พาเที่ยวแบบธรรมชาติบำบัดที่ ประเทศญี่ปุ่น
“จังหวัดโออิตะ” (Oita)
โออิตะ(Oita) เป็นจังหวัดเล็กๆ ในภูมิภาคคิวชู (Kyushu) เป็นภูมิประเทศที่ค่อนข้างจะมีหุบเขาอยู่เยอะมากจนได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่พื้นที่สีเขียวเป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องของน้ำพุร้อนและออนเซ็นเป็นอย่างมาก ซึ่งเราอยากบอกว่าเมืองนี้อากาศจะค่อนข้างบริสุทธิ์ไร้ฝุ่น PM2.5 ชวนให้เราได้เดินเพลิดเพลินกับวิวธรรมชาติแบบไม่มีการแต่งเติมแม้แต่น้อย บรรยากาศที่มีออนเซ็นให้เราไปนั่งแช่แถมถูกรายล้อมไปด้วยหุบเขา ฟิลแบบนี้หายากมากเลยนะคะ แค่นึกภาพตามก็รู้สึกได้รับโอโซนจากธรรมชาติอย่างเต็มปอดแล้ว ให้เราได้พักผ่อนแบบสุดๆ โออิตะ(Oita) เป็นเมืองที่ควรค่าแก่การมาสำรวจ ถือว่าเป็นเมืองที่มีมรดกทางจิตวิญญาณรวมไปถึงศิลปะที่งดงาม และสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติมากทีเดียวค่ะ มาดูกันว่าสถานที่ท่องเที่ยวของ โออิตะ(Oita) ควรไปที่ไหนกันบ้าง มาเริ่มกันเลยทุกคน
หมู่บ้านยูฟูอิน ฟุกุโอกะ (Yufuin Fukuoka)
หมู่บ้านยูฟูอิน หมู่บ้านเล็กๆ ในฟุกุโอกะ ที่ตลบอบอวลไปด้วยความน่ารัก วิถีชีวิตเรียบง่าย ที่ทำให้เราหลงเสน่ห์ได้แบบไม่รู้ตัว หากใครได้ก้าวย่างเข้าไปในหมู่บ้านแห่งนี้ จะต้องหลงรักเสน่ห์ของเมืองนี้กันทุกคน นอกจากความสงบแล้ว หมู่บ้านแห่งนี้ยังมีอากาศที่บริสุทธิ์มากๆ เช่นกัน
หมู่บ้านยูฟูอิน ยังมีสถานที่อีกหลายแห่งและหลากหลายกิจกรรมที่จะทำให้ผู้ไปเยือนนั้นไม่เบื่อ อย่างเช่น กิจกรรมยอดฮิตอย่างการนั่งรถลากโดยมีน้องม้าผู้แข็งแกร่งพาชมเมือง และหมู่บ้านยูฟูอิน ฟลอร์รัล (Yufuin Floral Village) หมู่บ้านสไตล์ยุโรปแห่ง ยูฟูอิน ที่นี่ถือว่าเป็นสถานที่ฮอตฮิตติดกระแสจนกลายมาเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของคิวชูที่ใครไปใครมาต้องแวะมาปักหมุดกันนะคะ
มีน้องม้าพาทัวร์รอบหมู่บ้านด้วยนะคะ
ร้านค้าแต่ละร้านก็จะน่ารักประมาณนี้เลยค่ะทุกคน
การเดินทางจากสนามบินโออิตะไปยังสถานีรถไฟโออิตะ
การเดินทางจากสถานีรถไฟโออิตะไปหมู่บ้านยูฟุอิน ฟลอรัล
-
รถยนต์ จากสถานีรถไฟโออิตะไปยังหมู่บ้านยูฟุอิน ฟลอรัล มีระยะทาง 48 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 49 นาที
-
รถไฟ จากสถานีรถไฟโออิตะ ให้ขึ้นรถไฟสาย Yufu 6Limited ExpressHakata เพื่อไปลงที่สถานี Yufuin Station ใช้เวลา 47 นาที
เวลาเปิด – ปิด
พิกัด Google map
เว็บไซต์
เมืองเบปปุ(Beppu) เมืองแห่งออนเซ็น อันดับ 1 ของญี่ปุ่น
