15 สถานที่มรดกโลกทางธรรมชาติของจีนจากองค์การ UNESCO

ไขความลับมรดกโลกทางธรรมชาติในจีน

จีนเป็นประเทศที่มีธรรมชาติหลากหลายและยิ่งใหญ่ ไม่แปลกใจเลยที่ UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนสถานที่สำคัญหลายแห่งเป็น "มรดกโลกทางธรรมชาติ" แต่คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมสถานที่เหล่านี้ถึงได้รับเลือก? บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ 15 สถานที่ที่ห้ามพลาด พร้อมเกณฑ์การคัดเลือกที่ UNESCO ใช้พิจารณา

เกณฑ์การคัดเลือกของ UNESCO สำหรับมรดกโลกทางธรรมชาติ

UNESCO กำหนดหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนในการขึ้นทะเบียนสถานที่เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ โดยสถานที่ต้องมีคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้:

1. มีปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่โดดเด่น เช่น ภูมิประเทศที่งดงาม แหล่งน้ำพุร้อน หรือถ้ำหินปูนที่หาชมได้ยาก

2. เป็นตัวแทนของกระบวนการทางธรณีวิทยาหรือวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต เช่น แหล่งฟอสซิลหรือพื้นที่ที่เกิดจากกระบวนการเปลี่ยนแปลงของโลก

3. เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของพืชและสัตว์หายาก ซึ่งมีความสำคัญต่อการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ

4. มีความสำคัญด้านระบบนิเวศและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ที่ช่วยให้เกิดความสมดุลของธรรมชาติ

15 สถานที่มรดกโลกทางธรรมชาติของจีนที่ต้องไปเยือน

1. อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie National Forest Park)

ภูเขาหินทรายสูงชันที่ดูเหมือนลอยอยู่บนอากาศ เป็นแรงบันดาลใจให้กับฉากในภาพยนตร์ดังอย่าง Avatar ภูมิทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจนี้ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่โดดเด่นที่สุดของจีน

2. หุบเขาจิ่วจ้ายโกว (Jiuzhaigou Valley)

ทะเลสาบสีฟ้าครามสวยงามตัดกับน้ำตกที่ไหลลดหลั่น และป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งธรรมชาติที่สมบูรณ์แบบทั้งด้านความงามและระบบนิเวศ

3. หุบเขาหวงหลง (Huanglong Scenic Area)

ธารน้ำแร่สีทองที่ไหลผ่านหุบเขา และเป็นที่อยู่อาศัยของแพนด้ายักษ์ สถานที่นี้โดดเด่นด้วยความงามทางธรรมชาติและความสำคัญทางชีวภาพ

4. ภูเขาหลู่ซาน (Lushan National Park)

ภูเขาที่มีทัศนียภาพงดงามและเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมจีนโบราณ หลู่ซานไม่เพียงแต่สวยงามทางธรรมชาติ แต่ยังมีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง

5. ถ้ำหินปูนซานชิงซาน (Sanqingshan)

เสาหินรูปร่างแปลกตาและป่าเขียวขจีที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการชมความงามทางธรณีวิทยาและธรรมชาติ

6. ภูเขาหวงซาน (Mount Huangshan)

ภูเขาหินแกรนิตที่ถูกปกคลุมด้วยทะเลหมอกอันลือชื่อ หวงซานเป็นสัญลักษณ์ของความงามทางธรรมชาติที่เปี่ยมด้วยความลึกลับและความสงบ

7. อุทยานธรณีวิทยาต้าจู๋ (Danxia Landform)

หินทรายสีแดงที่ถูกกัดเซาะจนเกิดเป็นภูมิประเทศรูปร่างแปลกตาและสวยงาม ต้าจู๋เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของกระบวนการทางธรณีวิทยา

8. เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าซื่อชวน (Sichuan Giant Panda Sanctuaries)

แหล่งอนุรักษ์แพนด้ายักษ์ที่สำคัญที่สุดในโลก ที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นบ้านของแพนด้า แต่ยังมีระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์

9. อุทยานแห่งชาติหลานจือ (Three Parallel Rivers of Yunnan)

