คัมภีร์ที่เที่ยวและเรื่องน่ารู้ 4 เกาะใหญ่ในญี่ปุ่น
เราอาจจะรู้จักและคุ้นเคยกับประเทศญี่ปุ่นกันมาบ้างแล้ว หลายคนอาจจะเคยเที่ยวตามจุดใหญ่ๆ ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักของญี่ปุ่น แต่รู้หรือไม่ว่าญี่ปุ่นมี 4 เกาะใหญ่ที่สำคัญ และมีที่เที่ยวอีกเยอะแยะมากมายรอเราอยู่ แต่ละที่ก็น่าสนใจไม่แพ้กันเลย เรามาดูกันดีกว่าว่าทั้งสี่เกาะใหญ่ในญี่ปุ่นนั้นเป็นอย่างไร และมีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง
1. เกาะเหนือ ฮอกไกโด (Hokkaido)
เกาะฮอกไกโด เกาะใหญ่ที่อยู่ทางเหนือของญี่ปุ่น เป็นเกาะที่มีอากาศเย็นสบายตลอดปี และที่เที่ยวทางธรรมชาติสวยๆ เยอะมาก ถ้าใครนึกภาพไม่ออกลองนึกภาพตามภาพยนตร์เรื่อง แฟนเดย์ เราจะเห็นความสวยงามทั่วทั้งฮอกไกโดเลยล่ะ โดยเฉพาะที่นี่เค้าขึ้นชื่อเรื่องหิมะที่นุ่มฟูราวกับผงแป้ง ในฤดูหนาวจึงเป็นที่เที่ยวสุดฮิตในการเล่นหิมะ ส่วนฤดูร้อนนั้นก็มีทุ่งดอกไม้สวยๆ ให้ชมกัน เรียกได้ว่าสามารถมาเที่ยวฮอกไกโดได้ครบทุกฤดู
บนเกาะฮอกไกโด เชื่อว่าเราต้องคุ้นกับชื่อเมืองหลายๆ เมือง ซึ่งเมืองในฮอกไกโดประกอบด้วย เมืองซัปโปโร โทยะออนเซ็น โนโบริเบ็ทสึ ฟุระโนะ บิเอะ อาซาฮิคาวะ ชิโตเสะ อะบาชิริ มอนเบ็ทสึ ฮาโกดาเตะ โอตารุ นิเซโกะ คุชิโระ วักกะไน และ เนมูโระ เรามาดูกันว่าสถานที่เที่ยวน่าไปของเกาะฮอกไกโด มีที่ใดบ้าง
เมืองหิมะ ซัปโปโร
เทศกาลดังในฤดูหนาวของเกาะฮอกไกโดที่โด่งดังไปทั่วโลก เป็นเทศกาลหิมะและน้ำแข็งที่จัดยิ่งใหญ่ และมีการประกวดกันเป็นประจำทุกปี งานจะจัดช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งใครที่มีแพลนไปฮอกไกโดช่วงหน้าหนาว ไม่ควรพลาด!