เมืองเบปปุ(Beppu) เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเรียงนามเรื่องบ่อน้ำพุร้อนเป็นอย่างมาก ถึงกับได้ฉายาว่า “8ขุมนรกแห่งเบปปุ” เพราะมีบ่อน้ำพุร้อนถึง 8 แห่ง ได้แก่ Hamawaki Onsen, Beppu Onsen, Kankaiji Onsen, Horita Onsen, Myoban Onsen, Kannawa Onsen, Shibaseki Onsen และ Kamegawa Onsen เมืองนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดโออิตะ(Oita) ซึ่งอยู่ระหว่างทะเลและภูเขา นอกจากเป็นเมืองที่มีบ่อน้ำร้อนมากที่สุดแล้ว ยังเป็นเมืองที่น้ำพุร้อนนั้นคุณสมบัติครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น น้ำพุร้อนธรรมดา น้ำพุเกลือ น้ำพุไบคาร์บอเนต และเอิร์ธสปริงไบคาร์บอเนต เพราะแหล่งน้ำมาจากธรรมชาติจากภูเขาและทะเล ทำให้ไม่มีสารเจือปนเลยแม้แต่น้อย ทำให้ผู้คนทั่วโลกต่างอยากมาแช่ออนเซ็นที่นี่กันเป็นอันดับต้นๆเลยค่ะ
การแช่ออนเซ็นนั้นมีคุณสมบัติมากมาย ไม่ว่าจะช่วยรักษาอาการปวดประสาท ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ ไหล่ติด อัมพาตจากการเคลื่อนไหว ข้อติดแข็ง ฟกช้ำ เคล็ดขัดยอก โรคทางเดินอาหารเรื้อรัง ริดสีดวงทวาร ซึ่งการแช่ออนเซ็นจะช่วยฟื้นตัวจากอาการป่วย ความเหนื่อยล้า ได้ดีมากค่ะ วันนี้เราก็มีภาพบ่อน้ำพุร้อนทั้ง 8 แห่งมาให้เพื่อนๆเพื่อเป็นแนวทางหากใครกำลังเดินทางไปที่นี่ได้ดูว่าจะไปแช่ออนเซนที่ไหนกันดีค่ะ
1. ฮามะวากิ ออนเซ็น Hamawaki Onsen (浜脇温泉)
ฮามาวากิ ออนเซ็น เป็นแหล่งกำเนิดของเบปปุออนเซ็นและมีประวัติยาวนานกว่า 1,400 ปี ฮามาวากิถูกนำมาใช้ในการบำบัดตั้งแต่สมัยโบราณ โดยการรวมตัวกันของบ่อน้ำพุร้อน 2 แห่ง คือฮิงาชิออนเซ็นและนิชิออนเซ็น ในปี 1928 กลายมาเป็น ฮามาวากิออนเซ็น ตอนนี้ถูกเปลี่ยนให้เป็นรีสอร์ทบ่อน้ำพุร้อนอเนกประสงค์มีห้องน้ำพร้อมอ่างอาบน้ำต่างๆ และชั้น 2 มีเลานจ์ ฯลฯ ซึ่งทุกคนสามารถเข้าไปเรียนรู้วิธีการอาบน้ำตามสภาพร่างกายและวัตถุประสงค์ของตัวเองได้เลย แม้ว่าที่นี่จะเป็นน้ำพุร้อนแบบส่วนกลาง แต่คุณภาพของน้ำพุร้อนก็ค่อนข้างดี ไม่ร้อนมาก น้ำพุร้อนที่นี่เป็นน้ำพุร้อนธรรมดา
2. เบปปุ ออนเซ็น Beppu Onsen (別府温泉)
เบปปุ ออนเซ็น มีประวัติศาสตร์อันยาวนานที่อธิบายไว้ในอิโยะคุนิฟุโดกิในช่วงต้นศตวรรษที่ 8 มีบันทึกว่าในสมัยคามาคุระ โอโตโมะ โยริยาสึ ได้ทำบ่อน้ำพุร้อนนี้ โดยคันนาวะ และฮามาวากิ ทำขึ้นเพื่อรักษาซามูไรที่ได้รับบาดเจ็บระหว่างสงครามเกงโกในยุคเมจิ เทคโนโลยีการขุดเจาะโดยคาซุสะก้าวหน้าได้รวดเร็ว ทำให้บ่อน้ำพุร้อน เบปปุเกิดขึ้นและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ทุกวันนี้ มีผู้คนมากกว่า 4 ล้านคนเข้าพักที่ เบปปุ ออนเซ็น ทุกปี และเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นในเรื่องของปริมาณน้ำที่พุ่งออกมา คุณภาพของน้ำพุร้อนที่นี่มี เป็นน้ำพุร้อนธรรมดา น้ำพุร้อนคลอไรด์ และน้ำพุไบคาร์บอเนต
3. คันไคจิ ออนเซ็น Kankaiji Onsen (観海寺温泉)