การไหลคู่ขนานของแม่น้ำสายสำคัญที่เกิดจากกระบวนการทางธรณีวิทยา ที่นี่เป็นหนึ่งในภูมิประเทศที่ซับซ้อนและสวยงามที่สุดในโลก

10. เขากุ้ยหลิน (Guilin and Lijiang River Scenic Area)

ภูเขาหินปูนที่ตั้งตระหง่านเหนือแม่น้ำหลี่เจียง สร้างทัศนียภาพที่งดงามราวภาพวาด ทำให้กุ้ยหลินเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก

11. หมู่เกาะเว่ยโจว (South China Karst)

ระบบถ้ำและภูเขาหินปูนที่ซับซ้อนและสวยงาม ที่นี่เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของภูมิประเทศคาสต์ที่พบได้ในจีน

12. ทะเลสาบชิงไห่ (Qinghai Lake)

ทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่ที่สุดในจีน มีความสำคัญด้านระบบนิเวศและเป็นแหล่งอาศัยของนกอพยพจำนวนมาก

13. ทะเลทรายทากลามากัน (Taklamakan Desert)

ทะเลทรายขนาดใหญ่ที่เป็นหนึ่งในภูมิประเทศสุดขั้วของโลก ทากลามากันเต็มไปด้วยความลึกลับและความท้าทายสำหรับนักสำรวจ

14. เขตอนุรักษ์ธรรมชาติซินเจียงเทียนซาน (Xinjiang Tianshan)

ภูเขาสูงเสียดฟ้าและทุ่งหญ้าที่สมบูรณ์ ที่นี่เป็นแหล่งธรรมชาติที่สำคัญทั้งด้านความงามและระบบนิเวศ

15. หมู่เกาะจูไห่ (Zhuhai Archipelago)

เกาะน้อยใหญ่ที่เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลหายากและมีระบบนิเวศทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์ จูไห่เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

สถานที่ไหนที่ควรไปก่อน?

หากต้องเลือกสถานที่มรดกโลกทางธรรมชาติของจีนเพื่อไปเที่ยวสักแห่ง จางเจียเจี้ย และ หวงซาน ควรเป็นตัวเลือกแรก เพราะเดินทางง่ายและมีความสวยงามระดับโลก ส่วน จิ่วจ้ายโกว และ หุบเขาหวงหลง เหมาะกับคนที่ชอบน้ำตกและทะเลสาบสวยงาม

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเที่ยวสถานที่มรดกโลกทางธรรมชาติของจีน

• ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค.-พ.ค.) เหมาะสำหรับ จิ่วจ้ายโกว และ หวงหลง เพราะดอกไม้บานและอากาศเย็นสบาย

• ฤดูร้อน (มิ.ย.-ส.ค.) เหมาะสำหรับ หลานจือ และ เว่ยโจว ที่มีวิวเขียวขจีและไม่ร้อนเกินไป

• ฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.-พ.ย.) เหมาะสำหรับ หวงซาน และ จางเจียเจี้ย สวยที่สุด เพราะมีใบไม้เปลี่ยนสี

• ฤดูหนาว (ธ.ค.-ก.พ.) เหมาะสำหรับ ซินเจียงเทียนซาน และ ทะเลทรายทากลามากัน เพราะมีหิมะปกคลุมหรือบรรยากาศอันเงียบสงบ

การเที่ยวชมสถานที่มรดกโลกทางธรรมชาติของจีนไม่ใช่แค่การสัมผัสความงามของธรรมชาติ แต่ยังเป็นโอกาสในการเรียนรู้เกี่ยวกับธรณีวิทยาและระบบนิเวศอีกด้วย หากคุณเป็นสายรักธรรมชาติ อย่าพลาดโอกาสไปเยือนสักแห่ง แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไม UNESCO ถึงเลือกสถานที่เหล่านี้เป็นมรดกโลก

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ง่ายๆ ผ่านไลน์

หากคุณสนใจที่จะเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้แบบสบายๆ เป็นกลุ่มส่วนตัว หรือกลุ่มองค์กร หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการท่องเที่ยว สามารถติดต่อเราได้ง่ายๆ ผ่านทางไลน์ @Wonderfulpackage

แชร์ บทความนี้

พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้