เที่ยวอย่างไรให้ปลอดภัย หลังวิกฤตโควิดผ่านไป
คุณกำลังวางแผนท่องเที่ยวครั้งต่อไปอยู่หรือเปล่า? แต่ถึงแม้ว่าสถานการณ์ไวรัสโคโรน่าหรือโควิด-19 ดีขึ้นมาก แต่ก็ยังไม่คลี่คลายซะทีเดียว รวมไปถึงประเทศอื่นๆ ที่ยังไว้วางใจไม่ได้ เพราะฉะนั้นหากคุณมีแพลนไปเที่ยวต่างประเทศแล้วล่ะก็ ต้องเตรียมตัวป้องกันไว้ก่อน เที่ยวอย่างไรให้ปลอดภัยหลังโควิด มาดูกัน...
เลือกเที่ยวในประเทศ
อย่างประเทศไทยของเรานั้นถือว่ามีการจัดการโควิดได้ดี อันตราการติดเชื้อลดลง คนเริ่มทยอยหายป่วยกันมากขึ้น หลายแห่งคลายล็อคดาวน์ได้แล้ว หลายคนจึงเลือกเดินทางท่องเที่ยวใกล้ๆ แค่เพียงในประเทศ ซึ่งถือว่าป้องกันตัวเองได้ดี
เลือกประเทศที่จัดการโควิดได้ดี
แล้วถ้าเราอยากไปเที่ยวต่างประเทศล่ะ หลายคนที่จองตั๋วไว้ก็เลื่อนตั๋วออกไปแล้วรอโอกาสได้เดินทางอีกครั้ง บางคนแพลนทริปล่วงหน้ามานานเป็นปี ลองเลือกเที่ยวประเทศที่มีระบบบริหารจัดการกับโควิดได้ดี ยิ่งตอนนี้หลายๆ ประเทศได้มีการร่วมมือกันทำ travel bubble ด้วยแล้ว ยิ่งเป็นโอกาสดีที่เราจะได้เที่ยวแบบปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าในไม่ช้าประเทศไทยอาจจะได้มีการร่วม travel bubble กับประเทศอื่น อีกตัวเลือกหนึ่งคือประเทศหรือเมืองที่ไม่มีผู้ติดเชื้อเลย หรือไม่พบจำนวนผู้ติดเชื้อแล้ว ซึ่งก็มีอยู่จำนวนหนึ่ง แต่ต้องดูมาตรการของประเทศหรือเมืองนั้นๆ ด้วย
ป้องกันตัวเอง
ถึงจะอย่างงั้นก็เถอะ เพื่อความปลอดภัยในตัวเราเอง รวมไปถึงเมื่อกลับมาแล้วมั่นใจได้ว่าไม่ได้เอาอันตรายกลับมาฝากคนที่บ้าน เราก็ต้องเตรียมพร้อมรับมือกันตั้งแต่ตัวเรา ทั้งหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ หรืออุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ เตรียมไว้ให้ครบ ลองเช็คกับสายการบินดูดีๆ บางสายการบินอนุโลมให้ใช้ปริมาณได้มากกว่า 100 ml. ในช่วงนี้ แต่ก็ต้องดูว่าเค้าจำกัดอยู่ที่เท่าไหร่ แล้วยังมีส่วนอื่นๆ อีกที่ต้องเตรียมเช่น เครื่องแต่งกาย ถุงมือ เสื้อคลุม เป็นต้น และถ้าหากยังไม่ได้ล้างมืออย่าเผลอเอามือไปจับตา จมูก ปาก
เลือกโรงแรมที่สะอาด ได้มาตรฐาน
ถ้าเป็นเครื่องบินคงไม่ต้องพูดถึงมาก เพราะแต่ละสายการบินมีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยได้ดีมากทีเดียว แต่ในส่วนของโรงแรมนั้นมีอยู่มากมาย หลายแบบ หลายขนาด หลายดาวไปอีก เพราะฉะนั้นก็ต้องเลือกแบบพิถีพิถันกันหน่อย โรงแรมหลายแห่งมีมาตรการรักษาความสะอาดที่เข้มงวดมากขึ้น ทั้งการฉีดยาฆ่าเชื้อ การทำความสะอาดทุกๆ ชั่วโมง ทุกวัน เป็นต้น ซึ้งบางโรงแรมจะมีป้ายติดเลยว่าผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว งดเลือกโรงแรมที่ต้องพักรวมกับผู้อื่น อย่างเช่น hostel ก็ต้องดูว่าที่นั้นเค้ามีการดูแลความสะอาดยังไง หรือบ้านพักสะอาดมากแค่ไหน ตรงนี้ต้องเลือกให้ดีๆ