ทุ่งลาเวนเดอร์ที่ฟูราโน่
และหากอยากชื่นชมกับทุ่งดอกไม้สวยๆ แล้วล่ะก็ ต้องทุ่งลาเวนเดอร์ที่ฟูราโน่ นอกจากจะถ่ายรูปสวยๆ กับทุ่งดอกไม้ ก็ยังมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับลาเวนเดอร์ให้เราซื้อไปเป็นของฝาก รวมไปถึงของกินหนาร้อน อย่างเมล่อน ซอฟต์ครีม ที่ต้องบอกเลยกินช่วงเวลานี้มันช่างเหมาะเจาะที่สุด
ป้อมโงเรียวกาคุ (Fort Goryokaku) เมืองฮาโกดาเตะ
เป็นป้อมรูปดาวที่อยู่บนหอคอยสูง เมื่อมองลงไปข้างล่างเราจะเห็นพื้นที่รูปดาวสวยงามมาก และที่สำคัญมันยังสวยต่างกันไปในแต่ละฤดู โดยเฉพาะช่วงที่ซากุระกำลังผลิดอกบาน จะยิ่งสวยมาก
จุดชมวิวภูเขาฮาโกดาเตะ (Mount Hakodate)
และสุดยอดจุดชมวิวของฮาโกดาเตะ และเป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น ก็คือ จุดชมวิวฮาโกดาเตะ ช่วงเวลาสวยๆ คือตอนกลางคืน ที่เรามองลงไปเบื้องล่างเห็นวิวเมืองที่มีแสงไฟระยิบระยับราวกับเป็นดาวบนพื้นดิน
คลองโอตารุ (Otaru Canal Area) เมืองโอตารุ
คลองที่เค้าว่ากันว่าเป็นจุดที่โรแมนติกที่สุด สะพานที่ทอดข้ามคลองโอตารุ มองเห็นวิวโกดังเก่า และวิวสวยรอบๆ เป็นฉากหลัง สวยโรแมนติกทั้งกลางวันกลางคืน และยิ่งช่วงเทศกาลในฤดูหนาว จะมีการประดับไฟสวยงามมาก
คิโรโระสกีรีสอร์ท (Kiroro Ski Resort)
รีสอร์ทดังของฮอกไกโด ที่ขึ้นชื่อเรื่องหิมะที่ฟูนุ่ม และละเอียดราวกับผงแป้ง รวมไปถึงกิจกรรมบนลานสกีที่สามารถเล่นได้ทั้งมือใหม่ และมือเก๋า รวมไปถึงที่พักที่อยู่ใกล้ๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่จึงกลายเป็นสถานที่เที่ยวอันดับต้นๆ ของฮอกไกโด
สระอะโออิเคะ (Aoiike Blue Pond) เมืองบิเอะ
หรือบ่อน้ำสีฟ้าบลูพอนด์ ที่เป็นสระน้ำสีฟ้าใสจนมองลงไปถึงข้างล่าง ซึ่งสีฟ้าก็เกิดจากอลูมิเนียมไฮดรอกไซด์ ที่มาจากการปะทุของภูเขาไฟที่อยู่ในน้ำได้สะท้อนกับแสงแดดที่ส่องลงมานั่นเอง
หุบเขานรกจิโงคุดานิ (Jigokudani Noboribetsu) เมืองโนโบริเบ็ตสึ
หุบเขาที่ถึงแม้จะเรียกว่านรกแต่ว่าความสวยกลับเชื้อเชิญให้คนเข้าไปหา เพราะที่นี่คือเมืองออนเซ็นที่มีน้ำเดือดอยู่ตลอดเวลา อยู่ภายใต้หุบเขาที่สวยงาม
โจซังเคออนเซ็น (Jozankei Onsen) เมืองซัปโปโร
อีกหนึ่งออนเซ็นในฮอกไกโดที่อยากแนะนำกัน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณอุทยานแห่งชาติชิโกะซุ โทยะ และเดินทางจากตัวเมืองซัปโปโรไปแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ใครอยากเปิดประสบการณ์แช่ออนเซ็นต้องไปลอง
โรงงานช็อคโกแล็ต (Shiroi Koibito) เมืองซัปโปโร
เรียกได้ว่าอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวแวะมามากที่สุด เพราะว่าเป็นโรงงานช็อคโกแลตที่ขึ้นชื่อมากๆ อีกทั้งเรายังสามารถซื้อกลับไปเป็นของฝากได้อีก
