ข้อควรรู้และการเตรียมตัวก่อนเดินทางไปอเมริกา
อเมริกาเป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติที่สวยงาม สถานที่สำคัญต่างๆ ถนนสายช้อปปิ้งของแบรนด์เนม จึงไม่แปลกที่จะมีนักท่องเที่ยวหลากหลายประเทศทั่วโลกพากันไปเยี่ยมเยียนเที่ยวชม อีกทั้งยังเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ทำให้ใครหลายคนมีความคิดที่จะย้ายไปอยู่และทำงานที่อเมริกา Wonderful Package ขอแนะนำข้อมูลการเตรียมตัวและข้อควรรู้สำหรับผู้ที่สนใจจะไปเที่ยวอเมริกา มีอะไรบ้างมาดูกัน
การเตรียมตัวก่อนเดินทางไปอเมริกา
1. วางแผนการเดินทางและศึกษาเส้นทางให้ดี
- เที่ยวที่ไหน ไปเมืองไหน
- พักที่ไหน
- ซื้อตั๋วไป-กลับจากสนามบินอะไร
- เดินทางในประเทศอย่างไร
- ที่สำคัญอย่าลืมคำนวณค่าใช้จ่ายเดินทางให้ดี
2. จัดเตรียมข้อมูลและเอกสารที่จำเป็น
- หนังสือเดินทาง อายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน
- วีซ่าท่องเที่ยว หรือวีซ่าประเภทอื่น (ขอให้เรียบร้อยก่อนการเดินทาง)
- เอกสารการจองโรงแรมที่พัก ตั๋วเครื่องบิน รถเช่า บัตรผ่านสถานที่เที่ยวต่างๆ (ถ้ามี)
- ประกันการเดินทาง *แนะนำให้ซื้อก่อนไป เผื่อเกิดเหตุต่างๆ
- เอกสารทางการแพทย์ กรณีมีโรคประจำตัวและจำเป็นต้องพกยาไปด้วย
- เบอร์โทรสถานทูตไทยประจำแต่ละรัฐในอเมริกา (รัฐที่จะไป)
ควรพกเอกสารติดตัวไว้ตลอดเวลา ไม่ควรใส่ไว้ในกระเป๋าเดินทาง หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดหรือเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองขอตรวจจะได้แสดงให้ได้ทันที
3. เช็คสภาพอากาศ
อเมริกาเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ แต่ละภูมิภาคจึงมีอากาศที่ค่อนข้างแตกต่างอย่างชัดเจน อย่างเช่นสภาพอากาศทางตะวันออกของประเทศ ช่วงฤดูหนาวและฤดูร้อนจะแตกต่างกันมาก ทางชายฝั่งตะวันตกค่อนข้างจะมีฝนตกบ่อย หิมะตกพอสมควรและแสงแดดก็มีไม่มาก ทางตอนกลางของประเทศจะมีหิมะตกค่อนข้างเยอะถึงเยอะมาก แต่ก็มีแสงแดดมาก บางรัฐก็มีอากาศที่อบอุ่นสบายตลอดทั้งปี เช่น รัฐแคลิฟอร์เนีย รัฐฟลอริดา เป็นต้น
อเมริกา มี 4 ฤดูกาล
ฤดูกาล |
ช่วงเดือน |
สภาพอากาศ อุณหภูมิเฉลี่ย |
1. ฤดูใบไม้ผลิ |
มีนาคม - พฤษภาคม |
9 - 23 องศาเซลเซียส |
2. ฤดูร้อน |
มิถุนายน - สิงหาคม |
20 - 34 องศาเซลเซียส |
3. ฤดูใบไม้ร่วง |
กันยายน - พฤศจิกายน |
7 - 25 องศาเซลเซียส |
4. ฤดูหนาว |
ธันวาคม - กุมภาพันธ์ |
