อยากให้ได้ไปเห็นด้วยตาตัวเองกันจริงๆ กำแพงเมืองจีน 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ที่ UNESCO ยกย่อง ด้วยความยาวกว่า 20,000 กิโลเมตร กำแพงเมืองจีนจัดเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของจีน และยังเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่ง ความอดทน และภูมิปัญญาของชาวจีนโบราณด้วย ว่ากันว่าถ้าไปยืนอยู่บนดวงจันทร์ แล้วมองกลับมายังโลกก็ยังมองเห็นกำแพงเมืองจีน
กำแพงเมืองจีนนั้นครอบคลุมพื้นที่ 9 มณฑล คือ เหลียวหนิง (Liaoning), เทียนจิน (Tianjin), เหอเป่ย์ (Hebei), ปักกิ่ง (Beijing), เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน (Inner Mongolia), ซานซี (Shanxi), ส่านซี (Shaanxi), เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย (Ningxia) และกานซู (Gansu) ด้วยความยิ่งใหญ่นี้ ชาวจีนจึงเรียกมันว่า "กำแพงหมื่นลี้" มาดูว่าด่านไหนที่ต้องปักหมุดกันนนน!!
1. กำแพงเมืองจีน ด่านปาต้าหลิง
ด่านยอดนิยมที่ใครๆ ก็ต้องมา เพราะอยู่ใกล้กับกรุงปักกิ่ง มีกระเช้าลอยฟ้าให้ชมวิวสุดอลังการ ไม่ต้องเดินให้เมื่อย และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
กำแพงเมืองจีนที่ด่านปาต้าหลิง (Badaling) เป็นหนึ่งในส่วนที่มีชื่อเสียงและได้รับการอนุรักษ์อย่างดีที่สุดของกำแพงเมืองจีน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กรุงปักกิ่ง ด่านนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในฐานะจุดป้องกันเชิงยุทธศาสตร์ที่ใช้ป้องกันการรุกรานจากศัตรูในอดีต และยังเป็นจุดที่จักรพรรดิและกองทัพใช้เดินทางข้ามผ่านในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ด้วยโครงสร้างที่ยิ่งใหญ่และวิวทิวทัศน์ที่งดงาม ทำให้ด่านปาต้าหลิงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดของกำแพงเมืองจีน สามารถเดินสำรวจกำแพงยาวหลายกิโลเมตร พร้อมสัมผัสถึงพลังของอารยธรรมจีนโบราณ ทั้งนี้ ด่านปาต้าหลิงยังมีระบบรถกระเช้าที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้มาเยือนสามารถขึ้นไปชมวิวบนกำแพงได้ง่ายขึ้น ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดในการสำรวจประวัติศาสตร์จีนอันยิ่งใหญ่
2. กำแพงเมืองจีน ด่านจวียงกวน
ด่านประวัติศาสตร์สำคัญ มีประตูเมืองใหญ่โตอลังการ และมีอุโมงค์ลับให้สำรวจ
กำแพงเมืองจีนด่านจวียงกวน (Jiayuguan) ตั้งอยู่ในมณฑลกานซู่ ทางภาคตะวันตกของจีน เป็นด่านที่สำคัญที่สุดในส่วนตะวันตกของกำแพงเมืองจีน และมักถูกเรียกว่า “ประตูแห่งทิศตะวันตก” สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง ด่านนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และการทหารอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นจุดเชื่อมโยงเส้นทางสายไหมอันเก่าแก่กับพื้นที่ภายในของจีน ทำหน้าที่เป็นป้อมปราการที่ปกป้องจีนจากการรุกรานของศัตรูจากตะวันตก
ด่านจวียงกวนมีสถาปัตยกรรมที่แข็งแรงและยิ่งใหญ่ ประกอบด้วยกำแพงที่สูงตระหง่าน ป้อมปราการ และหอคอยที่สร้างขึ้นเพื่อการป้องกัน และยังคงสภาพสมบูรณ์ในปัจจุบัน โดยสามารถเดินชมกำแพงที่ทอดยาวผ่านภูเขาและทะเลทราย สัมผัสกับประวัติศาสตร์และบรรยากาศของการเป็นด่านสำคัญในสมัยโบราณ ด่านจวียงกวนจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่ไม่เพียงแต่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของกำแพงเมืองจีนเท่านั้น แต่ยังบ่งบอกถึงความสำคัญของเส้นทางการค้าระหว่างจีนและดินแดนตะวันตก
3. กำแพงเมืองจีน ด่านซือหม่าไถ
สำหรับสายลุย! ด่านนี้มีความท้าทายในการเดินป่า มีกำแพงที่คดเคี้ยวและสูงชัน เหมาะกับการสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด
