อัพเดททริปฮ่องกง 2024 เช็คอินสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ล่าสุด ห้ามพลาด!

ฮ่องกง เมืองที่ไม่เคยหลับใหล เต็มไปด้วยสีสัน ความคึกคัก และสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีๆ ฮ่องกงก็ยังดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะคนไทยเรามีแพลนไปเที่ยวฮ่องกงเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ และหลายคนไปซ้ำมาหลายรอบ เพราะฉะนั้นเรามาอัพเดททริปฮ่องกง 2024 กันดีกว่า ว่าฮ่องกงมีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่ไหนน่าสนใจรอให้คุณไปเช็คอินอีกบ้าง ตามไปดูกันเลย

1. ทริปฮ่องกง 2024: M+ Museum

มาเริ่มต้นอัพเดท ทริปฮ่องกง 2024 เปิดประสบการณ์ศิลปะแบบใหม่ที่ไม่เหมือนใคร พิพิธภัณฑ์ศิลปะและวัฒนธรรมสมัยใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก M+ Museum ตั้งอยู่ใจกลางย่านวัฒนธรรม West Kowloon Cultural District ปิดให้บริการครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 2021 มีพื้นที่จัดแสดงกว่า 65,000 ตารางเมตรและนำเสนอศิลปะร่วมสมัยจากหลากหลายสาขา รวมถึงศิลปะภาพยนตร์ วัฒนธรรม และเทคโนโลยีใหม่ๆ ภายในเต็มไปด้วยงานศิลปะและวัฒนธรรมจากทั่วเอเชีย เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะและต้องการเรียนรู้วัฒนธรรม แต่ก็ยังได้เที่ยวแบบอาร์ทๆ มีมุมถ่ายรูปสวยๆ รับรองว่าได้รูปไปโชว์ในโซเชียลแบบรัวๆ

M+ Museum มีอะไรน่าสนใจบ้าง

• สถาปัตยกรรมที่โดดเด่น M+ Museum ได้รับการออกแบบโดยบริษัทสถาปัตยกรรมระดับโลกอย่า Herzog & de Meuron ซึ่งมีชื่อเสียงจากการออกแบบพิพิธภัณฑ์หลายแห่งทั่วโลก ตัวอาคารของ M+ มีดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่ทันสมัยด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ที่มองเห็นวิวท่าเรือวิคตอเรีย (Victoria Harbour) ได้อย่างงดงาม การออกแบบภายในยังให้ความรู้สึกกว้างขวางและโปร่งสบาย ช่วยเพิ่มบรรยากาศการชมงานศิลปะให้สมบูรณ์แบบ
• คอลเลกชันศิลปะระดับโลก M+ รวบรวมผลงานศิลปะร่วมสมัยทั้งจากเอเชียและทั่วโลก ครอบคลุมงานศิลปะหลายแขนง เช่น:
  • ศิลปะการออกแบบและสถาปัตยกรรม: การจัดแสดงผลงานที่เกี่ยวกับการออกแบบอุตสาหกรรม สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมการใช้ชีวิตร่วมสมัย
  • ภาพเคลื่อนไหวและวิดีโออาร์ต: รวมถึงผลงานภาพยนตร์ แอนิเมชัน และวิดีโออาร์ตที่แสดงถึงแนวคิดใหม่ๆ
  • ศิลปะภาพถ่ายและสื่อดิจิทัล: ผลงานที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์ เช่น ภาพถ่ายดิจิทัลและสื่ออินเตอร์แอคทีฟ
• นิทรรศการพิเศษ M+ Museum มีการจัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียนตลอดทั้งปี ซึ่งแต่ละนิทรรศการนำเสนอผลงานจากศิลปินระดับโลก รวมถึงนิทรรศการศิลปะที่เน้นประเด็นทางสังคม วัฒนธรรม และเทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน
• พื้นที่การเรียนรู้และการสัมมนา นอกจากการจัดแสดงงานศิลปะแล้ว M+ ยังมีพื้นที่สำหรับการศึกษาและจัดสัมมนาเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านศิลปะและวัฒนธรรม นอกจากนี้ยังมีห้องสมุดที่รวบรวมหนังสือและสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับศิลปะให้ผู้เยี่ยมชมได้ค้นคว้า เรียกได้ใครเป็นสายศิลปะ มาที่ M+ Museum ที่เดียวรับรองว่าคุ้มค่าแก่การมาสุดๆ