-12 ถึง -8 องศาเซลเซียส |
4. ปรับเวลาตามโซนของอเมริกา
อเมริกามีเวลาท้องถิ่นที่เหลื่อมกันตามพื้นที่ โดยแบ่งเวลาตามเส้นแบ่งของโลก
Time Zone |
GMT |
เวลาจะช้ากว่าประเทศไทย |
1. Eastern Standard Time |
-5 |
12 ชั่วโมง |
2. Central Standard Time |
-6 |
13 ชั่วโมง |
3. Mountain Standard Time |
-7 |
14 ชั่วโมง |
4. Pacific Standard Time |
-8 |
15 ชั่วโมง |
5. หมู่เกาะ Hawaii |
-10 |
17 ชั่วโมง |
หมายเหตุ :
- GMT (Greenwich Mean Time) คือ เวลา ณ เมือง Greenwich ในประเทศอังกฤษ ซึ่งตั้งอยู่ที่ Prime Meridian (Zero Longitude)
- ฤดูใบไม้ผลิ เวลาจะถอยหลัง 1 ชั่วโมง โดยจะหมุนในวันอาทิตย์แรกของเดือนเมษายน เช่น เดิมช้ากว่า 12 ชม. ก็จะเป็น 11 ชม. แทน
- ฤดูใบไม้ร่วง เวลาจะเดินหน้าเร็วขึ้น 1 ชั่วโมง โดยจะหมุนในวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนตุลาคม เช่น เดิมช้ากว่า 12 ชม. ก็จะเป็น 13 ชม. แทน
- เมื่อเดินทางไปถึง อย่าลืมที่จะปรับเวลานาฬิกาให้ตรงกับเวลาในท้องถิ่น โดยเทียบเวลาได้จากนาฬิกาของสนามบิน ป้องกันการขึ้นเครื่องบินผิดเวลานะคะ
5. แลกเงินสำหรับใช้จ่าย
- สกุลเงินอเมริกา คือ เงินดอลลาร์สหรัฐ
- อัตราแลกเปลี่ยนเงิน 1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ เงินไทยประมาณ 36 บาท เช็คอัตราแลกเปลี่ยนเงินได้ทุกธนาคาร
- แลกเปลี่ยนเงินตราได้ตามสนามบินหรือธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ในเมือง หรือบูธแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
- พกเงินไปพอประมาณ ติดตัวไม่เกิน $10,000 หากนำไปเกินจะต้องกรอกแบบฟอร์มแจ้งว่านำมาเท่าไหร่ตอนผ่านเข้าประเทศ หากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสงสัย จะมีคำถามอีกเยอะเช่น เงินมาจากไหน ทำไมพกเงินเยอะ ไม่มีบัตรใช้เหรอ ดีไม่ดีคุณอาจโดนยึดเงินไว้ก่อน กว่าจะได้คืนก็ต้องใช้เวลา
- แลกเป็นแบงค์ย่อยและเศษเหรียญติดตัวไว้ อย่าพกแต่แบงค์ใหญ่เพราะบางร้านค้าเขาไม่มีเงินทอน
- ที่นี่มีตู้ ATM อยู่ทุกเมือง โดยเฉพาะในแหล่งช้อปปิ้ง ร้านสะดวกซื้อหรือซูเปอร์มาร์เก็ต ค่าธรรมเนียมในการกดครั้งละประมาณ $2-3 และธนาคารไทย 100 บาท
- ที่นี่รับทั้งบัตรเดบิตและบัตรเครดิต ไม่ว่าจะเป็นร้านเล็กร้านใหญ่รับหมด ถือว่าสะดวกมาก
6. การแต่งกายและกระเป๋าเดินทาง
- เตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับแต่ละฤดูกาล