Cr. Lionel Leong
2. เกาะใหญ่ เกาะฮอนชู (Honshu)
นี่คือเกาะหลักที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และเต็มไปด้วยธรรมชาติที่มีชื่อเสียงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภูเขาที่สวยที่สุดอย่างภูเขาไฟฟูจิ รวมไปถึงภูเขาโฮทากะ ภูเขาคิตะมีทะเลสาบบิวะที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และนอกจากธรรมชาติก็ยังสามารถเที่ยวชมเมืองได้เช่นกัน ซึ่งเมืองหลักๆ บนเกาะฮอนชูก็เป็นเมืองสำคัญที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เช่น โอซาก้า เกียวโต นาโกย่า เป็นต้น ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเกาะฮอนชูที่น่าสนใจ แยกไปตามเส้นทางหลักๆ ก็คือ
เส้นทางเมืองเก่า เมืองมรดกโลก โอซาก้า เกียวโต นารา
ปราสาทโอซาก้า หนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้า โดยเป็นปราสาทที่ขึ้นชื่อด้านความสง่างาม ตั้งอยู่โดดเด่นเห็นได้ชัดเจน และหากได้ไปโอซาก้าก็ควรแวะมาสักครั้ง ที่ปราสาทแห่งนี้ยังมีสวนสาธารณะอยู่โดยรอบ หากขึ้นไปบนปราสาทจะเห็นวิวสวยงาม และยิ่งตอนดอกซากุระบานจะสวยขึ้นไปอีก
วัดคินคะคุจิ เกียวโต หรือวัดอิ๊กคิวซังที่เรารู้จักกันนั่นเอง ซึ่งถือว่าเป็นวัดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นที่ยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ปราสาทสีทองอร่ามท่ามกลางสวนเขียวขจีสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่น่าชม
หลวงพ่อวัดโทไดจิ เมืองนารา วัดพุทธของญี่ปุ่น ที่วัดแห่งนี้นอกจากจะมีหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ยังมีวิหารไม้ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นวัดพุทธในเมืองนาระ ประเทศญี่ปุ่น
พระใหญ่ไดบุตซึ เมืองคามาคุระ เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่และสำคัญของเมืองคามาคุระ ซึ่งองค์พระใหญ่เป็นอันดับสองของญี่ปุ่นรองจากหลวงพ่อโตวัดโทไดจิ ซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์มาก ผู้คนมักจะมาขอพรเรื่องความอายุยืน ความปลอดภัย การผ่านอุปสรรค และขอลูกได้อีกด้วย นอกจากจะไปไหว้พระก็สามารถเข้าไปในตัวองค์พระได้
สวนสนุกยูนิเวอร์แซลสตูสดิโอ มาถึงกิจกรรมสนุกๆ กันบ้าง ที่โอซาก้ายังมีสวนสนุกชื่อดังระดับโลกมาตั้งไว้ที่นี่ด้วย ใครที่ชื่นชอบกิจกรรมต่างๆ กับเครื่องเล่นมากมาย พร้อมชมโชว์ที่หลากหลาย โซนจำลองใหม่ๆ อย่างแฮร์รี่พ็อตเตอร์ รวมไปถึงโซนใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวที่น่าสนใจ ต้องไม่พลาดสวนสนุกแห่งนี้
เส้นทางภูเขาไฟฟูจิ ฮาโกเน่ โตเกียว โยโกฮาม่า