การเดินทาง

• M+ Museum เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10:00 น. ถึง 18:00 น.
• ค่าเข้าชมจะแตกต่างกันไปตามประเภทของบัตรที่เลือก

2. ศูนย์การแสดง Xiqu Centre

ไปที่ West Kowloon ทั้งที ก็เลยแนะนำต่ออีกสักแห่ง Xiqu Centre เปิดให้บริการในปี 2019 โดยมีการออกแบบอาคารที่ทันสมัยแต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมจีน ที่นี่เป็นหนึ่งในศูนย์การแสดงที่สำคัญในฮ่องกง อย่าเพิ่งคิดว่าน่าเบื่อถ้ายังไม่ไปเห็นของจริง เพราะแค่ตึกด้านนอกก็อลังการและทันสมัยมากๆ ด้วยการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมจีนดั้งเดิมและการออกแบบสมัยใหม่ ทำให้เป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปเช็คอินที่ไม่ควรพลาด

ภายในมีโรงละครที่ทันสมัย จัดแสดงงิ้วกวางตุ้ง และการแสดงงิ้วประเภทอื่นๆ จากทั่วประเทศจีน การแสดงดนตรี นอกจากนี้ยังมีการแสดงงิ้วแบบย่อในบรรยากาศโรงน้ำชา ที่คุณสามารถสัมผัสกับวัฒนธรรมจีนดั้งเดิมขณะชมการแสดงและลิ้มรสชาพร้อมขนมของจีน และนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และศิลปะการแสดงงิ้วจีน รวมถึงเวิร์กช็อปและกิจกรรมสำหรับผู้สนใจเรียนรู้เกี่ยวกับงิ้วจีน

• Xiqu Centre เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10:00 น. ถึง 22:00 น.
• สามารถจองบัตรเข้าชมการแสดงผ่านเว็บไซต์ของ Xiqu Centre หรือที่บูธจำหน่ายบัตรที่ศูนย์การแสดง

3. K11 MUSEA

ฮ่องกงแดนช้อปปิ้ง เราจะมาช้อปปิ้งที่ใหม่ๆ กันที่ K11 MUSEA เป็นศูนย์การค้าและวัฒนธรรมที่หรูหราตั้งอยู่ในย่าน Victoria Dockside ของ Tsim Sha Tsui เปิดให้บริการในปี 2019 ซึ่งมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร พื้นที่จัดแสดงงานศิลปะ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ความไม่ธรรมดาอยู่ที่การผสมผสานระหว่างศิลปะและการออกแบบที่ทันสมัย ทำให้เป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับคนที่ชอบช้อปปิ้ง แต่ก็ยังได้ฟีลศิลปะแบบอาร์ทๆ มีมุมถ่ายรูปเก๋ๆ เพียบ

ห้าง K11 MUSEA มีร้านค้าแบรนด์หรูและร้านบูติกที่น่าสนใจมากมาย เช่น Gucci, Prada, และ Alexander McQueen รวมถึงแบรนด์ท้องถิ่นและดีไซเนอร์ที่กำลังมาแรง ร้านค้าและบูติกมากกว่า 250 ร้านที่เสนอสินค้าแฟชั่น ความงาม และไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย มีร้านอาหารและคาเฟ่มากมายที่ให้บริการอาหารหลากหลายสไตล์ เช่น อาหารญี่ปุ่น, อาหารยุโรป, และอาหารท้องถิ่น

การเดินทาง

• การเดินทาง MTR: นั่งรถไฟใต้ดินสาย Tsuen Wan Line มาลงที่สถานี Tsim Sha Tsui (ทางออก E) หรือ East Rail Line มาลงที่สถานี East Tsim Sha Tsui (ทางออก L6)