- เลือกใส่รองเท้าที่เดินสบาย เพื่อการเดินท่องเที่ยวได้อย่างคล่องตัว
- เตรียมหมวก ผ้าคลุมหรือผ้าพันคอ แว่นกันแดด ผ้าปิดปาก กระดาษทิชชู่ ผ้าเปียก
- ผู้ที่มีปัญหาทางสายตาควรเตรียมแว่นตาสำรองไว้ 2 อัน หรือคอนแทคเลนหลายๆ ชุด เพราะการตัดแว่นใช้เวลาค่อนข้างนานและราคาก็แพงมาก
- ควรติดป้ายห้อยกระเป๋าไว้กับกระเป๋าเดินทาง ระบุชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ไว้ด้วย
- เก็บสิ่งของกระจุกกระจิกเล็กๆ ใส่ในถุงพลาสติกใสที่สามารถมองเห็นได้ง่าย เพราะหากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองต้องการตรวจสอบจะทำได้รวดเร็วขึ้นและสิ่งของจะได้ไม่กระจาย
- เช็คน้ำหนักกระเป๋า สายการบินส่วนใหญ่กำหนดโหลดกระเป๋าฟรีได้ 1-2 ใบ น้ำหนักรวม 20 กิโล หากเกินมีคิดค่าโหลดเพิ่ม
7. พกยาติดตัว
- ยาแก้หวัด แก้ไข้ แก้ปวด สามารถซื้อที่ร้านขายยาของอเมริกาได้
- หากมีโรคประจำตัว ควรนำยาติดตัวด้วย เพราะการหาหมอที่อเมริการาคาแพงมาก
- ยาทุกชนิดที่นำไปจะต้องมีฉลากกำกับยาเป็นภาษาอังกฤษ รวมทั้งใบสั่งยาจากหมอ เพื่อป้องกันเอาไว้ในกรณีที่ถูกตรวจค้น
8. อุปกรณ์ที่จำเป็น
- โทรศัพท์และซิมการ์ด
- กล้องถ่ายรูป ไปเที่ยวทั้งทีไม่ควรพลาดถ่ายรูปสวยๆ
- สายชาร์ต แบตเตอรี่สำรอง เมมโมรี่การ์ด
- Adapter แปลงกระแสไฟ อเมริกากระแสไฟอยู่ที่ 110V ประเทศไทยอยู่ที่ 220V
- ปลั๊กไฟ 3 รู เหมือนประเทศไทย (ขาเสียบหัวแบน 2 ขา กลม 1 ขา)
9. การใช้โทรศัพท์และอินเตอร์เนต
- แนะนำว่าให้โทรศัพท์ผ่านอินเตอร์เน็ต แทน Roaming เพราะประหยัดกว่า
- ตามร้านอาหารหรือร้านกาแฟ มีบริการ Wi-Fi ให้ใช้ฟรี
- เปิดบริการ Roaming จากเครือข่ายมือถือ และใช้ในยามจำเป็นจะได้ไม่เสียค่าใช้จ่ายเยอะเกินไป
- สามารถซื้อ SIM Card ที่อเมริกาใส่ได้ แต่ต้องเติมเงินต่างหาก
- วิธีโทรศัพท์กลับประเทศไทย : 011 + 66 + รหัสจังหวัด (ไม่ต้องใส่เลข 0) + เบอร์โทรศัพท์
- วิธีโทรศัพท์จากประเทศไทย : 001 หรือ 006 หรือ 007 หรือ 008 หรือ 009 + 1 + รหัสเมือง (ไม่ต้องใส่เลข 0) + เบอร์โทรศัพท์
ข้อควรรู้เมื่อไปเที่ยวอเมริกา
1. วัฒนธรรม
- การทักทายของคนอเมริกันเป็นแบบสบายๆ ไม่มีพิธีรีตรองมากนัก แค่ยิ้มทักทายและบอกชื่อในการพบเจอกันครั้งแรก
- การจับมือและพูดทักทายง่ายๆ ด้วยคำว่า Hello มักถูกใช้บ่อยครั้งในการเริ่มต้นบทสนทนา
- คนอเมริกันส่วนใหญ่จะพูดจาตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม ซึ่งไม่ถือว่าหยาบคายหรือเสียมารยาท แค่พูดให้ตรงจุด เข้าใจ ชัดเจนในครั้งเดียว ไม่ต้องเสียเวลาอธิบาย
