5 ข้อสำคัญควรรู้ก่อนยื่นวีซ่านักเรียนอเมริกา F-1
สำหรับใครที่กำลังจะไปเรียนต่ออเมริกา แต่ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มอย่างไร? WonderfulPackage ขอแนะนำข้อมูลดีๆ กับ 5 ข้อสำคัญควรรู้ก่อนยื่นวีซ่านักเรียนอเมริกา F-1 มาให้ทราบกันค่ะ
1. ทำความเข้าใจวีซ่านักเรียนอเมริกาประเภท F-1 เพื่อจะเตรียมตัวยื่นขอวีซ่าได้อย่างถูกต้อง
วีซ่านักเรียนประเภท F-1 (Non-Immigrant Visa) เป็นวีซ่าหลักที่ออกให้แก่นักเรียนส่วนใหญ่ค่ะ เป็นวีซ่าสำหรับนักเรียนที่ต้องการเข้าเรียนในสถานศึกษาที่ผ่านการรับรองจาก Student and Exchange Visitor Programme (SEVP) ซึ่งรับรองโดยรัฐบาลอเมริกา ได้แก่ โรงเรียนเอกชนระดับประถมศึกษา, มัธยมศึกษา (เกรด 9 - 12), อุดมศึกษา (วิทยาลัย หรือมหาวิทยาลัย), รวมถึงเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษแบบเต็มเวลา (Full Time Course) ที่เกิน 18 ชั่วโมง/สัปดาห์ ในสถาบันภาษาที่ได้รับการรับรองแล้วเท่านั้น! โดยผู้สมัครที่ต้องการขอวีซ่าประเภทนี้สามารถยื่นขอวีซ่าได้ล่วงหน้าไม่เกิน 120 วัน (4เดือน) ก่อนวันเริ่มต้นหลักสูตรการเรียนค่ะ
Remark: กฎหมายอมเริกาไม่อนุญาตให้นักเรียนต่างชาติเข้าเรียนโรงเรียนของรัฐในระดับชั้นประถมศึกษา (อนุบาลถึงเกรด 8) หรือโครงการศึกษาระดับผู้ใหญ่ที่รัฐออกทุนให้ ซึ่ง 2 อย่างนี้ไม่สามารถออกเป็นวีซ่านักเรียน F-1 ได้ค่ะ
2. สมัครเรียนอย่างไร จึงจะขอวีซ่า F-1 ได้
การสมัครเรียนผู้สมัครจะต้องสมัครเรียนในสถาบันการศึกษาที่ผ่านการรับรองตามที่แจ้งไว้ในข้อ 1 โดยการสมัครเรียนสถาบันในอเมริกาไม่เพียงแต่ยื่นใบสมัครเรียนและพาสปอร์ต หรือประวัติการศึกษาเท่านั้น ผู้สมัครจะต้องแนบหนังสือรับรองทางการเงินจากธนาคาร (Bank Gurantree) ในการสมัครเรียนด้วย เพราะอเมริกาไม่ได้มีข้อบังคับเรื่องการชำระค่าเรียนก่อนการขอวีซ่า จึงขอให้ผู้สมัครแสดง Bank Gurantree เพื่อให้เห็นว่ามีการเตรียมค่าใช้จ่ายไว้เพียงพอกับการเรียนและอาศัยอยู่ในอเมริกา แล้วสถาบันจึงจะออกเอกสารตอบรับเข้าเรียนมาให้ค่ะ
3. ต้องได้หนังสือตอบรับจากทางโรงเรียนก่อน จึงจะสมัครวีซ่าได้
เอกสารตอบรับ I-20 คือ ใบตอบรับเข้าเรียนจากทางสถาบันการศึกษาในอเมริกา โดยเอกสาร I-20 จะมีการระบุข้อมูลสาระสำคัญต่างๆไว่อย่างครบถ้วน ได้แก่ ข้อมูลผู้สมัคร (นักเรียน) Student Number, ข้อมูลโรงเรียน School Code, ข้อมูลระยะเวลาที่ได้รับการตอบรับเข้าเรียน, และข้อมูลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายทั้งในส่วนของค่าเรียนและค่าครองชีพ โดยเอกสารตอบรับเข้าเรียนจะต้องออกและถูกส่งตรงมาจากสถาบันในอเมริกาที่ตอบรับเข้าเรียนโดยตรงเท่านั้น ไม่มีหน่วยงานหรือตัวแทนใดออกเอกสารนี้แทนได้ และผู้สมัคร (นักเรียน) ต้องลงชื่อตอบรับในเอกสารนั้นด้วย
4. ต้องชำระค่าธรรมเนียมทุกอย่างให้ครบถ้วน ถูกวิธี และเป็นไปตามขั้นตอน
เมื่อได้รับเอกสารตอบรับเข้าเรียนแล้วผู้สมัครจะต้องดำเนินการสมัครขอวีซ่านักเรียน โดยค่าธรรมเนียมที่ต้องชำระ ได้แก่ SEVIS Fee, Visa Fee และ PIN Fee
- การชำระค่า SEVIS อยู่ที่ 350 USD (อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามข้อกำหนดของสถานทูต) ซึ่ง SEVIS Fee เป็นค่าธรรมเนียมบังคับที่ผู้สมัครวีซ่านักเรียนอเมริกาทุกคนต้องชำระ เป็นค่าใช้จ่ายของระบบเก็บข้อมูล และติดตามนักเรียนที่เข้าพำนักในสหรัฐอเมริกา (Student Information System) ซึ่งมีข้อกำหนดว่าต้องชำระล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วันก่อนวันนัดสัมภาษณ์ และเมื่อทำการชำระแล้วต้องปริ้นต์ใบเสร็จเพื่อนำมาแสดงในวันนัดสัมภาษณ์ด้วย
- การชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า (Visa Fee) เมื่อผู้สมัครกรอกข้อมูลยื่นวีซ่าผ่านระบบออนไลน์บนเว็บไซด์ของสถานทูตที่เรียกว่าแบบฟอร์ม DS-160 แล้ว จะต้องทำการชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าที่ 160 USD (อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามข้อกำหนดของสถานทูต) ผ่านธนาคารกรุงศรีอยุธยา ทุกสาขาในประเทศไทย และเมื่อชำระแล้วต้องนำใบเสร็จค่าธรรมเนียมวีซ่ารวมถึงปริ้นต์แบบฟอร์ม DS-160 มาแสดงในวันนัดสัมภาษณ์ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งค่าธรรมเนียมวีซ่าสถานทูตไม่ได้รับชำระค่าในวันสัมภาษณ์นะคะ
- ส่วนค่า PIN คือ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการนัดสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาค่ะ ซึ่งผู้สมัครวีซ่าอเมริกาทุกคนต้องทำการจองวันสัมภาษณ์ โดยจองได้ 2 ช่องทางคือ จองออนไลน์ผ่านเว็บไซด์ และโทรจอง และจะต้องไปซื้อ PIN เพื่อเข้าระบบการจองได้ที่สำนักงานไปรษณีย์ไทย ราคา PIN จะอยู่ที่ 12-20 USD (ขึ้นอยู่กับช่องทางการจอง) ซึ่งผู้สมัครจะทำการนัดหมายเข้าสัมภาษณ์และเปลี่ยนแปลงวันนัดหมายได้ไม่เกิน 3 ครั้ง (ในกรณีที่ท่านไม่สามารถเข้ามาทำการสัมภาษณ์ตามวันและเวลานัดหมายได้) หากเกินจำนวนดังกล่าว ผู้สมัครจะต้องชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าใหม่ และซื้อ PIN ใหม่จึงจะนัดหมายเข้าสัมภาษณ์วีซ่าได้อีก ซึ่งค่าธรรมเนียมวีซ่าหรือค่า PIN ที่ชำระไปก่อนหน้านี้ก็จะไม่สามารถขอคืนได้นะคะ ส่วนสถานทูต/กงศุลสหรัฐอเมริกาที่เปิดให้ผู้สมัครเข้าสัมภาษณ์ ยื่นวีซ่า และเก็บข้อมูลBiometric ในประเทศไทยมี 2 ที่คือ
- สถานทูตสหรัฐอเมริกา กรุงเทพมหานคร ที่ตั้ง: เลขที่ 95 ถนนวิทยุ กรุงเทพฯ 10330 ประเทศไทย
- สถานทูตสหรัฐอเมริกา เชียงใหม่ ที่ตั้ง: 387 ถ.วิชยานนท์ ต.ช้างม่อย อ.เมือง เชียงใหม่ 50300
ประเทศไทย
และไม่ว่าวีซ่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน ค่าธรรมเนียมต่างๆที่ชำระมาจะไม่คืนและไม่สามารถโอนหรือขอเปลี่ยนแปลงผู้สมัครได้ในทุกกรณี
5. เงื่อนไขการเดินทางเข้าอเมริกาเพื่อเริ่มเรียน และการอยู่อาศัยในอเมริกาในฐานะวีว่านักเรียน
- สำหรับนักเรียนใหม่ (ที่ได้วีซ่าครั้งแรก) ผู้ที่ถือวีซ่านักเรียนจะสามารถเดินทางเข้าอเมริกาได้ล่วงหน้าไม่เกิน 30 วัน (1 เดือน) ก่อนวันเริ่มต้นหลักสูตรการเรียนเท่านั้น
- สำหรับนักเรียนที่ลงหลักสูตรเรียนต่อเนื่องหรือต่อวีซ่า วีซ่าอาจอนุมัติได้ต่อเนื่อง ตราบใดที่นักเรียนยังลงทะเบียนเรียนในสถาบันที่ได้รับการรับรองฯ ซึ่งนักเรียนสามารถเดินทางเข้าอเมริกาได้ตลอดเวลาก่อนการเริ่มเรียน
- การถือวีซ่านักเรียน F-1 อยู่แต่ไม่ได้มีการเข้าเรียนเป็นเวลามากกว่าห้าเดือนจะทำให้เสียสถานภาพการเป็นนักเรียนได้ และจะมีผลให้วีซ่าที่ถืออยู่ไม่สามารถใช้เดินทางกลับเข้าอเมริกาในอนาคตได้อีก (ทั้งนี้มีข้อยกเว้นตามข้อกำหนดของสถานทูตซึ่งต้องมีเหตุผลเกี่ยวข้องกับหลักสูตรหรือการเรียนที่เรียนอยู่เท่านั้น)
ทราบกันแล้วใช่มั้ยคะว่าการสมัครขอวีซ่านั้นต้องรอบคอบ และรอบรู้ข้อมูล พร้อมทำตามขั้นตอนอย่างถูกวิธี เพราะการได้มาซึ่งวีซ่าจะบ่งบอกได้ว่าท่านมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาด้วยวัตถุประสงค์ตามที่ได้แจ้งไว้
หากมีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำ สามารถติดต่อปรึกษา Wonderful Package ของเราได้เลยค่ะ ทางเรามีทีมงานพร้อมให้คำแนะนำและยินดีบริการทุกท่านค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง:
บริการที่แนะนำ:
แชร์ บทความนี้
พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้