Travel Bubble กับการท่องเที่ยวยุคใหม่
การเปิดประเทศให้เที่ยวทั่วโลกคงจะดูอันตรายเกินไป ดังนั้นจึงมีการจัดการรูปแบบการท่องเที่ยวยุคใหม่ ให้สามารถเดินทางได้ง่ายขึ้นนั่นก็คือการท่องเที่ยวแบบ Travel Bubble
Travel Bubble คืออะไร
ทราเวลบับเบิ้ล เป็นอีกหนึ่งวิธีการรวมตัวกันของกลุ่มประเทศเพื่อแก้ปัญหาการท่องเที่ยวหลังจากเกิดเหตุการณ์วิกฤตของไวรัสโคโรน่า ซึ่งการท่องเที่ยวแบบนี้เป็นการเดินทางกันเองในประเทศที่จัดการกับโควิดได้ ซึ่งประชากรของประเทศที่ตกลงร่วมกันนั้นก็จะสามารถเดินทางเข้าออกได้โดยมีความยืดหยุ่นในการเดินทางมากกว่า เช่น ไม่ต้องกักตัว 14 วัน ทั้งตอนเดินทางไปถึง และตอนเดินทางกลับถึงประเทศตัวเอง เป็นต้น ซึ่งอาจจะต้องมีมาตรการควบคุมต่างๆ ที่ตกลงกันเองในกลุ่มประเทศของตัวเอง
ประเทศไหนที่เริ่มแนวคิดท่องเที่ยวแบบ Travel Bubble
อาจจะไม่ใช่ประเทศที่เป็นผู้เริ่มต้นแนวคิด และเห็นภาพได้ชัดเจนที่สุดคือประเทศ นิวซีแลนด์ และ ออสเตรเลีย โดยทั้งสองเป็นประเทศที่มีความใกล้ชิดกัน ที่ผ่านมาทั้งสองประเทศก็ไปมาหาสู่กันเป็นปกติอยู่แล้ว จึงเอื้ออำนวยให้สามารถใช้วิธีการนี้ร่วมกันได้ ทั้งระยะทางที่ห่างกันเพียง 2,000 กิโลเมตรเพียงแค่น้ำกั้น การเดินทางโดยไม่ต้องขอวีซ่า แถมในนิวซีแลนด์มียอดนักท่องเที่ยวที่มาจากออสเตรเลียมากถึง 1.5 ล้านคนต่อปี ออสเตรเลียก็เช่นกัน มียอดนักท่องเที่ยวที่มาจากนิวซีแลนด์มากถึง 1.4 ล้านคนต่อปี
มาตรการ Travel Bubble ของออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์นั้น จะสามารถเดินทางไปมาหากันได้โดยไม่ต้องกักตัว แต่จะต้องแสดงประวัติทางด้านสุขภาพของตนเองว่าไม่ป่วยด้วยโควิด-19 ซึ่งนี่เป็นเพียงการเตรียมการเบื้องต้น เพราะจะใช้จริงก็เดือนกันยายน ซึ่งถ้าหากแผนนี้ของทั้งสองประเทศได้ผลดี ก็จะขยายไปยังประเทศอื่น เช่น แคนาดา และประเทศในแถบเอเชียอย่าง จีน ฮ่องกง ไต้หวัน และเกาหลีใต้
และอีกหลายกลุ่มประเทศที่คาดว่าจะร่วมมือกัน
- ประเทศในกลุ่มทะเลบอลติก: เอสโตเนีย แลตเวีย และลิทัวเนีย เดินทางได้โดยไม่กักตัว
- ประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวีย: เดนมาร์ก เยอรมนี นอร์เวย์ ฟินแลนด์ ยกเว้นสวีเดนที่ยังเกิดการระบาดอยู่ (เริ่ม 15 มิ.ย.)
- แคนาดา สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน เวียดนาม และเกาหลีใต้
- จีน-เกาหลีใต้, จีน-ไต้หวัน, จีน-ฮ่องกง, จีน-มาเก๊า
- จีน-สิงคโปร์ (เริ่ม 8 มิ.ย.) เริ่มต้นกับกลุ่มธุรกิจ 6 เมืองในจีน คือ เซี่ยงไฮ้ เทียนจิน ฉงชิ่ง กว่างตง เจียงซู และเจ้อเจียง
- สิงคโปร์ ออสเตรเลีย แคนาดา และนิวซีแลนด์
- สาธารณรัฐเชค ออสเตรีย สโลวาเกีย โครเอเชีย
- เยอรมนี ฝรั่งเศส ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ (เริ่ม 15 มิ.ย.)
- กลุ่ม 29 ประเทศ: อัลบาเนีย ออสเตรเลีย ออสเตรีย มาซิโดเนียเหนือ บัลกาเรีย เยอรมนี เดนมาร์ก สวิตเซอร์แลนด์ เอสโทเนีย ญี่ปุ่น อิสราเอล จีน โครเอเชีย ไซปรัส แลตเวีย เลบานอน นิวซีแลนด์ ลิทัวเนีย มอลตา มอนเตเนโกร นอร์เวย เกาหลีใต้ ฮังการี โรมาเนีย เซอร์เบีย สโลวาเกีย สโลวีเนีย สาธารณรัฐเชค และ ฟินแลนด์
- และอีกหลายประเทศที่กำลังเจรจากันอยู่
แนวโน้มของไทยที่จะใช้วิธี Travel Bubble กับประเทศอื่น
ประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ทั่วโลกคาดว่าจะเข้าร่วมเจรจา Travel Bubble กับอีกหลายๆ ประเทศในเร็วๆ นี้ เนื่องจากมองว่าไทยควบคุมสถานการณ์ไวรัสโคโรน่าได้ดีและคงจะเปิดประเทศในไม่ช้า ประเทศที่มองว่าสามารถทำร่วมกันได้ เช่น ไทย-จีน, ไทย-เวียดนาม, จีน พม่า ไทย ลาว, ไทย-เกาหลี และคาดว่าจะมีการ travel bubble กับประเทศอื่นหลังจากเปิดประเทศ ประมาณเดือน ส.ค.-ก.ย.
ทั้งนี้การเปิดประเทศ หรือจะทำ Travel Bubble ก็แล้วแต่ คงต้องดูข้อดีข้อเสียที่จะเกิดขึ้น และหากว่าเราจะเดินทางก็ยังคงต้องดูแลตัวเองให้ดี และปฏิบัติตามกฏระเบียบของแต่ละประเทศ และหวังว่าเมื่อเหตุการณ์สงบลง เราจะกลับมาเที่ยวได้ปกติอีกครั้ง
EUROPEAN SAFEST DESTINATIONS 2020 สถานที่เที่ยวยุโรปที่ปลอดภัยที่สุดหลังยุคโควิด
แชร์ บทความนี้
พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้