- ประเทศอเมริกามีชื่อเสียงในเรื่องกีฬา ดนตรี และศิลปะ กีฬาอย่างอเมริกันฟุตบอล บาสเก็ตบอล เบสบอล และไอซ์ฮอกกี้ ซึ่งเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอเมริกา และยังเป็นตลาดเพลงที่ใหญ่อันดับสองของโลก
2. แหล่งท่องเที่ยว
อเมริกามีแลนด์มาร์คหลายแห่ง แหล่งท่องเที่ยวมากมาย สถานที่สำคัญตามเมืองต่างๆ ที่ไม่ควรพลาดเที่ยวชมและถ่ายรูป
- แลนด์มาร์คเด่นๆ อย่างเช่น เทพีเสรีภาพ สะพานบรูคลิน สวนสาธารณะเซ็นทรัลพาร์ค ในรัฐนิวยอร์ก สะพานโกลเด้นเกต ในรัฐซานฟรานซิสโก
- ธรรมชาติสวยๆ อย่างเช่น น้ำตกไนแองการา ในรัฐนิวยอร์ก ทะเลสาบ Crater Lake ในรัฐออริกอน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน ในรัฐไวโอมิง รัฐมอนแทนา และรัฐไอดาโฮ
- สถานที่แปลกตา อย่างเช่น แอนเทอโลป แคนยอน รัฐแอริโซนา ไบรซ์ แคนยอน รัฐยูทาห์
- แหล่งช้อปปิ้ง ขาช้อบทั้งหลายไม่ควรพลาดกับการช้อบปิ้งย่านโซโหและย่านฟิฟธ์อเวนิว ในรัฐนิวยอร์ก ที่นี่มีทั้งร้านค้าแบรนด์เนมและร้านของดีไซน์เนอร์ชื่อดัง
หากใครได้ไปเยือนอเมริกาทั้งที ก็ไม่ควรพลาดกับสถานที่แนะนำเหล่านี้ ไม่งั้นจะเรียกว่าไปไม่ถึงกันเลยทีเดียว
3. อาหาร
- อาหารส่วนใหญ่จะเป็นฟาสต์ฟู้ด อยางเช่น McDonalds, Burger King, Pizza Hut ซึ่งมีให้บริการอยู่ทั่วประเทศ
- อาหารจานเด็ดของแต่ละรัฐนั้นแตกต่างกัน บางรัฐติดทะเลก็จะมีอาหารทะเลเป็นหลัก เช่น กุ้งล็อบสเตอร์ ที่ไม่ควรพลาด อย่างรัฐตอนใต้จะเน้นอาหารทอด ย่างหมูหรือไก่บนเตาบาร์บีคิว ราดซอสรสชาติเข้มข้น ส่วนรัฐเท็กซัสและแม็กซิกัน อาหารจะออกแนวอินเดียตะวันตกและแคริบเบียน ที่มีรสชาติเผ็ดร้อนจากเครื่องเทศและพริกไทย
- หากเบื่ออาหารอเมริกัน ที่นี่ก็มีร้านอาหารไทยหลายร้าน รสชาติอาหารไม่ต่างจากประเทศไทยมากนัก
- หากเข้าร้านอาหารที่มีพนักงานบริการ อย่าให้ทิปพนักงานเพิ่มด้วย (เป็นธรรมเนียม)
4. ค่าธรรมเนียมการให้ทิป
การให้ทิปในอเมริกาเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ส่วนใหญ่จะจ่ายเป็นอัตรา 10–20% ของค่าบริการ บางครั้งก็จ่ายตามจำนวนชิ้นหรือครั้ง ได้แก่
- บริการในร้านอาหารหรือภัตตาคาร ให้ทิป ร้อยละ 15–20 ของค่าอาหาร (ยกเว้นในร้านอาหาร Fast Food หรือ ร้าน Self-Service)
- บริการตัดผมหรือเสริมสวย ให้ทิป 10–15% ของค่าบริการ