ภูเขาไฟฟูจิ โตเกียว เราจะไม่พูดถึงภูเขาไฟฟูจิคงไม่ได้แน่ๆ เพราะที่นี่เหมือนเป็นแลนด์มาร์กของญี่ปุ่นไปแล้ว ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่มีรูปร่างสัดส่วนที่สวยงามที่สุด ความใหญ่กินอาณาเขตไป 2 จังหวัด คือ ชิสุโอกะ และ ยามานาชิ และยังเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ
ทะเลสาบอาชิ ในวนอุทยานฮาโกเน่ ทะเลสาบที่อยู่บริเวณรอบๆ ภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งเราสามารถล่องเรือชมวิวทะเลสาบ และมองเห็นฟูจิได้ชัดเจน
หุบเขาโอวาคุดานิ สถานที่ท่องเที่ยวแสนขึ้นชื่อของฮาโกเนะ เป็นหุบเขาแร่กำมะถัน อยู่บนความสูง 1,050 เมตรจากระดับน้ำทะเล ไฮไลท์ของที่นี่คือการกินไข่ดำ ซึ่งต้มจากน้ำแร่กำมะถันทำให้มีเปลือกสีดำสนิท ซึ่งเชื่อว่ากินแล้วอายุยืน
พระราชวังอิมพีเรียล สถานที่ประทับของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น ประกอบด้วยพระตำหนักและอาคารต่างๆ มากมาย ในอดีตเคยเป็นที่ตั้งของปราสาทเอโดะ และพระราชวังแห่งนี้ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานพิธีสำคัญอีกด้วย
แหล่งช้อปปิ้งในกรุงโตเกียว เมื่อมาถึงโตเกียวแล้วเราจะขาดการช้อปปิ้งไปได้ยังไง ซึ่งแหล่งช้อปปิ้งที่โตเกียวมีเยอะแยะมากมาย ที่ดังๆ ก็มี ชินจูกุ ฮาราจูกุ รวมไปถึงบริเวณวัดอาซากุสะด้วย
โตเกียวดิสนีย์แลนด์ สวนสนุกโตเกียวดิสนีย์แลนด์ ที่จะพาเราเข้าสู่ดินแดนแห่งเทพนิยาย ทั้งอาณาจักรสวยๆ และเครื่องเล่นที่มีให้เล่นได้ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่
เส้นทางธรรมชาติ เซนได นิกโก ฟุกุชิม่า มิตสึชิม่า
อ่าวมัตสึชิม่า เซ็นได อ่าวดังที่เป็น 1 ใน 3 จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่ประมาณ 260 เกาะ ซึ่งมักจะได้ยินชื่ออยู่ในกวี และปรากฏอยู่ตามภาพวาดของญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยโบราณ และยังมีวัฒนธรรมโบราณของญี่ปุ่นให้เห็นอยู่
ศาลเจ้าโทโชกุ เมืองนิกโก้ เป็นมรดกโลกของเมืองนิกโก้ และดูเหมือนจะเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองนี้ไปแล้ว ตัวโบราณสถานมีลวดลายแกะสลักที่ปราณีตงดงาม สีที่ใช้ยังโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ไหนๆ
น้ำตกเคกอน นิกโก้ น้ำตกขนาดใหญ่ที่สวยงามมาก เป็นน้ำตกที่ตกลงมาจากหน้าผาสูงเป็นแนวเส้นตรง ดูยิ่งใหญ่อลังการ และความสวยงามติดอันดับ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นเลยีเดียว
เอโดะวันเดอร์แลนด์ เรียกได้ว่าเป็นธีมปาร์คที่แปลกแหวกแนวออกไปจากสวนสนุกอื่นๆ ในญี่ปุ่น เพราะเหมือนเป็นการจำลองหมู่บ้านในสมัยเอโดะเอาไว้ สามารถเช่าชุดกิโมโนหรือชุดโบราณอื่นๆ เดินเล่นทั่วเมืองได้ แถมยังมีโชว์เก๋ๆ ให้ดู มีอาหารดั้งเดิม ของที่ระลึกแบบเอโดะให้เลือกซื้อ
