สิ่งศักดิ์สิทธิ์พม่า 2 ใน 5 ที่ ที่คนอาจนึกไม่ถึง
เมื่อพูดถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์พม่า จะมีด้วยกันอยู่ 5 ที่ โดยที่เรามักจะรู้จักและคุ้นเคยอยู่แล้วก็คือ เจดีย์ชเวดากอง เจดีย์ชเวดอมอหรือพระธาตุมุเตา และพระธาตุอินทร์แขวน โดยยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์พม่าอีกสองแห่งที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก นั่นก็คือ มหาเจดีย์ชเวซิกอง เมืองพุกาม และ พระมหามัยมุนี เมืองมัณฑะเลย์
มหาเจดีย์ชเวซิกอง เมืองพุกาม
มหาเจดีย์ชเวซิกอง เมืองพุกาม มีหมายความว่า "เจดีย์ทองแห่งชัยชนะ" ซึ่งสร้างโดยพระเจ้าอโนรธามังช่อ ผู้ที่รวบรวมชนชาติพม่าให้เป็นปึกแผ่น จนเป็นอาณาจักรพุกามเมื่อ 900 ปีเศษมาแล้ว ซึ่งยกทัพไปตีมอญได้สำเร็จ และกวาดต้อนชาวมอญมายังเมืองพุกาม ทำให้พม่าได้รับอิทธิพลศิลปวัฒนธรรมจากมอญมาโดยไม่รู้ตัว รูปร่างของเจดีย์ชเวซิกอง จึงก็ได้รับอิทธิพลมาจากมอญ คือทรงระฆังคว่ำ พื้นผิวภายนอกถูกปิดด้วยทองคำเปลว มีความสูงราว 53 เมตร มีลวดลายปูนปั้นอยู่ 3 แถว และล้อมรอบด้วยมีเจดีย์เล็กๆ
ภายในเจดีย์ชเวซิกอง เชื่อว่าบรรจุพระธาตุสำคัญ 3 ส่วน คือ พระเขี้ยวแก้ว ที่กษัตริย์แห่งศรีลังกาได้นำมาถวาย พระธาตุกระดูกไหล่ ที่นำมาจากเมืองศรีเกษตร(ใกล้เมืองแปร) และพระธาตุพระนลาฏ (หน้าผาก) ซึ่งพระเขี้ยวแก้วที่อัญเชิญมาจากลังกานั้น ได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า ถ้าช้างเผือกคุกเข่าลงที่ใด จะสร้างเจดีย์ไว้ที่นั่น ซึ่งก็เป็นสถานที่ตั้งมหาเจดีย์ชเวซิกองมาจนถึงทุกวันนี้
ความอัศจรรย์ 9 ประการของพระมหาเจดีย์ชเวซิกอง
- ยอดพระเจดีย์ไม่มีการใช้เหล็กเสริม
- กระดาษห่อแผ่นทองคำเปลวที่นำไปปิดส่วนยอดพระเจดีย์ จะไม่ปลิวพ้นฐานสี่เหลี่ยมของพระเจดีย์
- เงาพระเจดีย์จะไม่ล้ำออกนอกฐานสี่เหลี่ยมของพระเจดีย์ (ถ้าเงาล้ำออกไป ถือว่าเป็นลางร้าย)
- ภายในเขตองค์พระเจดีย์ สามารถรองรับผู้แสวงบุญได้ไม่จำกัดจำนวน (ไม่เคยเต็ม)
- มีการให้ทานด้วยข้าวสุกร้อนๆ ทุกเช้า (ไม่ว่าเราจะตื่นเช้าสักเพียงใด จะพบข้าวสุกในบาตรอยู่ก่อนหน้าเราเสมอ)
- เมื่อตีกลองใบใหญ่จากด้านหนึ่งของพระเจดีย์ จะไม่สามารถได้ยินเสียงกลองจากด้านตรงข้าม
- แม้พระเจดีย์จะตั้งอยู่บนพื้นราบ แต่เมื่อมองจากภายนอก จะเกิดภาพลวงตาคล้ายพระเจดีย์ตั้งอยู่บนที่สูง
- ไม่ว่าฝนจะตกหนักเพียงใด จะไม่มีน้ำฝนขังอยู่ในอาณาเขตขององค์พระเจดีย์
- มีต้นพิกุล ซึ่งจะออกดอกตลอดทั้งปี (ปกติจะออกดอกปีละครั้ง)
พระมหามัยมุนี แห่งมัณฑะเลย์
พระมหามัยมุนี แห่งเมืองมัณฑะเลย์ พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของพม่า เป็นพระพุทธรูปสำริดทรงเครื่องแบบกษัตริย์ ปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 3 เมตร เป็นที่ยอมรับกันว่า มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดองค์หนึ่ง มหามุนี แปลว่า “มหาปราชญ์”
โดยเล่ากันว่า ก่อนสร้างพระมหามัยมุนีแห่งนี้ กษัตริย์ผู้สร้างทรงพระสุบินว่า พระพุทธเจ้าเสด็จมาประทานพร ให้พระพุทธปฏิมาองค์นี้เป็นตัวแทนของพระองค์ เพื่อเป็นเครื่องสืบพระศาสนาไปในภายหน้า โดยในอดีต แม้เมืองยะไข่จะถูกโจมตีโดยกษัตริย์เมืองอื่นที่ทรงแสนยานุภาพอย่างไร ก็ไม่อาจที่จะเคลื่อนย้ายองค์พระมหามัยมุนีนี้ออกจากเมืองได้ ต้องมีเหตุให้ขัดข้องทุกครั้งไป
มีตำนานเล่ากันว่า พระพุทธเจ้าทรงประทานลมหายใจให้พระมหามุนีเป็นตัวแทนสืบทอดพระศาสนา ชาวพม่าจึงเชื่อกันว่า พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์นี้มีลมหายใจจริง จึงต้องมีพิธีล้างพระพักตร์ให้ทุกเช้า ด้วยน้ำอบน้ำหอมผสมทานาคาอย่างดีพร้อมกับใช้แปรงทองแปรงที่พระโอษฐ์เสมือนหนึ่งแปรงพระทนต์ถวายพระพุทธเจ้า ก่อนใช้ผ้าจากศรัทธาสาธุชนถวายมาเช็ดจนแห้งสนิท พร้อมใช้พัดทองโบกถวายเป็นอันดีเสมือนหนึ่งได้อุปัฏฐากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ยังทรงพระชนมชีพอยู่จริงๆ ซึ่งพิธีนึ้ก็ยังคงดำรงอยู่มาตราบจนถึงปัจจุบัน
เที่ยวพม่า สักการะ 3 ใน 5 สิ่งศักสิทธิ์ของพม่า
แชร์ บทความนี้
พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้