- พนักงานขับรถแท๊กซี่ ให้ทิป 10–15% ของค่าโดยสาร (ไม่จำเป็นต้องให้ทิปสำหรับพนักงานขับรถเมล์)
- บริการหิ้วประเป๋าที่สนามบิน หรือโรงแรม ให้ทิป $1.00 ต่อกระเป๋า 1 ใบ
- บริการจอดรถ ให้ทิป $1.00-2.00
5. การเดินทางเที่ยวในประเทศ
- สามารถเดินเที่ยวได้ เพราะแหล่งท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณใกล้กัน
- หากต้องการขับรถเที่ยว การเช่ารถค่อนข้างสะดวก (อเมริกาขับรถพวงมาลัยด้านซ้าย)
- หากต้องการข้ามเมือง มีบริการทั้งรถไฟฟ้าบนดิน-ใต้ดิน รถบัส รถแท็กซี่ เครื่องบิน
ข้อควรระวัง :
- การเดินทางออกนอกอเมริกาโดยเครื่องบิน ควรไป Check-in ที่สนามบินล่วงหน้าอย่างน้อย 3 ชั่วโมง
- การเดินทางภายในอเมริกาโดยเครื่องบิน ควรไป Check-in ที่สนามบินล่วงหน้าอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
- ในระหว่างรอขึ้นเครื่องที่สนามบิน ไม่ควรละสายตาจากกระเป๋าเดินทาง เพราะอาจถูกขโมยได้ หรืออาจมีผู้นำวัตถุผิดกฎหมายหรือของต้องห้ามมาใส่ไว้ในกระเป๋า ซึ่งจะทำให้เดือดร้อนในภายหลังได้
- อย่านำของต้องห้ามเข้าอเมริกา เพราะอาจถูกจำคุก ถูกกักตัว ส่งตัวกลับ หรือถูกปรับ แล้วแต่กรณี เคยมีนักท่องเที่ยวนำอาหารต้องห้ามนำเข้าและถูกปรับ แต่ไม่มีเงินจ่าย ต้องถูกกักตัว ทำให้พลาดเปลี่ยนต่อโดยสารเครื่องบิน
- ห้ามนำผัก ผลไม้สด และอาหารที่เป็นผลิตผลจากสัตว์เข้าสหรัฐฯ
- ควรระวังสำคัญ อย่ารับขนของต่าง ๆ โดยเฉพาะผ่านการว่าจ้างโดยคนแปลกหน้า เพราะท่านอาจขนสิ่งขอที่ผิดกฎหมายโดยไม่รู้ตัว เช่น ชิ้นส่วนอาวุธ สิ่งเสพติด หรือสารต้องห้าม
- การเดินทางเข้า-ออกนอกอเมริกา โดยเครื่องบิน เจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาตให้นำของเหลวปริมาณเกิน 3 ออนซ์ หรือ 85 กรัม ขึ้นเครื่องบิน
- สัมภาระหรือกระเป๋าเดินทางที่ต้องการจัดเก็บใต้ท้องเครื่องบิน ไม่ควรล็อกกุญแจ เจ้าหน้าที่อาจเปิดสัมภาระเพื่อตรวจสิ่งของ
- หากจำเป็นต้องนำยาหรืออาหารควบคุมติดตัวไปด้วย ต้องยื่นเอกสารชี้แจงต่อเจ้าหน้าที่ TSA (Transportation Security Administration)
อย่าลืมนะคะ เตรียมตัวให้พร้อมทุกอย่างก่อนออกเดินทาง จะได้ไปเที่ยวอเมริกาได้อย่างสบายใจไร้กังวล
หากสงสัยหรือต้องการคำแนะนำ ติดต่อ Wonderful Package สิคะ ทางเรามีทีมงานพร้อมให้คำแนะนำและบริการตลอดเวลาค่ะ
บทความเกี่ยวข้อง :
บริการแนะนำจาก Wonderful :
ขอบคุณข้อมูลจาก :
แชร์ บทความนี้
พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้