4. LEGOLAND® Discovery Centre

สนามเด็กเล่นในร่มที่ดีที่สุด ที่จะมาเติมเต็มทุกจินตนาการและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ LEGOLAND® Discovery Centre Hong Kong ตั้งอยู่ที่ K11 MUSEA บนฝั่งเกาลูน อันหรูหรา เป็นแหล่งช้อปปิ้งและศูนย์วัฒนธรรมระดับไฮเอนด์ของฮ่องกง ซึ่งเลโก้แลนด์ของที่นี่เปิดให้บริการในปี 2021 เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในร่มที่เหมาะสำหรับครอบครัวและเด็กๆ โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบการสร้างสรรค์และเล่นสนุกกับ LEGO จะเป็นประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยการเรียนรู้และความบันเทิงในบรรยากาศที่เหมาะสำหรับครอบครัว ที่มาพร้อมพื้นที่ให้เล่นสนุกตามธีมเลโก้ที่น่าตื่นเต้นถึง 10 แห่งด้วยกัน ถ้าใครไปเที่ยวฮ่องกงเป็นครอบครัว หรือมีเด็กๆ ไปด้วย แนะนำเลยว่าควรต้องไป เพราะที่นี่จะมีกิจกรรมที่เหมาะสำหรับครอบครัว

ในส่วนของเลโก้แลนด์ฮ่องกงที่แตกต่างจากเลโก้แลนด์ที่อื่นก็คือ MINILAND® Hong Kong ซึ่งเป็นแบบจำลองเลโก้ขนาดจิ๋วของอาคารและสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของฮ่องกง สร้างขึ้นจากตัวต่อเลโก้กว่า 1.5 ล้านชิ้น ซึ่งกว่าจะได้มินิแลนด์แบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะต้องระดมผู้สร้างเลโก้ 46 คน นักออกแบบเลโก้ 9 คน และช่างเทคนิคอีก 4 คน ใช้เวลาในการสร้างสรรค์ผลงานสุดอลังการนี้กว่า 7,150 ชั่วโมง

ใน Legoland มีอะไรน่าสนใจบ้าง

• MINILAND ฮ่องกงจำลองจาก LEGO หนึ่งในไฮไลท์สำคัญของ LEGOLAND Discovery Centre ซึ่งเป็นการจำลองสถานที่สำคัญและแลนด์มาร์กต่างๆ ของฮ่องกง เช่น วิคตอเรียฮาร์เบอร์, ยอดเขาวิคตอเรียพีค, และ Tsing Ma Bridge ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นด้วยเลโก้กว่าหลายล้านชิ้นฃ
• LEGO Play Zones ที่เลโก้แลนด์แห่งนี้ มีกิจกรรมและโซนสร้างสรรค์หลายแห่งให้เด็กๆ ได้พัฒนาจินตนาการและทักษะการแก้ปัญหา โซนต่าง ๆ ที่น่าสนใจ เช่น:
  • LEGO Racers Build & Test: โซนที่เด็กๆ สามารถสร้างรถจากเลโก้ และทดสอบความเร็วในสนามแข่ง
  • LEGO Friends: โซนที่เหมาะสำหรับเด็กที่ต้องการสร้างบ้านและพื้นที่ชุมชนจาก
  • LEGO Duplo Farm: โซนสำหรับเด็กเล็กในการสร้างและเล่นกับบล็อก Duplo ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
• โรงภาพยนตร์ 4D สนุกสนานไปกับประสบการณ์ภาพยนตร์ 4D Cinema ที่มีให้ชมเฉพาะที่ LEGOLAND Discovery Centre โดยเป็นการฉายภาพยนตร์ LEGO แบบ 4 มิติที่มาพร้อมเอฟเฟกต์เสมือนจริง เช่น ลม น้ำ และหิมะ เพิ่มความตื่นเต้นยิ่งขึ้นไปอีก
• LEGO Factory Tour เรียนรู้กระบวนการผลิต LEGO ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบไปจนถึงการขึ้นรูปใน LEGO Factory Tour ที่นี่เด็กๆ จะได้เห็นการทำงานของเครื่องจักรที่ผลิตบล็อกเลโก้ และเรียนรู้ว่าชิ้นส่วนแต่ละชิ้นถูกทำขึ้นมาอย่างไร
• Master Builder Academy เด็กๆ จะได้เข้าร่วมเวิร์กช็อปกับ Master Builders ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการสร้างเลโก้ โดยจะมีการสอนเทคนิคการสร้างสรรค์และทักษะพิเศษในการออกแบบและประกอบเลโก้ให้กับเด็กๆ ในบรรยากาศที่สนุกสนานและเป็นกันเอง

