ชมมรดกโลกของเกาหลี
สมบัติทางวัฒนธรรมของเกาหลีในบัญชีมรดกทางวัฒนธรรมของโลกโดยองค์การยูเนสโก แหล่งประวัติศาสตร์ในเขตเกียงชู (Gyeongju) และสวนแท่นหินที่โกชาง (Gochang) ฮวาซุน (Hwasun) และ กังฮวา (Ganghwa Dolmen) ได้รับการขึ้นทะเบียนในบัญชีมรดกทางวัฒนธรรมของโลกโดยองค์การยูเนสโกเมื่อคราวประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 24 ที่เมือง แคร์นส์ (Cairns) ประเทศออสเตรเลียซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายนถึงวันที่ 2 ธันวาคม ปี 2000 ต่อจากวัดบุลกุกซา (Bulguksa Temple) ถ้ำซอกกูรัม (Soekguran Grotto) อารามหลวงจองเมียว (Jongmyo Royal Shrine) แท่นพิมพ์ไม้ ตริปิทาก้า โคเรียน่า- พระไตรปิฎกของเกาหลี- (Tripitaka Koreana) ที่วัดแฮอินซา (Haeinsa Temple) และสิ่งก่อสร้างต่างในปี 1995 และหมู่พระราชวังชางด็อกกุง (Changdeokgung Palace Complex) และป้อมฮวาซอง (Hwaseong Fortress) ที่ซูวอนในปี 1997 ปัจจุบันเกาหลีมีสมบัติทางวัฒนธรรม 7 แห่งในบัญชีมรดกทางวัฒนธรรมของโลกกำหนดโดยองค์การยูเนสโก
ชางด็อกกุง-พระราชวังแห่งคุณความดีอันลือนาม (Changdeokgung, the Palace of Illustrious Virtue)
Cr. commons.wikimedia.or
ชางด็อกกุงถูกสร้างขึ้นในปีที่ 5 แห่งรัชสมัยของกษัตริย์แตจอง (Taejong) แห่งราชวงศ์โชซอนติดกับพระราชวังเกียงบ็อกกุงราชวังหลักของราชวงศ์
หมู่ราชวังของชางด็อกกุงซึ่งได้รับการตกแต่งเป็นอย่างดีแบ่งเป็นส่วนบริหาร ส่วนพักอาศัย และอุทยานทางด้านหลัง (Huwon) บริเวณที่เป็นส่วนบริหารนั้นรวมเอาประตูดอนฮวามุน (Donhwamun Gate) เข้าไว้ด้วยซึ่งเป็นส่วนที่เก่าแก่ที่สุดในหมู่ราชวังอินชองเชิน (Injeongjeon) ซึ่งใช้เป็นท้องพระโรงและซอนชองเชิน (Soenjeongjeon) โถงสำหรับบริหาร
ส่วนที่เป็นที่พักอาศัยนั้นรวมถึง ฮุยชองดัง (Huijeongdang) และแทโชเชิน (Daejojeon) ห้องบรรทมของกษัตริย์และพระชายา โรงครัวหลวง ห้องพยาบาลและส่วนต่อเนื่องอื่นๆ ฮูวอนอุทยานด้านหลังอันลือชื่อ กับพลับพลาที่สง่างามอีกมากมาย ห้องเก็บหนังสือของราชสำนักกับห้องสมุดและสระบัวอันร่มรื่น
ชางด็อกกุงกลืนเข้ากับทัศนียภาพด้านหลังได้เป็นอย่างดีซึ่งเป็นพื้นที่ลาดเนินเขาและหมู่แมกไม้อันเขียวขจี ด้วยความที่ได้เปรียบในด้านสิ่งแวดล้อมท้องพระโรงที่โอ่อ่า พลับพลาและอุทยานฮูวอน (Huwon)ได้มีการวางตำแหน่งให้เป็นสัดส่วนได้อย่างยอดเยี่ยมซึ่งทำให้เป็นไข่มุกแห่งสถาปัตยกรรมของราชวังและทิวทัศน์ของอุทยาน
อุทยาน (Huwon) ประดับประดาด้วยต้นไม้มีค่า บางต้นมีอายุถึง 300 ปี จึงทำให้เป็นตัวแทนแห่งสรวงสวรรค์ของสวนเกาหลี กษัตริย์และราชนิกูลพร้อมทั้งข้าราชสำนักต่างชื่นชอบที่จะมาพักผ่อนและหาความสำราญที่อุทยานแห่งนี้
อารามหลวงจองเมียว (Jongmyo Royal Shrine)
Cr. m.gogung.go.kr