หลีกเลี่ยงอาหารที่ต้องใช้มือจับ
บางทีเราไปต่างประเทศต่างถิ่นที่คุ้นเคย ก็อยากจะลองลิ้มรสอาหารแปลกใหม่ของเจ้าถิ่นบ้าง ก็ควรเลี่ยงอาหารที่ต้องใช้มือจับ หากอยากจะจับก็ควรล้างมือให้เรียบร้อย และควรดูว่าร้านอาหารสะอาดแค่ไหน เช่น มีการล้างมือ หรือใส่ถุงมือ เป็นต้น
รักษาระยะห่าง
รักษาระยะห่างกับผู้อื่น ถ้าให้ดีควรห่าง 2 เมตร ในสถานที่ท่องเที่ยว หรือแม้แต่ห้างร้านต่างๆ หลีกเลี่ยงฝูงชน สถานที่ที่มีคนรวมตัวกันเยอะๆ ซึ่งก็น่าจะกลายเป็นกฏมาตรฐานของหลายๆ แห่งไปแล้ว
มองหาที่เที่ยวใหม่ๆ
เมื่อที่เที่ยวเดิมๆ มันแออัดจนเกินไป โดยเฉพาะสถานที่ที่เป็นแลนด์มาร์กต่างๆ ก็ควรดูว่ามีคนไปเยอะหรือไม่ ต้องแน่ใจว่าไม่แออัดจนเกินไป และถ้าให้ดีก็ควรมองหาทีเที่ยวใหม่ๆ ที่ห่างไกลจากผู้คนที่วุ่นวาย เช่น ป่าเขา ทะเลสงบๆ หรือที่เที่ยวเล็กๆ แบบโลคอล ที่เรายังไม่เคยไปมาก่อน ไม่แน่ว่าเราอาจจะเจอสานที่ประทับใจแห่งใหม่ที่ดีกว่าเดิมก็เป็นได้
เลือกเที่ยวแบบส่วนตัว
ไม่ดีแน่ถ้าเราต้องเที่ยวกับกลุ่มคนเยอะๆ ซึ่งอาจจะควบคุมไม่ได้ว่าคนเหล่านั้นได้เป็นพาหะของเชื้อโรคที่เรากำลังกลัวอยู่หรือเปล่า การไปเที่ยวกับกลุ่มคนเล็กๆ และไม่เที่ยวรวมกับคนอื่นก็ถือเป็นเรื่องดีที่ลดการพบปะผู้คนโดยไม่จำเป็น ยิ่งเวลาเราไปยังสถานที่ต่างๆ ด้วยแล้ว การไปกลุ่มเล็กก็สามารถเที่ยวได้สบาย ไม่ทำให้สถานที่นั่นแออัดเพิ่มขึ้นด้วย
กลับมาแล้วเซฟตัวเองและคนรอบข้าง
ถึงเราจะป้องกันตัวเองอย่างไรก็ตาม แต่ก็ต้องปลอดภัยไว้ก่อน กลับมาแล้วควรเข้ารับการตรวจเช็คร่างกาย กักตัวเองอย่างน้อย 14 วัน และไม่อยู่ร่วมกับคนอื่นในครอบครัวที่ไม่ได้ไปเทียวกับเรา โดยเฉพาะคนแก่และเด็กเล็กๆ ที่ร่างกายอ่อนแอกว่าคนปกติทั่วไป อาจมีความเสี่ยงในการรับเชื้อได้ง่ายๆ รวมไปถึงแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบว่าเราได้เดินทางไปที่ใดบ้าง เช่น ต่างจังหวัดก็จะมี อบต. เทศบาล อำเภอ หรือโรงพยาบาลที่เก็บข้อมูลไว้เพื่อติดตามผล ซึ่งก็แล้วแต่ว่าท้องที่นั้นๆ จะจัดการอย่างไร แค่ปฏิบัติตามก็สบายใจกับทุกฝ่ายแล้ว
การเดินทางไปต่างประเทศนั้น ไม่เพียงแต่ไปเที่ยวเท่านั้น ยังรวมถึงคนที่จำเป็นต้องติดต่อธุรกิจ หรือมีความจำเป็นบางอย่างที่จะต้องเดินทางไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะฉะนั้นไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ก็ควรปลอดภัยไว้ก่อน ปรับตัวเพิ่มอีกนิดก็สามารถเดินทางได้แบบสบายใจแล้ว
Travel New Normal ความปกติใหม่ของการท่องเที่ยว
แชร์ บทความนี้
พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้