การเดินทาง

• การเดินทาง MTR: นั่งรถไฟใต้ดินสาย Tsuen Wan Line มาลงที่สถานี Tsim Sha Tsui (ทางออก E) หรือ East Rail Line มาลงที่สถานี East Tsim Sha Tsui (ทางออก L6) ไปยังห้าง K11 MUSEA

5. Ocean Park Waterworld

โอเชี่ยนปาร์ค วอเตอร์เวิลด์ (Ocean Park Water World) เป็นโซนที่เปิดใหม่ล่าสุดในสวนสนุกโอเชี่ยนปาร์คเมื่อเดือนกันยายน 2021 ตั้งอยู่บนเกาะฮ่องกงฝั่งใต้ ณ ย่านหว่องชุกหัง (Wong Chuk Hang) หลังจากที่ใช้เวลาในการก่อสร้างเป็นเวลานานถึง 4 ปี ซึ่งที่นี่จะได้เล่นสนุกตลอดทั้งปี เพราะเป็นสวนน้ำที่เปิดให้เที่ยวตลอดปี เที่ยวได้ทุกฤดูกาล แห่งเดียวในเอเชีย ซึ่งสวนน้ำขนาดยักษ์แห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางทัศนียภาพที่มีภูเขาล้อมรอบ แล้วยังได้พบกัววิวทิวทัศน์ของทะเลจีนใต้ที่สวยงาม สวนสนุกที่สามารถเพลิดเพลินกันได้ทั้งครอบครัว ได้สนุกสนานกับเครื่องเล่นที่อยู่ในพื้นที่ขนาด 400,000 ตารางฟุต ซึ่งเป็นที่ตั้งของโซนน้ำทั้งห้า พร้อมจุดเที่ยวชมอีก 27 แห่ง รวมถึงสระน้ำในร่มขนาดใหญ่ยักษ์และสไลเดอร์น้ำอีก 9 แห่ง ถือเป็นสวนน้ำแห่งแรกของฮ่องกงที่ได้รับการออกแบบให้มีทั้งโซนกลางแจ้งและในร่ม พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ได้สนุกสนานไปกับกิจกรรมทางน้ำหลากหลายประเภทในที่เดียว เครื่องเล่นที่น่าสนใจก็อย่างเช่น

• Surf Striker: จำลองการโต้คลื่นสุดมันส์ ที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนกำลังท่องคลื่นขนาดใหญ่
• Torrential River: สไลเดอร์ที่จำลองความแรงของกระแสน้ำจากแม่น้ำที่ทำให้ผู้เล่นต้องกรีดร้อง
• Thunder Loop: สไลเดอร์น้ำที่มีความเร็วและการหมุนวนเป็นลูปเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความตื่นเต้น

การเดินทาง

• เดินทางด้วยรถไฟ MTR: สาย South Island Line (สายสีเขียวอ่อน) ให้ไปลงที่สถานีรถไฟ Ocean Park Station ใช้ทางออก B ซึ่งจะเชื่อมกับทางเข้าเลย