อารามหลวงจองเมียวสร้างขึ้นเพื่อเป็นการอุทิศให้แก่ดวงพระวิญญาณแห่งบูรพกษัตริย์ของราชวงศ์โชซอน ณ ที่นี้กษัตริย์ และบรรดาพระราชวงศานุวงศ์จะมาทำการสักการะแด่บรรพบุรุษตามแบบลัทธิขงจื๊อ
อารามอันสง่างามแห่งนี้ซึ่งเป็นผลงานของสถาปัตยกรรมที่สวยงามอย่างเรียบง่ายนี้ได้รับความเห็นชอบให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันหาค่ามิได้และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโยองค์การยูเนสโกในปี 1995
อารามหลวงจองเมียวกอปรด้วยอารามชองเชิน (Jeongjeon) อันเป็นอารามหลัก อารามยองเนียงเชิน (Yeongnyeongjoen) อันเป็นอารามประกอบและสิ่งก่อสร้างประกอบอื่นๆ ชองเชินอันมีระเบียบล้อมรอบได้รับการกล่าวขานว่าเป็นอาคารที่ยาวที่สุดในเอเชีย มีแท่นบูชาพร้อมป้ายสถิตย์วิญญาณเพื่อระลึกถึงพระบารมีของกษัตริย์และพระราชินี ซึ่งปัจจุบันมีป้ายของกษัตริย์จำนวน 19 ป้าย และราชินี 30 ป้าย ยองเนียงเชินอันมีห้องจำนวน 16 ห้องนั้นเป็นที่ประดิษฐานป้ายสถิตวิญญาณของวงศานุวงศ์ชั้นรองจำนวน 15 ป้ายและพระราชินีกับพระสวามีอีก 17 ป้าย
จองเมียวสร้างขึ้นในปี 1394 โดยราชวงศ์โชซอนได้ย้ายเมืองหลวงจากแจซอง (Gaeseong) มายังฮานยาง (Hanyang) (กรุงโซลในปัจจุบัน) แต่ถูกเผาจนราบเป็นหน้ากลองในช่วงที่เกาหลีถูกญี่ปุ่นรุกรานในปี 1592 ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ในปี 1604 และเสร็จสมบูรณ์ในปี 1608
ฮวาซอง-ป้อมปราการอันสง่างาม (Hwaseong, the Brilliant Fortress)
ฮวาซองเป็นป้อมปราการอันสง่างามที่ซูวอนจังหวัดเกียงจิ-โด (Gyeonggi-do) ถูกสร้างขึ้นโดยใช้ปั้นจั่นเป็นครั้งแรกและการวิศวกรรมโยธาอันทันสมัยที่สุดในศตวรรษที่ 18 การก่อสร้างได้รับการวางแผนโดยกษัตริย์ชองโช (King Jeongjo) กษัตริย์องค์ที่ 22 แห่งราชวงศ์โชซอนเมื่อคราวที่พระองค์ได้ย้ายพระศพของพระบิดาจากยังซูไปยังเขาฮวาซานในปี 1789
ตัวป้อมปราการทอดยาวไปตามที่ราบและไหล่เขาซึ่งน้อยนักที่จะได้เห็นป้อมลักษณะนี้ในประเทศข้างเคียงอย่างญี่ปุ่นและจีน ป้อมนี้ได้รับการออกแบบให้ใช้ประโยชน์ในด้านการเมือง การค้าและการทหาร โดยได้รับอิทธิพลมาจากซิลฮัก (silhak) หรือ "การเรียนรู้ในเชิงปฏิบัติ"
ซึ่งเป็นแนวความคิดใหม่ในสมัยนั้น ตัวป้อมได้รับการก่อสร้างโดยวิทยาการชั้นสูงและด้วยอุปกรณ์ก่อสร้างที่ประดิษฐ์ขึ้นใหม่ โครงสร้างถูกทำให้มั่นคงแข็งแรงขึ้นโดยการผสมผสานเข้ากันของหิน อิฐ และไม้ ซึ่งรวมถึงระบบระบายน้ำ เชิงเทิน ช่องยิงปืนบนกำแพง และหอรบต่างๆ ตัวป้อมทอดยาวโอบล้อมตอนล่างของเมืองซูวอนเป็นวงรูปไข่มหึมากินความยาววัดได้ถึง 5.52 กิโลเมตร มีสิ่งอำนวยความสะดวก 41 แห่งภายในวงรูปไข่นั้น โครงสร้างของป้อมในแต่ละแห่งผสมผสานให้สอดคล้องกับสถาปัตยกรรมที่อลังการในเชิงยุทธศาสตร์ได้เป็นอย่างดี
ชมมรดกโลกของเกาหลี ตอนที่ 2
แชร์ บทความนี้
พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้