แนวการแต่งตัวและเสื้อผ้าแฟชั่นญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นฮาราจุกุ (Japan) เป็นแนวการแต่งตัวแฟชั่นญี่ปุ่นที่แอ๊บแบ๊วมากที่สุดหรือแนวๆ คอสเพลย์แบบญี่ปุ่นๆ
Cr. elytstyle
Lolita หรือ Lolita Baby (โลลิต้า)
ส่วนมากแฟชั่นญี่ปุ่นแนวนี้จะเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่นสาวๆ มากกว่า เพราะจะออกแนวหวานแหว๋วเหมือนตุ๊กตาน่ารัก เสื้อผ้าในแนวนี้จะเน้นไปทางลูกไม้ ระบาย และสีผ้าที่ดูหวานๆ
Cr. vaportalk
Neo Lolita (นีโอโลลิต้า) Neo Lolita (นีโอโลลิต้า)
Neo Lolita เป็นการนำสไตล์ Lolita มาประยุกต์ให้เป็นแบบแฟชั่นญี่ปุ่นที่ทันสมัย แต่ยังคงความ คลาสสิกเอาไว้ เป็นแฟชั่นที่ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่นโดยเฉพาะสาวๆ
Cr. animekawaiiblog
Gothic & Lolita Gothic & Lolita
แฟชั่นญี่ปุ่นสไตล์ Gothic & Lolita คือ การนำเอาแฟชั่นแนว Gothic และ Lolita มารวมกัน โดยนำเอาความลึกลับของแนว Gothic และความหวานที่เป็นเอกลักษณ์ของแนว Lolita มาผสมผสานกันทำให้ เกิดเป็นแนวใหม่ คือ Gothic & Lolita ที่เห็นเด่นชัดที่สุดคงจะเป็นเสื้อผ้าของ Mana วง Malice Mizer
Cr. cosfee
Punk หรือ JAP’Punk (เจแปนพังค์)
เป็นพังค์ที่ประยุกต์ให้เข้ากับสไตล์์ของญี่ปุ่น ต้นแบบมาจาก UK.Punk และการ์ตูน เรื่อง NANA ของ Ai Yazawa พังค์ในแบบญี่ปุ่น บางทีก็จะอาศัยประยุกต์ระหว่างผ้าลายญี่ปุ่นมาบวกกับการออกแบบในแนวพังค์+
Cr. tokyofashion
Gankuro
สาวๆ จะนิยมทาหน้าทาตัวให้ดำ และย้อมผมสีทอง ใส่ไมโครสเกิร์ตและรองเท้าบูตซึ่งเราจะเรียกว่า แฟชั่นญี่ปุ่น Gankuro-หน้าดำ ซึ่งนับว่า เป็นแฟชั่นที่หลุดโลกมากทีเดียว
Cr. ichuy.deviantart.com
แฟชั่น GAL
พูดถึงแฟชั่นญี่ปุ่นยุคแรกๆ เลย ใครๆ ก็ต้องนึกถึงสาวน้อยหน้าใสใส่ถึงเท้ายาวๆ ย่นๆ ที่เรียกว่า Loose Socks .. ถือว่าเป็นแฟชั่นของเด็กวัยรุ่นยุคดั้งเดิมเลยทีเดียว (ราวๆ ก่อนปี 1998)ซึ่งตอนนี้ ยังมีแตกต่างกันอยู่ แฟชั่นแบบนี้ เราเรียกว่า Gal จึงมีกฎ คือ
1.มีความมั่นใจในความน่ารักของตัวเอง
2. แต่งตัวออกใสๆ น่ารักไว้ก่อน
3. พูดด้วยน้ำเสียงสูงหวาน
4. นุ่งมินิสเกิร์ต (แม้จะเป็นชุดนักเรียน) พร้อม Loose Sock เรียกได้ว่า ขายความใสล้วนๆเลยก็ว่าได้
Cr. storybuku.blogspot.com
กฎเหล็ก Japanese Make Up Style
1. ผิวหน้าจะต้อง เนียน กระจ่างใส ไร้ริ้วรอย
2. ปัดแก้มด้วยสีชมพูเรื่อ หรือ สีพีช
3. ตาจะต้องดูกลมโต ขอบตาชัด มีประกายวิ้ง วิ้ง ขนตายาว หนา และงอน
4. คิ้วโก่งเป็นเอกลักษณ์ สีคิ้วเดียวกับสีผม
แต่ถ้าใครที่ไม่ชอบเดินทางร่วมกันกับผู้อื่นเราขอแนะนำประสบการณ์ในการเดินทางแบบใหม่เรียกว่าการเดินทางแบบเที่ยวส่วนตัวหรือว่า "Group and Go" นั่นเองค่ะ
แชร์ บทความนี้
พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้