6. Avenue of Stars โฉมใหม่

ใครเคยไป Avenue of Stars กันมาแล้วบ้าง? ล่าสุดเมื่อไหร่กันนะ ใครยังไม่ได้อัพเดท มาอัพเดทโฉมใหม่กันหน่อย เพราะเค้ามีช่วงปิดปรับปรุงมายาวนาน แล้วก็เปิดให้บริการอีกครั้งในปี 2019 เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นที่สุดของฮ่องกงที่ยังไงก็ควรต้องมาเดินเล่นกินลมชมวิว พร้อมสัมผัสบรรยากาศของซุเปอร์สตาร์แห่งเกาะฮ่องกง และยังเป็นจุดชมการแสดงแสงสียามค่ำคืนที่สวยที่สุด หนึ่งในทริปฮ่องกง 2024 ที่ไม่ควรพลาด

Avenue of Stars โฉมใหม่มีการออกแบบที่ทันสมัยโดยบริษัท James Corner Field Operations (ผู้ออกแบบ High Line ในนิวยอร์ก) มีการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน มีการเพิ่มพื้นที่สีเขียวและจุดพักผ่อนต่างๆ พร้อมกับที่นั่งริมทะเลที่ทำให้สามารถเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ของอ่าววิกตอเรียได้แบบเต็มที่ รูปปั้นของดาราฮ่องกง เช่น บรูซ ลี ยังคงเป็นจุดเด่นและเป็นที่นิยมสำหรับการถ่ายภาพ มีการเพิ่มรูปปั้นและประติมากรรมใหม่ๆ และหน้าจอข้อมูลดาราฮ่องกงแบบอินเตอร์แอคทีฟ ทางเดินใหม่มีความกว้างขวางและสะดวกสบายมากขึ้น มีการสร้างสะพานลอยฟ้าสำหรับการเดินเท้าเพื่อเชื่อมต่อกับสวนสาธารณะและแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง มีการเพิ่มร้านค้าและร้านอาหารใหม่ๆ ในบริเวณนี้ เพลิดเพลินกับอาหารและช้อปปิ้งได้

การเดินทาง

• การเดินทาง: Avenue of Stars ตั้งอยู่ที่ Tsim Sha Tsui Promenade สามารถเดินทางได้ง่ายด้วย MTR มาลงที่สถานี Tsim Sha Tsui (ทางออก E) และเดินต่อไปยัง Promenade
• เวลาเปิดให้บริการ: เปิดให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีค่าเข้าชม

7. รถราง Peak Tram ปรับโฉมใหม่

รถราง Peak Tram สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม หนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของฮ่องกง เป็นรถรางสองชั้นที่เก่าแก่ที่สุดในโลก พาคุณขึ้นสู่ Victoria Peak ชมวิวเมืองฮ่องกงแบบ 360 องศา ซึ่งก็ได้ปรับปรุงใหม่ให้สามารถใช้งานได้ดีและรองรับนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งรถราง Peak Tram โฉมใหม่นี้ใช้โทนสีเดียวกับรถรางสีเขียวสุดคลาสสิกที่เคยใช้ในอดีต ทำให้ได้รำลึกถึงความเก่าแก่ของรถรางสมัยก่อน นอกจากนี้ยังเพิ่มความจุมากขึ้น สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 210 คน และยังขยายขนาดหน้าต่างเพื่อให้สามารถชมวิวมุมสูงของวิคตอเรียพีคได้แบบพาโนราม่าแบบไม่มีอะไรมาบดบังความงามที่อยู่ตรงหน้า