เส้นทางแจแปนแอลป์ ทาคายาม่า ชิราคาวาโกะ
กำแพงหิมะทาเตยามะ (Tateyama Kurobe Alpine Route Route) มาถึงเส้นทางนี้ทั้งทีจะไม่พูดถึงกำแพงหิมะคงไม่ได้ เพราะนี่คือเส้นทางในฝันของนักท่องเที่ยวเลยล่ะ โอกาศที่เราจะได้มองเห็นกำแพงใหญ่ยักษ์ทั้งสองข้างทางเป็นหิมะขาว มีเปิดให้เข้าชมหนึ่งช่วงเวลาต่อปีเท่านั้น ซึ่งเป็นเส้นทางธรรมชาติที่เราจะได้เห็นทิวทัศน์ที่เปิดประสบการณ์แปลกใหม่ให้ตัวเอง
เขื่อนยักษ์คุโรเบะ เขื่อนแห่งนี้เป็นเขื่อนคอนกรีตแบบโค้งที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งก็อยู่ในเส้นทางแจแปนแอลป์ด้วยเช่นกัน เมื่อเราเดินทางไปสู่จุดสูงสุดเราจะเห็นวิวเขื่อนรวมถึงวิวโดยรอๆ และมองเห็นสายรุ้งจากตัวเขื่อนได้อีกด้วย
หมู่บ้านชิราคาวาโกะ หมู่บ้านมรดกโลกที่ใครๆ ต่างก็อยากไปชมสักครั้ง เพราะเป็นหมู่บ้านดั้งเดิมสุดคลาสสิคที่ยังคงเอกลักษณ์ของตัวบ้าน ที่ออกแบบมาป้องกันหิมะและลมหนาวของเมืองในหุบเขาได้เป็นอย่างดี และยังคงอนุรักษ์วิถีชีวิตโบราณเอาไว้อีกด้วย
เมืองทาคายาม่า เมืองเล็กๆ ที่น่าเดินเล่นและมีเสน่ห์มากๆ โดยรผสมผสานความเป็นเกียวโตยุคเอโดะเข้าด้วยกัน หมู่บ้านที่มีบ้านไม้โบราณ โอบล้อมด้วยขุนเขา มีลำธารไหลผ่าน เป็นหมู่บ้านสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมจริงๆ
3. เกาะใต้คิวชู
เกาะคิวชูเป็นเกาะที่อยู่ใต้สุดของญี่ปุ่น และใหญ่เป็นเกาะใหญ่อันดับสามของญี่ปุ่น ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ คิวชูตอนเหนือ มีฟุกุโอกะ โออิตะ คุมาโมโต้ นางาซากิ และซากะ ส่วนคิวชูตอนใต้ มีจังหวัด มิยาซากิ และคาโงชิมะ สภาพภูมิอากาศโดยทั่วไปของคิวชูค่อนข้างอบอุ่น เนื่องจากมีบ่อน้ำแร่และภูเขาไฟ และวัฒนธรรมคล้ายเอเชียทางจีนและเกาหลีซึ่งอยู่ใกล้กัน
ศาลเจ้าอิสึกุชิมะ (Itsukushima) เกาะมิยาจาม่า หนึ่งในศาลเจ้าชินโตที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกและได้รับการจดทะเบียนให้เป็มรดกโลกทางวัฒนธรรมจากยูเนสโก เป็นศาลเจ้าที่สร้างอยู่ในทะเล โดยเมื่อน้ำขึ้นจะเหมือนมีเสาโทริอิตั้งอยู่กลางทะเล เวลาน้ำลงสามารถเดินไปถึงได้
ฮิโรชิม่าอะตอมมิคโดม เมื่อพูดถึงฮิโรชิม่าเราคงจะนึกถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 และอะตอมมิคโดมแห่งนี้ก็สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์นี้เช่นกัน
สวนสันติภาพนากาซากิ สวนสาธารณะที่เป็นส่วนหนึ่งของอนุสรณ์สถานแห่งสงครามโลกเช่นกัน
