พักผ่อนที่อ่าวน้ำตื้น (Repulse Bay)
อีกหนึ่งครั้งกับรายการคุยข่าว 10 สิบโมง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ล่ะที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับรายการนี้ กลับจากปักกิ่งเมื่อต้นเดือน ก็มาต่อกรุ๊ปนี้กันเลย คราวนี้เรามาลุยกันที่ฮ่องกง 3 วัน 2 คืน สมาชิกบางท่านยังเป็นหน้าเดิมจากกรุ๊ปปักกิ่ง พิธีกรที่ร่วมเดินทางกับเราตัวหลักก็ยังเป็น คุณเอ้ นนทวัฒน์ คราวนี้มี มีคุณ บรู๊ค สืบสกุล เพิ่มเข้ามาด้วย สมาชิกของเราก็ยังมาไวเหมือนเดิม ไม่นานนักทุกคนก็เข้าไปเดินลั้ลลา อยู่ด้านใน 2 ชั่วโมงผ่านไป อันนี้ไม่เกี่ยวแค่อยากบอกว่านั่งไม่นานมากเราก็มาถึงฮ่องกง ออกมาจากเครื่องบินเราเหมือนดารากันเลย มีกล้อง มาส่องกันเต็ม ดูอีกที มันก็คือกล้องตรวจจับอุณภูมิร่างกายนั่นเอง ประมาณว่า ใครเดินออกมาอุณภูมิสูง ก็งานเข้าทันที ไม่ได้เข้าคนเดียว โดนกันทั้งลำ ต้องไปตรวจกันให้แน่ใจเลยทีเดียว ฮ่องกงเค้าเคยโดนโรคซาร์มาก่อน เสียชีวิตกันเป็นร้อย ก็เป็นธรรมดาครับที่เค้าจะต้องคุมเข้มกันตั้งแต่ก้าวเท้าออกจากเครื่องผู้ที่มาดูแลเราสำหรับกรุ๊ปนี้ก็คือ พี่เฟร็ดดี้ ไกด์หนุ่มใหญ่ ชาวฮ่องกง แต่พูดไทยชัดเปรี้ย หน้าตาหล่อเข้าขั้นดาราเลยทีเดียว พี่เฟร็ดดี้เม้าให้ฟังว่า ถ้าแก ไม่มาทำงานไกด์ ก็คงเจริญรอยตามพี่แกไปแล้ว พี่ชายพี่เฟร็ดดี้ ชื่อ โจว เหวิน ฟะ ส่วนพี่เฟร็ดดี้ ชื่อโจว เฟอะ ฟะ มุขนี้ได้ฮากันทั้งรถ ออกจากสนามบินเราก็จะผ่าน สะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลกมีความยาว 2 กิโลเมตร ชื่อว่า สะพานเช๊งหม่า ด้านบนให้รถวิ่ง ด้านล่างก็ให้รถไฟ บางครั้งที่พายุเข้ารถทั้งหมดก็ลงไปขับกันด้านล่าง ที่ฮ่องกงเนี่ยพายุจะเข้าในช่วงเดือนกรกฎาคม สิงหาคมเคยมาเจอแค่หางพายุ ลมแรงได้ใจตัวเกือบปลิวอย่างว่าแหละร่างออกจะบอบบาง
จบจากมื้อค่ำวันนี้ ก่อนเข้าพักที่โรงแรม เราก็มาเยี่ยมชมในส่วนของถนนดารากันก่อน ถนนดาราแห่งนี้เลียนแบบจาก ถนนดาราของฮอลลี่วูด ที่มีนักแสดงชื่อดังของฮ่องกงมา ประทับไว้ไม่ว่าจะเป็นหลิว เต๋อ หัว, โจว ซิง ฉือ, เฉิน หลง, จาง มั่น อี้, น้องขาว อ่ะ คนหลังนี้ไม่เกี่ยว ตอนที่เราเดินดูรอยมือของดารา เห็นมี อยู่อันหนึ่งว่างอยู่ ตะโกนถามพี่เฟร็ดดี้ว่า อันนี้ว่างอยู่ด้วยเหตุใด ได้รับคำตอบกลับมาว่า วันที่ดาราเค้ามาปั้มมือกัน พี่เฟร็ดดี้ติดทำทัวร์ ไม่ว่างมาปั้มก็เลยเว้นไว้จ๊ะ พ่อคุณมุขไม่เลิก