มาดูกันว่าการปรับปรุงครั้งใหญ่ของ Peak Tram มีอะไรน่าสนใจบ้าง

• ดีไซน์รถรางใหม่ที่ทันสมัย โดยรถราง Peak Tram ได้ออกแบบรถรางใหม่ทั้งหมด มีการปรับปรุงให้มีความกว้างขวางขึ้นเพื่อรองรับผู้โดยสารได้มากขึ้นจากเดิม รวมถึงดีไซน์ภายในที่ทันสมัยและมีความโปร่งสบาย สามารถมองเห็นวิวได้อย่างเต็มตาตลอดการเดินทาง
• ความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น นอกจากความทันสมัยแล้ว รถรางใหม่ยังถูกออกแบบให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ทั้งในเรื่องของระบบเบรกและการควบคุมที่มีความแม่นยำ เพื่อความมั่นใจตลอดการเดินทางขึ้นลงเขา
• การปรับปรุงสถานี ทั้งสถานีขึ้นและลงของ Peak Tram ได้รับการปรับปรุงเพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้บริการ โดยมีการสร้างพื้นที่รอคอยที่กว้างขวางและสะดวกสบาย พร้อมกับการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ รวมถึงการจัดแสดงนิทรรศการที่บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของ Peak Tram ให้เราได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมาของพีคแทรมในระหว่างรอขึ้นรถราง
• ประสบการณ์การชมวิวที่สมบูรณ์แบบ เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขาวิคตอเรียพีค จะได้สัมผัสกับวิวที่งดงามของเกาะฮ่องกงและวิคตอเรียฮาร์เบอร์จากจุดชมวิว Sky Terrace 428 ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดของฮ่องกง นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และสถานที่ถ่ายรูปยอดนิยมที่ทำให้การเยี่ยมชมยอดเขาวิคตอเรียพีคอีกมากมาย

การเดินทาง

• การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า MTR เป็นวิธีที่สะดวกและเร็วที่สุดในการเดินทางไปยังสถานีเซ็นทรัล (Central) ซึ่งเป็นสถานีที่ใกล้กับจุดเริ่มต้นของรถราง Peak Tram

8. The Lion Rock Nature Park

หลบหนีจากความวุ่นวายในตัวเมือง มาเที่ยวธรรมชาติสวยๆ กันบ้าง The Lion Rock Nature Park เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่บนยอดเขา Lion Rock เหมาะสำหรับการเดินป่า ชมวิวเมืองฮ่องกง และสัมผัสธรรมชาติ เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและเป็นที่ชื่นชมของธรรมชาติในฮ่องกง โดย Lion Rock Nature Park เป็นหนึ่งในพื้นที่ธรรมชาติที่สวยงามที่สุดของฮ่องกง ตั้งอยู่ในเขต Lion Rock Country Park ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ของเขตเกาลูน (Kowloon) และเขตนิวเทอร์ริทอรีส์ (New Territories) เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะที่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการเดินป่า ชมวิวทิวทัศน์ที่น่าทึ่งของเมืองและธรรมชาติที่สวยงามของฮ่องกง โดยไฮไลท์สำคัญของที่นี่ก็คือ Lion Rock ซึ่งเป็นยอดเขาที่มีรูปร่างคล้ายกับสิงโตที่หมอบอยู่

ที่นี่มีเส้นทางเดินเขาที่น่าสนใจมาก ซึ่งมีระยะทางและความยากขึ้นต่างกัน บางเส้นทางอาจต้องใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง แต่เมื่อไปถึงจะได้พบกับวิวที่สวยงามและประสบการณ์ที่น่าจดจำ เรียกได้ว่าขึ้นไปหายเหนื่อยเลยล่ะ ถ้าใครจะไปก็อย่าลืมฟิตร่างกายให้พร้อม และเตรียมอุปกรณ์สำหรับเดินป่า อาหาร เครื่องดื่มกันด้วย ซึ่งเมื่อขึ้นมาถึงด้านบนจะเป็นจุดชมวิวยอดฮิตที่มองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองฮ่องกงและภูเขาวิคตอเรียพีคที่สวยงามในมุมมองที่ต่างจากเดิม 