เบปปุ เมืองแห่งน้ำพุร้อน ซึ่งน้ำพุร้อนที่เบบปุประกอบด้วยแร่ธาตุที่แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ทำให้เกิดเป็นรูปร่างและสีสันต่างกันไป ทั้งสีแดง สีเทา สีฟ้า เป็นต้น จึงเป็นเมืองออนเซ็นที่สำคัญของญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงมาก
ปราสาทคุมาโมโต้ ปราสาทโทนสีดำ ตั้งตระหง่านภายในอาณาบริเวณกว้างใหญ่ ท่ามกลางต้นไม้อันร่มรื่น เป็นปราสาทสำคัญของเมืองคุมาโมโต้ และเป็นหนึ่งในประสาทที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น
เฮ้าส์เทนบอช อาณาจักรแห่งหมู่บ้านฮอลแลนด์ และยังเป็นสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในคิวชู ซึ่งจำลองเอาเมืองแห่งกังหันลมเอามาไว้ที่นี่ ทั้งอาคารสไตล์ดัชต์ กังหันลม และทิวลิป รวมไปถึงเครื่องเล่น และมุมถ่ายรูปสวยๆ มากมาย
4. เกาะเล็กสุด เกาะชิโกะกุ
เกาะชิโกะคุ เกาะที่เล็กที่สุดในบรรดาเกาะใหญ่ทั้งสี่ของญี่ปุ่น ซึ่งมีเพียง 4 จังหวัดเท่านั้น คือ จังหวัดโทคุชิมะ คากาวะ เอฮิเมะ และ โคจิ
ปราสาทมัตสึยะมะ (Matsuyama Castle)
หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ปราสาทคินกิ เป็นปราสาทอันโดดเด่นของชิโกกุ และเป็นหนึ่งในร้อยปราสาทที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น ตั้งอยู่บนเขาคัตสึยามะ ที่สามารถมองเห็นวิวเมืองข้างล่างได้ชัดเจน ด้วยที่ตั้งและตัวปราสาทที่ประกอบไปด้วยหินและประตูใหญ่ จึงปราสาทที่ออกแบบมาทั้งป้องกันและโจมตีได้ดีเยี่ยมอีกด้วย มีความสุงประมาณ 132 เมตร ตัวปราสาทตั้งอยู่กลางเมืองมัตซึยะมะ สร้างขึ้นในในปี ค.ศ.1603 เป็นปราสาทขนาดใหญ่ที่มีความสูงถึงห้าชั้น เป็นจุดชมวิวเมืองอีกแห่งเนื่องจากเห็นสถานที่ต่างๆในเมืองได้เกือบทั้งหมด
โดโกะออนเซ็น (Dogo Onsen)
โดโกะออนเซ็น ตั้งอยู่ในเมืองมัตสึยามะ เป็นแห่งออนเซ็นที่มีน้ำพุร้อนที่เก่าแก่มากกว่า 3,000 ปี และเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีชื่อปรากฏอยู่ในหนังสือเก่าแก่ของญี่ปุ่นหลายเล่ม ซึ่งออนเซ็นที่นี่มีความอ่อนโยนต่อผิว เด็กก็สามารถแช่ได้ สรรพคุณช่วยให้ผ่อนคลายและเลือดไหลเวียนดี
น้ำวนนารุโตะ (Naruto Whirlpools)
เป็นน้ำวนที่เกิดขึ้นตามแนวชายฝั่งทะเลของนารุโตะ ซึ่งจะเกิดขึ้นทุกๆ 6 ชั่วโมง ครั้งละประมาณ 1-2 ชั่วโมง ซึ่งน้ำวนที่นี่ไม่ได้เป็นอันตรายต่อการเดินเรือ เราสามารถดูน้ำวนได้จากการล่องเรือไปดูใกล้ๆ หรือขึ้นไปดูบนสะพานที่เป็นกระจกใส
รู้จักกับ 4 เกาะใหญ่ในญี่ปุ่นกันแล้ว ครั้งหน้าก็สามารถเที่ยวญี่ปุ่นได้หลากหลายกว่าเดิม มองหาที่เที่ยวแปลกใหม่มาเป็นประสบการณ์ดีๆ ได้อีกมากมาย
แลนด์มาร์ก 4 จุดเช็คอินใหม่ ในญี่ปุ่น
แชร์ บทความนี้
พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้