ที่ถนนดารา นอกจากที่เราจะได้ชมรอยประทับมือของดาราแล้ว ยังได้ดูความสวยงามของ อ่าวฮ่องกง พร้อมวิวยามค่ำคืนฝั่งฮ่องกงอีกด้วย ไม่แค่นั้น เวลา 2 ทุ่ม โดยประมาณ จะมีการแสดงแสงเสียง จากฝั่งฮ่องกงรับชมได้จากถนนดาราตรงนั้นได้เลย การแสดงก็ได้รับงบประมาณ จากรัฐบาลฮ่องกง เนรมิต แสงสียามค่ำคืน ก่อนการแสดงก็จะมีการแนะนำตึกต่าง ๆ ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามให้เราได้รู้จัก แต่ฟังกันไม่ค่อยจะออก เพราะเค้าบรรยายเป็นภาษาจีน ก็ไม่ซีเรียสนะ แค่ดูแสง สี เสียง ก็คุ้มแล้วครับ ใช้เวลาในการชมก็ประมาณ 15 นาที เมื่อโชว์จบเราก็กลับโรงแรมกัน โรงแรมที่เราพักก็อยู่ใกล้กับ เลดี้ มาร์เก็ต มีของให้เลือกเดิน มากมาย ตั้งแต่ ของแบรนด์เนม ยันของแบกะดิน วันนี้ไม่ต้องตรวจห้อง ถึงโรงแรม แจกกุญแจเสร็จหันไปคุยกับพี่เฟร็ดดี้แปปเดียว เชื่อไหมครับ คนสามสิบกว่าคน สามารถหายไปได้ ในพริบตา กำลังจะขึ้นไปตรวจห้อง ระหว่างยืนรอลิฟต์ ก็ทยอยเดินลงมากันเป็นแถว รีบไปช๊อปปิ้งกันซะงั้น ไม่ว่ากันเวลามีน้อยต้องใช้ให้คุ้มค่า เรื่องราวของฮ่องกง ก็เลยยังไม่ได้เล่าเลย ไม่เป็นไรพรุ่งนี้เราค่อยมาว่ากันต่อ คืนนี้ขอตามลูกทัวร์ไปช๊อปก่อน อิอิ
ติ่มซำ คือมื้อเช้าของเราวันนี้ มาฮ่องกงถ้าไม่ได้กินติ่มซำ นี่เหมือนมาไม่ถึงฮ่องกง อร่อย รสชาติ ถูกปากคนไทย ติ่มซำ จีนกลางก็คือ 點心 เตี่ยนซิน แปล ว่าเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ตรง ๆ ตัวเลย ซาลาเปา ฮะเก๋า ก็มาแบบ แข่งละ 3 ชิ้น จะสังเกตได้ว่าตอนเช้า ๆ เนี่ย ไปที่ร้านไหนก็จะเห็นอากง อาม่า มานั่งกินติ่มซำและจิบน้ำชา เห็นว่านั่งกันเป็นชั่วโมง ๆ เลยกว่าจะกลับ
ระหว่างนั่งนึกภาพติ่มซำ ก็มาดูข้อมูลของเกาะฮ่องกงเป็นอาหารจานหลักกันก่อน เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (อังกฤษ: Hong Kong Special Administrative Region of the People’s Republic of China; อักษรจีนตัวเต็ม: 中華人民共和國香港特別行政區; อักษรจีนตัวย่อ: 中华人民共和国香港特别行政区 [สื่อ:Chinese-Hong Kong-full name.ogg|] ข้อมูล) ; ชื่อย่อ: 香港 [ช่างกั่ง หรือ ฮ่องกง] ; Hong Kong SAR) เป็นเขตปกครองของสาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ โดยอยู่ติดกับมณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) และห่างจากมาเก๊าราว 61 กิโลเมตร ทางฝั่งตะวันตก
ฮ่องกง เดิมเป็นเพียงหมู่บ้านประมงเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ในเขตอำเภอซินอัน เมืองเซินเจิ้น หลังจากจีนพ่ายแพ้ในสงครามฝิ่น เกาะฮ่องกงและเกาลูน จึงถูกครอบครองโดยอังกฤษในปี พ.ศ. 2385 (ค.ศ. 1842) และ พ.ศ. 2403 (ค.ศ. 1860) ตามลำดับ ต่อมาภายหลัง ในปี พ.ศ. 2441 (ค.ศ. 1898) อังกฤษได้ทำสัญญา ‘เช่าซื้อ’ พื้นที่ทางตอนใต้ของลำน้ำเซินเจิ้น ซึ่งปัจจุบันเรียกว่า ‘เขตดินแดนใหม่’ รวมทั้งเกาะรอบข้าง ซึ่งมีอาณาบริเวณกว้างใหญ่กว่า
