายสุดท้าย Seoraksan Sogongwon

10. เกาะนามิ (Nami Island)

เกาะนามิ เป็นเกาะเล็กๆ รูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว ช่วงที่สวยที่สุดคงหนีไม่พ้นฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เพราะเจ้าต้นแปะก๊วยที่ปลูกเรียงรายอยู่ตามทางเดิน จะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด ยาวสุดสายตา รวมไปถึงต้นเมเปิ้ลและต้นไม้อื่น ๆ ด้วยก็จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้มและแดง กระจายอยู่ทั่วทั้งบริเวณเกาะนามิแห่งนี้ ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเดินเล่นชมวิว ถ่ายรูป ขี่จักรยาน หรือจะนั่งปิกนิกทานอาหารก็มีมุมให้ได้พักผ่อนหย่อนใจหลายจุดเลยทีเดียว
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย Gyeongchun มาลงที่สถานี Gapyeong แล้วต่อรถบัสที่ด้านหน้าสถานีรถไฟ หรือแท็กซี่ไปที่ ท่าเรือเฟอร์รี่ข้ามฟาก ตามตารางเวลาดังนี้ เวลา 07.30 – 09.00 น. (เรือออกทุกๆ 30 นาที) // เวลา 09.00 – 18.00 น. (เรือออกทุกๆ 10 - 20 นาที) // เวลา 18.00 – 21.40 น. (เรือออกทุกๆ 30 นาที) *ตารางเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงช่วงเทศกาล

11. สะพานแขวนมาจังโฮซู (Majanghosu Bridge)

สะพานแขวนมาจังโฮซู แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของเมืองพาจู เป็นสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในเกาหลี มีความยาวถึง 220 เมตร และกว้าง 1.5 เมตร สามารถรองรับคนได้ถึง 1,280 คน และทนต่อแผ่นดินไหวขนาด 7 ริคเตอร์ ต่อมาถูกการรีโนเวทเป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติในรูปแบบ Outro Theme Park มีกิจกรรมต่าง ๆ เช่น เส้นทางปีนเขา พื้นที่แคมปิ้ง กิจกรรมทางน้ำ หอดูดาว คาเฟ่และร้านอาหารมากมาย บนเนื้อที่กว่า 200,000 ตารางเมตรของทะเลสาบมาจัง เหมาะแก่การชมใบไม้เปลี่ยนสีหลากสีสัน ชิลล์รับลม สูดอากาศแสนบริสุทธิ์ริมทะเลสาบ
การเดินทางวันหยุด : นั่งรถไฟสาย Gyeongui Jungang Line ไปลงที่สถานี Unjeong ใช้ทางออกที่ 1 ขึ้นรถเมล์ที่ป้าย สาย7500 ไปลงที่ป้ายสุดท้าย คือ ทะเลสาบมาจัง (รถสาย7500 จะเดินรถแค่วันหยุดเท่านั้น)
วันธรรมดา : นั่งรถไฟสาย 3 ไปลงที่สถานีWonheong ใช้ทางออกที่ 2  ขึ้นรถเมล์ที่ป้ายสาย313-1 รถจะไปจอดที่ป้ายหน้าทะเลสาบ

ช่วงเวลาแห่งการท่องเที่ยวใกล้จะเดินทางมาถึงแล้ว อดใจรอชมความสวยงามอีกนิด แค่คิดก็ฟินสุด ๆ ไปเลย ไม่ว่าจะเป็น อากาศเย็น ๆ สบาย ๆ เดินเล่นชิลล์ ๆ ชมความงานของธรรมชาติที่ถูกแต่งแต้มสีสันอย่างลงตัวและสวยงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ นอกจากจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่เกาหลีแล้ว ยังมีจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยๆ เหมาะสำหรับการเที่ยวชมความงามนั้น ยังมีอีกหลายแห่งบนโลกใบนี้ที่พร้อมจะอวดโฉมสีสันอันตระการตา รอการไปเที่ยวชมของนักเดินทางอย่างคุณ หากพร้อมแล้วเตรียมตัวให้ดีแล้วจองตั๋วเครื่องบิน / ที่พักแล้วไปลุยกันเลย ย ยย!!

ตามรอยซีรีส์เกาหลี Kingdom กับสถานที่สำคัญในการถ่ายทำ

แชร์ บทความนี้

พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้