คันไคจิ ออนเซ็น ตั้งอยู่บนเนินเขาด้านตะวันออกของภูเขา ฟุนาฮาระ(Funahara) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง Beppu ที่นี่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และมีอยู่สองตำนานที่กล่าวว่า บ่อน้ำพุแห่งนี้เปิดในสมัยคามาคุระ (1185-1333) และเปิดโดยนิมน โบซัตสึในปี ค.ศ. 713 นอกจากนี้ยังมีตำนานเก่าแก่ที่ว่าเจ้าหญิงชิกิชิ ลูกสาวคนที่สามของจักรพรรดิโกชิราคาวะ ซึ่งเป็นนักกวีหญิงตั้งแต่สมัยเฮอันตอนปลายถึงต้นยุคคามาคุระ ถูกเผาที่นี่ และมีแหล่งน้ำพุร้อนมากกว่า 1,800 แห่ง และมีชื่อเสียงในด้านทัศนียภาพที่สวยงามที่สุดในบรรดาบ่อน้ำพุร้อนทั้ง 8 แห่งในเบปปุ คุณภาพของน้ำพุร้อนที่นี่ เป็นน้ำพุร้อนโซเดียมคลอไรด์ น้ำพุร้อนธรรมดา
4. โฮริตะ ออนเซ็น Horita Onsen (堀田温泉)
โฮริตะ ออนเซ็น มีประวัติความเจริญรุ่งเรืองในฐานะรีสอร์ทน้ำพุร้อนในพื้นที่ภูเขาอันเงียบสงบซึ่งเปิดให้บริการในสมัยเอโดะ มายาวนาน นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในแปดบ่อน้ำพุร้อนของเบปปุ และเป็นห้องอาบน้ำสาธารณะ ซึ่งตั้งอยู่ที่ทางเข้าด้านตะวันตกของเบปปุ คุณภาพน้ำพุร้อน เป็นน้ำพุร้อนกำมะถันที่มียูโนะฮานะลอยอยู่ในอ่างอาบน้ำ และกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของน้ำพุร้อนกำมะถันจะอบอวลในอากาศ
5. เมียวบัง ออนเซ็น Myoban Onsen (明礬温泉)
เมียวบัง ออนเซ็น พัฒนาเป็นรีสอร์ตน้ำพุร้อน ซึ่งเค้าว่ากันว่าสามารถรักษาโรคผิวหนังได้ เมียวบัง มีมาตั้งแต่ยุคทองในทศวรรษที่ 10 ของยุคโชวะและช่วงหลังสงคราม คุณภาพของน้ำพุร้อน คือน้ำพุร้อนไฮโดรเจนซัลไฟด์ที่เป็นกรดและน้ำพุร้อนสีเขียว น้ำพุร้อนมีประสิทธิภาพสำหรับโรคประสาท โรคไขข้อ โรคผิวหนัง ฯลฯ
6. คันนาวะ ออนเซ็น Kannawa Onsen (鉄輪温泉)
คันนาวะ ออนเซ็น มีประวัติอันยาวนานและได้รับการอธิบายไว้ ในปี 713 กล่าวกันว่าบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้เปิดโดย อิปเปน ชอนอิน (Ippen Shonin) ในสมัยคามาคุระ นอกจากนี้ ยังมีโรงอาบน้ำรวมแปดแห่งในเมือง เบปปุ และมีโรงแรมให้เช่าอยู่รวมกันหนาแน่น ทำให้ได้บรรยากาศของน้ำพุร้อนแบบสมัยเก่า ไอน้ำพุ่งขึ้นจากทุกหนทุกแห่ง โดยมีน้ำพุร้อนที่มีอุณหภูมิมากกว่า 90 องศาเซลเซียส และมีน้ำสีฟ้าโคบอลต์ เช่น ชิโนอิเกะ คามาโดะ และภูเขาจิโกคุ มีกลิ่นหอมเข้มข้นและเกลือในปริมาณที่เหมาะสม ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมแร่ธาติและสารอาหารของน้ำพุร้อนได้ดี คุณภาพของน้ำพุร้อน คือน้ำพุโซเดียมคลอไรด์
7. ชิบาเซกิ ออนเซ็น Shibaseki Onsen (柴石温泉)
ชิบาเซกิ ออนเซ็น เป็นรีสอร์ทน้ำพุร้อนที่เงียบสงบทางตอนเหนือของ คันนาวะ ออนเซ็น ประวัติของน้ำพุร้อนแห่งนี้เก่าแก่มาก ในช่วงปี ค.ศ. 895 “จักรพรรดิไดโงะ” ได้เสด็จมาเยี่ยมเยียนและแช่น้ำพุร้อน และในปี ค.ศ. 1044 “จักรพรรดิโกชิราคาวะ” ทรงเข้ารับการรักษาพระอาการประชวร ชื่อของที่นี่มีที่มาจากการพบฟอสซิลของชิบะในสมัยเอโดะ ปัจจุบันเป็นน้ำพุร้อนของเทศบาล ทุกคนสามารถเพลิดเพลินกับบ่อน้ำพุร้อน 2 บ่อที่มีอุณหภูมิต่างกัน เป็นบ่อแบบเปิดโล่ง และ บ่อแบบอบไอน้ำ คุณภาพของน้ำพุร้อน คือน้ำพุร้อนที่มีโซเดียม-ไฮโดรเจนคาร์บอเนต คลอไรด์ และซัลเฟต (เป็นด่างอ่อนๆ ไฮโปโทนิก น้ำพุร้อนที่มีอุณหภูมิสูง)