หลังมื้อเช้า คณะของเราก็เดินทางไปยังจุดแรกคือ อ่าวน้ำตื้น หรือ Repulse Bay ที่อ่าวน้ำตื้น ชื่อก็บอก อยู่แล้วว่าน้ำไม่ลึก เป็นสถานที่พักผ่อน ของชาวฮ่องกง บริเวณโดยรอบก็จะมีหาดทรายให้นั่งเล่น เหมือนชายหาดทั่ว ๆ ไป หาดทรายที่นี่ไม่ใช่หาดทรายธรรมชาติ เป็นหาดทรายที่ทางรัฐบาลฮ่องกง ใช้เงินในเนรมิตขึ้นมา ความสวยงาม ก็พอใช้ได้อยู่ ในวันเสาร์ - อาทิตย์ คนจะเยอะมาก แต่ที่สำคัญของที่นี่ก็คือบริเวณสุดริมหาด จะมีแหล่งศูนย์รวมของ สิ่งสิทธิ์ อาทิ่เช่น เจ้าแม่กวนอิม เทพเจ้าโชคลาภ (ฉ่ายซินเอี้ยะ) เจ้าแม่ทับทิม สะพานต่ออายุที่ว่ากันว่าข้ามไปแล้วอายุจะยืนขึ้นอีก 3 ปี (ข้ามทุกครั้งที่มา จะเอาให้เป็นอมตะให้ได้ อิอิ) ก่อนที่จะแยกย้ายไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เราก็มาชักภาพหมู่เป็นที่ระลึกกันก่อน คราวที่แล้ว 250 คน เก็บภาพได้ไม่หมดคราวนี้ 90 คน เลยได้ภาพงามภาพแรกบนหัวเว็บมาเป็นที่ระลึก
ได้ไหว้สิ่งศักดิ์กันเป็นที่เรียบร้อย เราก็ขึ้นไปต่อกันที่จุดชมวิว หรือที่เรียกว่า วิคตอเรียพีค บริเวณนี้จะเป็นที่ที่เราสามารถชมวิวของเกาะฮ่องกงได้อย่าง ชัดเจน วิวกลางคืนเราชมกันที่อ่าววิคตอเรีย วิวตอนกลางวันก็มาชมกันที่วิคตอเรียพีค เรียกได้ว่า งามกันคนละแบบ
ยามบ่ายโปรแกรมที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง ดิสนีย์แลนด์ ดินแดนแห่งความสนุกสนาน สถานที่ใฝ่ฝันของเด็ก และผู้ใหญ่ ครั้งแรกที่ผมได้มาดิสนีย์แลนด์ รู้สึก ตื่นเต้นมาก กะว่าจะเล่นเครื่องเล่นให้ครบทุกอย่าง แต่เอาเข้าจริง ๆ คนเยอะมาก เลยได้แต่เดินชมรอบ ๆ ครั้งต่อ ๆ มา ก็ได้มีโอกาสเล่นเครื่องเล่นต่าง ๆ ส่วนครั้งนี้ ตอนแรกก็กะว่าจะไม่เล่น แต่พอดีเห็นว่าคนน้อยมาก เครื่องเล่นยอดฮิตอย่าง Space mountian ยังไม่มีใครมาต่อคิวก็เลยต้องจัดไป งานนี้พาพี่เอ้และพี่บรุ๊ค ไปเล่นด้วยกัน รำลึกถึงวัยเด็ก อิอิ มาดูข้อมูลสังเขปของดิสนีย์แลนด์กันก่อนดีกว่า