กำแพงเมืองจีน ด่านซือหม่าไถ (Simatai) เป็นหนึ่งในส่วนที่มีเอกลักษณ์และความท้าทายที่สุดของกำแพงเมืองจีน ตั้งอยู่ในเขตเหมียนซาน ห่างจากกรุงปักกิ่งประมาณ 120 กิโลเมตร ด่านนี้เป็นส่วนที่ยังคงความดั้งเดิมแท้ๆ และไม่ถูกปรับปรุงมากนัก ซึ่งแตกต่างจากด่านอื่นๆ ที่มีการบูรณะ ซือหม่าไถจึงเป็นจุดหมายที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการผจญภัยและต้องการสัมผัสบรรยากาศดั้งเดิมของกำแพงเมืองจีน
ด่านซือหม่าไถมีชื่อเสียงจากการที่กำแพงวิ่งผ่านภูมิประเทศที่เป็นภูเขาชันและมีลักษณะเป็นหอคอยจำนวนมาก การเดินสำรวจที่นี่จึงเต็มไปด้วยความท้าทายในการปีนป่ายไปตามเนินเขาและขั้นบันไดสูงชัน แต่ก็คุ้มค่าด้วยวิวทิวทัศน์ที่งดงามและเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะในช่วงเย็นและกลางคืน เนื่องจากเป็นส่วนเดียวของกำแพงเมืองจีนที่สามารถเยี่ยมชมได้ในเวลากลางคืน นักท่องเที่ยวสามารถชมพระอาทิตย์ตกและแสงไฟที่ส่องผ่านกำแพงในยามค่ำคืน ทำให้ซือหม่าไถเป็นหนึ่งในจุดที่งดงามและไม่เหมือนใคร
4. กำแพงเมืองจีน ด่านซานไห่
ด่านที่อยู่ใกล้ทะเลที่สุด วิวทะเลสวยงาม เหมาะกับการชมพระอาทิตย์ขึ้น-ตก
กำแพงเมืองจีน ด่านซานไห่ (Shanhai Pass) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ซานไห่กวน” เป็นด่านที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในประวัติศาสตร์จีน โดยตั้งอยู่ในมณฑลเหอเป่ย์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ด่านนี้เป็นจุดที่กำแพงเมืองจีนสิ้นสุดและบรรจบกับทะเล ทำให้ซานไห่กวนได้รับฉายาว่า “ที่ซึ่งกำแพงเมืองจีนพบกับทะเล” หรือ “หัวมังกร” เนื่องจากลักษณะของกำแพงที่ทอดยาวไปจนถึงชายฝั่งทะเลโป๋ไห่ (Bohai Sea)
ด่านซานไห่สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง โดยทำหน้าที่เป็นป้อมปราการที่สำคัญในการป้องกันศัตรูจากทิศตะวันออก โดยเฉพาะกลุ่มชนเผ่าเร่ร่อนและกองทัพที่พยายามรุกรานจากแมนจูเรีย ด่านนี้มีการก่อสร้างที่แข็งแรงและเป็นด่านที่มีประตูกำแพงใหญ่ที่สุดในบรรดาด่านทั้งหมด
ซานไห่กวนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ด้วยความงดงามของการผสมผสานระหว่างทะเลและภูเขา สามารถเดินสำรวจส่วนต่างๆ ของด่าน รวมถึงหอคอยและประตูกำแพงที่ทรงพลัง นอกจากนี้ยังสามารถเพลิดเพลินกับวิวทะเลที่บรรจบกับกำแพง ทำให้ด่านซานไห่เป็นจุดท่องเที่ยวที่มีทั้งความสำคัญทางประวัติศาสตร์และทิวทัศน์อันงดงามที่ไม่เหมือนใคร
5. กำแพงเมืองจีน ด่านมู่เถียนยวี่
ด่านที่มีความหลากหลายของธรรมชาติ ทั้งป่าไม้ ภูเขา และทุ่งหญ้า เหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจ สามารถนั่งกระเช้าขึ้น และเล่นสไลเดอร์ตอนลงได้
กำแพงเมืองจีน ด่านมู่เถียนยวี่ (Mutianyu) เป็นหนึ่งในส่วนที่ได้รับความนิยมของกำแพงเมืองจีน ตั้งอยู่ประมาณ 70 กิโลเมตรจากกรุงปักกิ่ง ด่านนี้มีความพิเศษด้วยการรักษาสภาพเดิมเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับบรรยากาศของกำแพงที่งดงามและเข้าถึงได้ง่าย มู่เถียนยวี่มีทิวทัศน์ที่น่าทึ่ง โดยกำแพงเมืองจีนตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาเขียวขจีและป่าไม้ ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการเดินป่าและถ่ายภาพ วิวจากจุดสูงสุดของกำแพงที่นี่ สามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่กว้างขวางและสวยงาม นอกจากนี้ ยังมีบริการกระเช้าที่ช่วยให้การเข้าถึงจุดชมวิวสะดวกยิ่งขึ้น
ด่านมู่เถียนยวี่ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ในอดีตเป็นหนึ่งในจุดป้องกันที่สำคัญในสมัยราชวงศ์หมิง ทำให้มีสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ เช่น หอคอยและประตูกำแพงที่สวยงาม สามารถเดินสำรวจซากโบราณเหล่านี้และเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของกำแพงเมืองจีนอย่างลึกซึ้ง โดยด่านมู่เถียนยวี่เป็นจุดหมายปลายทางที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการผสมผสานประสบการณ์ธรรมชาติและวัฒนธรรมในทริปเดียว
นี่แหละคือความยิ่งใหญ่ที่ไม่ควรพลาดของกำแพงเมืองจีน!
แชร์ บทความนี้
พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้