8. คาเมะกาวะ ออนเซ็น Kamegawa Onsen (亀川温泉)
คาเมะกาวะ ออนเซ็น เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีความเป็นชนบท แบบญี่ปุ่นสมัยโบราณ และยังอยู่ติดกับทะเล ทำให้น้ำพุร้อนมีส่วนผสมของเกลือ รีสอร์ทน้ำพุร้อนแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของเมืองเบปปุ และตรงชายหาดก็มีการอบทรายร้อนแบบธรรมชาติอีกด้วยค่ะ คุณภาพของน้ำพุร้อน เป็นน้ำพุร้อนคลอไรด์ อุณหภูมิน้ำพุร้อนอยู่ที่ 50 ถึง 70 องศา
นอนอบทรายร้อนริมหาด (Beppu Kaisen Sunayu)
บ่ออบทรายร้อน เบปปุ ไคเซ็น ซุนะยุ ตั้งอยู่บนนชายหาดใกล้กับท่าเรือ บริเวณชายหาดจะมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทำหน้าที่กลบทรายชุ่มน้ำร้อนให้จนทั่วเรือนร่าง และหลังจากอบทรายประมาณ 10-15 นาทีจนเหงื่อออก คนจะนิยมไปล้างตัวในห้องออนเซ็นแบบแยกชายหญิง พร้อมกับแช่น้ำร้อนให้สบายตัว
บ่ออบทรายร้อนแห่งนี้รองรับผู้มาใช้บริการได้ครั้งละ 10 คน นอกจากนี้ยังมีทั้งกันสาดสำหรับกันฝนและร่มกันแดดเตรียมพร้อมไว้ให้เราด้วยค่ะทุกคน
ชิมอาหารสุขภาพ ที่นึ่งจากน้ำแร่ “จิโกะคุมุชิ” (Jigoku Mushi)
หลังจากอบทราย และแช่ออนเซ็นกันเรียบร้อยแล้ว เมืองเบปปุ(Beppu) ยังขึ้นชื่อเรื่องเมนูอร่อยซึ่งปรุงอาหารให้สุกโดยการนึ่งด้วยไอน้ำอุณหภูมิสูงที่ลอยขึ้นมาจากน้ำพุร้อน เรียกว่า “จิโกะคุมุชิ (Jigokumushi)” เป็นเมนูพิเศษหาทานได้เฉพาะที่เมืองเบปปุเท่านั้น การปรุงอาหารด้วยวิธีนี้จะช่วยดึงรสชาติของวัตถุดิบให้อร่อยมากยิ่งขึ้น และยังคงรักษาคุณค่าทางโภชนาการของอาหาร จึงทำให้ได้อาหารที่ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพค่ะ
อาหารน่ากินมาก
การเดินทาง
พิกัด Google map
เว็บไซต์
*ต้องบอกเลยนะคะว่า จังหวัดโออิตะ(Oito) เหมาะมากที่จะไปพักสมองและร่างกาย และมีที่เที่ยวเยอะจริงๆค่ะ แต่ละที่ก็มีสตอรี่ที่หน้าสนใจและหน้าข้นหามากมายเลยทีเดียว ซึ่งการเที่ยวให้ได้อรรถรสเราต้องเปิดใจ เรียนรู้วัฒนธรรม อารยะธรรม ของแต่ละสถานที่นะคะทุกคน หวังว่าที่เรานำมาฝากจะแนวทางที่ดีสำหรับการท่องเที่ยวให้เพื่อนๆนะคะ
เว็บไซต์ : https://www.wonderfulpackage.com/
Facebook : www.facebook.com/wonderfulfanpage
#wonderfulpackage #Oita #Beppu #Yufuin #ThaiAirways #่japan #travel2023 #โออิตะ #ที่เที่ยวญี่ปุ่น #ที่เที่ยวญี่ปุ่น2023 #เที่ยวญี่ปุ่น #ทัวร์ญี่ปุ่น #่japan2023
แชร์ บทความนี้
พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้