ฮ่องกง ดิสนีย์แลนด์ รีสอร์ท (จีนตัวเต็ม: 香港迪士尼樂園度假區; จีนตัวย่อ: 香港迪士尼乐园度假区; พินอิน: Xiānggǎng Díshìnílèyuán Dùjiàqū; อังกฤษ: Hong Kong Disneyland Resort) เป็นดิสนีย์รีสอร์ทแห่งที่ 3 ที่ตั้งอยู่นอกสหรัฐอเมริกาและเป็นแห่งที่ 2 ของเอเชียต่อจากญี่ปุ่น เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2548 ตั้งอยู่ทางเหนือของเกาะลันเตา บนชายหาดอ่าวเพนนีส์ (Penny's Bay) สร้างขึ้นมาจากการร่วมหุ้นระหว่างบริษ้ทวอลท์ดิสนีย์และรัฐบาลเขตปกครองพิเศษฮ่องกง โดยแบ่งการให้บริการออกเป็น 2 ส่วน คือ สวนสนุกและโรงแรม เครื่องเล่นต่างๆ มีความหลากหลายไม่ซ้ำกับดิสนีย์แลนด์อื่นๆทั่วโลก ภายในมีการจัดเป็นโซนต่างๆ เช่น Fantasy land Adventure land และ Tomorrow land นอกจากนี้ยังมีละครเวทีสไตล์บรอดเวย์ โชว์ดังต่างๆ ของดิสนีย์ ขบวนพาเหรด และการแสดงดอกไม้ไฟประกอบดนตรี (Disney in the stars) สุดตระการตาตอนพลบค่ำ
สำหรับใครที่ไม่รู้จะเล่นอะไรนะครับ ลองเริ่มจาก Tomorrow land ที่เครื่องเล่น Buzz Lightyear Astro Blasters ทดสอบความแม่นกันได้ที่นั่น จากนั้นค่อยมาต่อกันที่เครื่องเล่นเสียวสุด ๆ กับ Space Mountain บริเวณนี้ยังมี อาหารไว้คอยบริการอีกด้วย ดังนั้นเล่นเหนื่อย ๆ แล้ว ก็สามารถที่จะเดินย้อนมาหาอะไรทานที่นี่ก็ได้
จาก Tomorrow land ก็มายัง Fantasy Land ดินแดนแห่งเทพนิยาย ที่นี่เราจะสามารถถ่ายรูปกับตัวการ์ตูน ต่าง ๆ อย่าง มิคกี้เมาส์ มินนี่เมาส์ ฯลฯ ที่นี่ มีเครื่องเล่นที่น่าสนใจ อย่าง หนัง 4 มิติ โชว์ตระการตา Golden Micky ท่องแดนการ์ตูนที่ The Many Adventures of Winnie the Pooh
ที่สุดท้ายก็คือ Adventure Land เหมาะสำหรับผู้รักการผจญภัย แหม พูดซะน่ากลัวเลย 555+ บริเวณนี้ ก็เป็นอีกแห่งหนึ่งที่สนใจไม่แพ้กัน ของเล่น หลัก ๆ เลย ก็จะเป็น การนั่งเรือชมไพร Jungle River Cruise ตื่นเต้นทุกขณะที่นั่งอยู่บนเรือ ชมบ้านทาซานที่ Tarzan's Treehouse และโชว์อลังการ Theater in the Wild การแสดง Festival of Lion King มาถึงตรงนี้ก็ประมาณเกือบทุ่มแล้วครับ จากนั้นก็ไปทานมื้อเย็นเตรียมรอชมพลุ ยามค่ำคืนได้ เนี่ยแหละครับที่เด่น ๆ ใน ดิสนีย์แลนด์ ฮ่องกง ถ้าใครมีแรง และคนไม่เยอะ ก็สามารถเก็บเครื่องเล่นที่เหลือได้ตามสบายเลยครับ
แอบเม้านิด ตระการตากับพลุ ยามค่ำคืนที่ดิสนีย์แลนด์ เราก็รีบกลับโรงแรมกัน สืบทราบมาว่ามีหลายท่านที่ข้าวมื้อเย็นยังไม่ตกถึงท้อง เพราะมัวแต่เล่นเครื่องเล่นกัน อย่างสุดเหวี่ยง และบางท่านก็อยากรีบกลับไปเดินที่ Ladies Marget ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากโรงแรม แต่เมื่อวานนี้หลายท่านยังไม่ไปถึง เราจึงนัดกันเมือถึงโรงแรมให้รีบ ลงมาเจอกันที่ล๊อบบี้แล้วทางทีมงานจะพาไปชี้ทางสว่างให้ ตอนแรกก็นึกว่าจะเสียเวลาในการวางของเยอะ เอาเข้าจริง ๆ ครู่เดียวทุกคนก็ลงมายืนรอที่ล๊อบบี้ ดูแล้วก็ เกือบยี่สิบคน จึงเริ่มเคลื่อนขบวน เพื่อเดินไปยังเป้าหมายของเรา มาถึง Ladies Marget ดูไปดูมา เอ๊ะ สมาชิกหายเกือบครึ่ง!!! กำลังจะวิ่งกลับไปตาม คุณพี่อีกท่าน ตะโกนไล่หลังมาว่า เมื่อกี้เห็นแวะพักกันที่ร้านบะหมี่ 7 คน แหม แวบไปเมื่อไหร่เนี่ย - -"
