เทรนด์การเที่ยวแบบ Distance หลังยุคโควิด

ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้คนระวังตัวกันมากขึ้น การพบปะกันเป็นเรื่องยาก และแน่นอนว่าเทรนด์การเที่ยวหลังยุคโควิดได้ปรับเปลี่ยนไป เทรนด์คนจะเที่ยวแบบ Distance มากขึ้น ซึ่งเป็นการรักษาระยะห่าง แต่ก็ยังสามารถเที่ยวได้ เราลองมาดูกันว่าเมื่อหลังจบโควิดจะเกิดการเที่ยวรูปแบบไหน

นั่งเครื่องบินแบบ Distance

การนั่งเครื่องบินมีการรักษาระยะห่างระหว่างที่นั่ง ที่นั่งจะโล่งขึ้น รวมไปถึงมาตราการรักษาความปลอดภัยบนเครื่องบินที่จะมีมากขึ้น เพื่อให้เรามั่นใจในการเดินทางมากขึ้น รวมไปถึงที่นั่งภายในสนามบินที่มีการเว้นระยะห่างของที่นั่งเช่นกัน

ธรรมชาติฟื้นตัว เที่ยวเชิงอนุรักษ์ จำกัดจำนวนคน

หลังจากที่เกิดเหตุการณ์โควิด และทำให้นักท่องเที่ยวลดน้อยลงตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะธรรมชาติ อย่างป่า ทะเล มีการฟื้นตัวขึ้นมา เหล่าสัตว์หายากก็มีการเพิ่มจำนวน ที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็น เราได้เห็นเต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่ เห็นปลาโลมาแหวกว่ายกันถี่ขึ้น นับเป็นสัญญาณที่ดีที่ธรรมชาติได้กลับคืนมา การเที่ยวก็เป็นแบบเชิงอนุรักษ์ และการจำกัดจำนวนคนเข้าชมในแต่ละวัน ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวไม่แออัด เป็นการรักษาระยะห่างไปในตัว

สถานที่ท่องเที่ยว แบบ Distance

จะมีการเปลี่ยนจุดหมายปลายทางในการท่องเที่ยว ไม่ไปตามจุดแลนด์มาร์กหรือที่เที่ยวเดิมๆ เพื่อหลีกเลี่ยงคนเยอะ คนจะมองหาที่เที่ยวแบบโลคอลมากขึ้น หรือเที่ยวแบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น เที่ยวเชิงผจญภัย เที่ยวเชิงวัฒนธรรม เที่ยวเชิงสุขภาพ เที่ยวเชิงอาหาร ทำให้กลุ่มคนที่ท่องเที่ยวกระจายไปยังจุดต่างๆ ไม่แออัดในสถานที่เดียว

คนไม่เที่ยวแบบทัวร์ เพราะคนเยอะ

จากการเที่ยวแบบเดิมๆ ที่คนเคยไปเที่ยวแบบทัวร์ ก็จะคิดกันมากขึ้นว่าหากไปแบบทัวร์ก็ต้องไปกับคนเยอะๆ มีโอกาสที่จะเจอคนแปลกหน้ามากกว่าปกติ และมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโรคมากขึ้น 

การเที่ยวรูปแบบทัวร์แต่ลดจำนวนคนเดินทาง

หลายคนยังต้องการการท่องเที่ยวในรูปแบบทัวร์ ที่มีการจัดการวางแผนการเดินทางให้ เช่น ตั๋วเครื่องบิน โรงแรม แพลนในการเดินทางท่องเที่ยวในแต่ละวัน ซึ่งต้องเข้าใจว่าไม่ใช่ทุกคนจะเที่ยวเองเป็น ยังคงต้องการบริการในรูปแบบทัวร์ แต่จำกัดจำนวนคนเดินทางให้เล็กลง แบบที่ไม่ต้องร่วมเดินทางกับผู้อื่น แต่ก็มีความสะดวกสบายเหมือนเดิม

คนจะเที่ยวกันเองมากขึ้น

เมื่อคนไม่อยากเที่ยวรวมกับคนอื่น คนก็อยากจะเที่ยวกันเองมากขึ้น ไม่ว่าจะไปคนเดียว ไปกับครอบครัว หรือไปกันเฉพาะเพื่อนๆ ในกลุ่ม ซึ่งจะลดความเสี่ยงในการที่ไปเที่ยวรวมกับคนอื่น และการไปกันเองสามารถแพลนได้ว่าจะไปที่ไหน เมื่อเจอสถานที่ที่มีผู้คนเยอะๆ สามารถหลีกเลี่ยงไปเส้นทางอื่นๆ ได้

สรุปแล้ว เทรนด์การเที่ยวแบบ Distance คนจะหันมาเที่ยวกันเองและเที่ยวแบบส่วนตัวมากขึ้น เพราะฉะนั้นหากเราจะวางแผนเที่ยวแบบ Distance ด้วยแล้วควรเลือกการเดินทางแบบส่วนตัว และถ้าไม่อยากแพลนเองก็สามารถจัดกรุ๊ปเที่ยวเองแบบกรุ๊ปเล็กๆ ที่ไม่ต้องรวมกับใคร จะได้เที่ยวได้แบบสบายใจ

ชี้พิกัด 10 ที่เที่ยวยกแก๊งค์

แชร์ บทความนี้

พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้