มีอะไรน่าสนใจที่ Lion Rock Nature Park

• การเดินป่าท้าทายขึ้นสู่ยอด Lion Rock หนึ่งในกิจกรรมยอดนิยมสำหรับสายธรรมชาติและสายแอดเวนเจอร์ ไม่ควรพลาดการเดินป่าขึ้นไปบนยอด Lion Rock ซึ่งตั้งอยู่ที่ระดับความสูงประมาณ 495 เมตรจากระดับน้ำทะเล เส้นทางการเดินป่าที่นี่มีความท้าทาย และเหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ในการเดินป่ามาก่อน แต่วิวที่งดงามของเกาะฮ่องกงและวิคตอเรียฮาร์เบอร์จากยอดเขาก็เป็นรางวัลที่คุ้มค่า ที่ควรค่าแก่การขึ้นไปชมสักครั้ง
• วิวทิวทัศน์ที่สวยงามของฮ่องกง จากยอดเขา Lion Rock สามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่งดงามของเกาะฮ่องกง ฝั่งเกาลูน และวิคตอเรียฮาร์เบอร์ โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตก ซึ่งทำให้บรรยากาศดูงดงาม และมีมนต์เสน่ห์มากขึ้น
• ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ Lion Rock Nature Park เป็นส่วนหนึ่งของ Lion Rock Country Park ซึ่งมีพื้นที่ป่าที่อุดมสมบูรณ์และมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง ที่นี่มีพืชและสัตว์ป่าหลายชนิด เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการสำรวจธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังมีจุดพักผ่อน และพื้นที่สำหรับการปิกนิกอีกด้วย

การเดินทาง

• การเดินทาง: สามารถเดินทางไปยัง Lion Rock Nature Park โดยใช้รถส่วนตัวหรือรถแท็กซี่ หรือใช้บริการของรถสาธารณะเช่น รถประจำทาง

9. Dragontail

Dragontail หรือที่รู้จักกันในชื่อ Dragon's Back เป็นเส้นทางเดินเขาที่ได้รับความนิยมมากในฮ่องกง ด้วยทิวทัศน์ที่สวยงามและการเดินทางที่ไม่ยากเกินไป ทำให้ Dragon's Back เป็นหนึ่งในจุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่รักการผจญภัยและธรรมชาติ ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณทางตะวันออกเฉียงใต้ของฮ่องกง การเดินขึ้นเขาไปยังดราก้อนเทล เป็นเส้นทางที่ผ่านป่าไม้, เนินเขา และทุ่งหญ้า ทำให้คุณได้สัมผัสกับธรรมชาติที่หลากหลาย เส้นทางนี้มีการขึ้นลงเนินที่ท้าทาย แต่ไม่ยากเกินไป มือใหม่ก็สามารถไปได้ แต่อย่าลืมเตรียมร่างกายให้พร้อม เมื่อขึ้นไปถึงด้านบนจะพบกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลและเกาะต่างๆ ที่อยู่โดยรอบ รวมถึงชายหาด Shek O และ Big Wave Bay

การเดินทาง

• การเดินทางโดยรถไฟใต้ดิน (MTR): นั่งรถไฟสาย Island Line ไปยังสถานี Shau Kei Wan และออกทางออก A3
• โดยรถบัส: จากสถานี Shau Kei Wan, ขึ้นรถบัสสาย 9 ไปยัง To Tei Wan ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางเดินเขา

10. หมู่บ้านชาวประมง Tai O

พบกับบรรยากาศของหมู่บ้านชาวประมงที่เงียบสงบและสวยงามของ หมู่บ้านชาวประมง Tai O หมู่บ้านชาวประมงดั้งเดิมบนเกาะลันเตาที่มีเอกลักษณ์น่าสนใจ บ้านเรือนเก่าที่มีโครงสร้างไม้และหินที่สร้างขึ้นเหนือน้ำยังคงสภาพบ้านเรือนและวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ไปสำรวจชุมชนชาวประมง ขึ้นเรือดูปลาโลมา มีตลาดอาหารทะเลให้คุณได้ลิ้มลองอาหารทะเลสดใหม่ๆ ที่เพิ่งขึ้นมาจากทะเล ซึ่งมีหลายร้านค้าที่ขายอาหารทะเล และยังมีอาหาร ขนมพื้นเมืองให้เราได้ลองชิม ที่นี่เหมาะแก่การสัมผัสวัฒนธรรมและชีวิตของชาวประมง สำรวจธรรมชาติแห่งท้องทะเล และอาหารทะเล

แชร์ บทความนี้

พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้