เมื่อสมาชิกทุกคนแยกย้าย มีเสียงประท้วงมาจากกระเพาะ อาหารเย็นยังไม่ ตกถึงท้องเหมือนกันนี่นา กะว่าจะหาอะไรก๋วยเตี๋ยวแถวนั้นกิน แต่ดูแล้วแต่ละร้านมันไม่มีเมนูที่เป็นรูปภาพเลย ถึงแม้ว่าตัวผมเองจะอ่านภาษาจีนออก แต่ทุกครั้งที่ สั่งของกิน มักประสพปัญหา สิ่งที่สั่ง กับของที่ออกมา มันตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง ถ้ามีเป็นรูปภาพก็ไม่ต้องกลัวเลย ทำไงดี ??? ต้องใช้ตัวช่วยจากทางบ้านครับ นึกขึ้น ได้เมื่อกี้มีคนแอบไปกินบะหมี่ระหว่างทาง ไปกินกันตั้ง 7 คน ไปแอบดูเค้าดีกว่า เห็นชามไหนดูท่าทางอร่อย ก็สั่งตามนั้นเลย โชคดีว่าระหว่างทางที่ผ่านมา มีร้านบะหมี่ อยู่แค่ร้านเดียว จึงไม่ยากแก่การค้นหา เดินเข้าไปในร้าน เห็นโต๊ะเป้าหมายล่ะ แหมแอบหลังสุด เหมือนเด็กหลังห้อง ที่แอบกินขนมในเวลาเรียน เข้าไปทักทาย ซะหน่อย ปกติเวลาที่เราไปทานอาหารกัน ถ้าเป็นอาหารจานเดียว ส่วนใหญ่จะสั่งมากันคนละแบบ เพื่อได้ลิ้มลองรสชาติที่ไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่เห็นอยู่บนโต๊ะอาหาร คือก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาทั้ง 7 กลายเป็น สโนไวท์ กับลูกชิ้นปลาทั้ง 7 ซะงั้น มีเสียงแก้เก้อมาว่า ก็หิว อารมณ์นี้อะไรก็ได้ อีกอย่าง สั่งเหมือนกัน ได้ไม่อิจฉากัน ว่าใคร อร่อยกว่าใคร แหม ช่างพูด ^ ^
วันสุดท้ายของการเดินทางแล้วครับ รายการทัวร์ของเราวันนี้ก็ไม่มาก พ้นจากมื้อเช้า กับติ่มซำ เราก็ไปนมัสการเทพเจ้าหวังต้าเซียน ที่ว่ากันว่า ใครเจ็บ ป่วยก็มักจะมาขอพรกันที่นี่ หรือจะขอให้สุขภาพแข็งแรงก็ได้ ที่นี่จะเต็มไปด้วยคนฮ่องกงและนักท่องเที่ยวที่มากราบไหว้ เมื่อก่อนที่เข้ามาในวัด จะเห็นแต่ควันธูป ตลบอบอวล เดินออกมานี่ตาแดงกันเป็นแถว ๆ เวลาคนที่นี่เค้าไหว้กัน เข้าจะจุดธูปกันเป็นกำ ๆ เนื่องจากภายในมี สถานที่ให้ไหว้ทั้งหมด 4 ที่ มักจะมีปัญหาบ่อย ๆ กับนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่เวลาจุดธูปแล้วเดินไม่ระวัง ไปชนคนอื่น ทำให้เสื้อเป็นรู เนื้อพอง เป็นแผลไปตาม ๆ กัน ตอนหลังทางวัดจึงมีข้อห้าม ให้ใช้ธูปแค่ 3 ดอก แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ควันไม่เยอะ และไม่ต้องกลัวจะเจออุบัติเหตุที่ไม่พึงปรารถนาเคยถามจากอาจารย์วิโรจน์ ตั้งวาณิชย์ ผู้เชี่ยวชาญทางภาษาจีนและการไหว้เจ้า ว่าจำเป็นไหมในการไหว้พระ ไหว้เจ้า ต้องจุดธูปเทียน อาจารย์บอกว่าไม่จำเป็น การไหว้ควรไหว้ที่ใจ ถึงจะจุดธูป อันเท่ายักษ์ แต่ใจเราไม่นิ่ง ไม่ตั้งใจไหว้ พรที่ขอไปก็ จะไม่สัมฤทธิ์ผล ดังนั้นใช้สองมือเปล่า ๆ เนี่ยแหละครับที่สุด แล้วไหว้จากข้างใน จากใจที่เรามีความเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ของสถานที่นั้น ๆ
ได้ไหว้สิ่งศักสิทธิ์เป็นศิริมงคลกับชีวิตเรียบร้อย เราก็มาที่ดิ้วตี้ฟรี ดาวน์ทาวน์กัน ดิ้วตี้ฟรี ที่นี่ก็เหมือนกับที่สนามบิน สาเหตุที่เราต้องมาที่นี่กัน ก็เผื่อไว้ว่า เราไม่มีเวลาพอที่จะช๊อปในสนามบิน จึงกันไว้ และอีกอย่าง เป็นที่เดียวที่สามารถจอดรถได้ เราจึงนัดเจอกันที่หน้าดิวตี้ฟรีได้เลย เรียกได้ว่า ลงตรงนั้นสะดวกหมด ไม่ว่าจะเป็น การอาหารทางเอง ก็มีฟาสต์ฟู้ด ใกล้ ๆ เดินไปที่จิมซาจุ่ย ก็นิดเดียว อยากเข้าห้องน้ำไฮโซ ก็มาเข้าได้ที่ดิ้วตี้ฟรี เย็นสบาย และสะอาด ครบวงจรเลยว่างั้น
เดินกันจนเมื่อยก็ได้เวลานัดหมายที่จะไปสนามบินนานาชาติฮ่องกง เราเดินทางกลับด้วยสายการบินศรีลังกาแอร์ไลน์ ชอบสายการบินนี้จัง มีแฟมีลี่ทีวีเล็กของใครของมัน จะเลือกดูอะไรก็ได้ตามใจชอบ แต่แค่ 2 ชั่วโมง เลยเลือกทีจะไม่ดู อิอิ นั่งโม้ กับพี่เอ้ พี่บรู๊ค และพี่เอ๋ ตลอดทางกลับ เผลอแปปเดียวเราก็มาถึง สุวรรณภูมิแล้ว
อีกหนึ่งความประทับใจ เที่ยวฮ่องกงกับสมาชิกคุยข่าวสิบโมง สมาชิกทุกคนน่ารักมากให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีตลอดการเดินทาง คิดถึงกันแย่แบบนี้งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา แต่เราก็จัดกันใหม่ได้ครั้งหน้า คุยข่าวสิบโมงร่วมกับบริษัทไดมอนด์ไชน์ ฮอลิเดย์ จะพาไปไหว้ดินแดนต้นกำเนิดเจ้าแม่กวนอิม ภูถอซาน กับ คอนเซปเดิมเที่ยวราคาประหยัด แต่คุณภาพไม่ประหยัดตามราคา ก็คงได้ นำมาลงเขียนไว้เป็นบันทึกอีกเหมือนเคย ก็คอยติดตามกันนะครับ ได้เวลาขอบคุณ ผู้สนับสนุนหลัก บริษัทต้นสังกัด ไดมอนด์ไชน์ ฮอลิเดย์ เพรชแท้แห่งการเดินทาง และรายการคุยข่าวสิบโมง รายการข่าวแนวใหม่ ติดตามชมได้ทาง ททบ. 5 ทุกวัน จันทร์ - ศุกร์ ยกเว้นวันหยุดนขัตฤกษ์ เวลา 10.00 น. - 10.40 น. เจอกันใหม่กับบันทึกครั้งหน้า สวัสดีครับ ^ ^
เที่ยวฮ่องกง ไหว้พระขอพร เสริมความเป็นสิริมงคล
เรื่องเที่ยวฮ่องกง ทัวร์ฮ่องกงถามเราซิคะ
สนใจจอง ตั๋วเครื่องบินฮ่องกง คลิกเลย
แชร์ บทความนี้
พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้