หน้าหนาวแล้ว เที่ยวฮาร์บิน กันดีกว่า
พอเข้าหน้าหนาวทีไรก็ทำให้นึกถึงบรรยากาศที่แสนโรแมนติกและปกคลุมไปด้วยหิมะที่ขาวโพลนสุดสายตาตัดกับขอบฟ้าสีครามและสีสันการแต่งตัวที่เข้ากับบรรยากาศของเมืองต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ต้องนึกถึงทุกครั้งที่บอกว่าหนาวก็คงเป็นฮาร์บิน มีโอกาสได้ไปเยือนพร้อมเก็บความประทับใจและรูปถ่ายมาเตือนความทรงจำดีๆ ภายใต้ความหนาวเหน็บ กลางวันอุณหภูมิ -17 องศา กลางคืนอุณหภูมิ -28 ถึง -29 องศา เป็นไงละ สุดๆ ไปเลย และยิ่งกว่านั้น เมืองฮาร์บินจะหนาวปีหนึ่งก็แค่ 6 เดือนเอง! แต่หนาวที่สุดในช่วงปลายเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์
ความประทับใจภายใต้อุณหภูมิติดลบเกิดขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว ได้มีคนแนะนำและชวนไปเที่ยว ฮาร์บิน ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลเหยหลงเจียง มีสมญานามว่า ไข่มุกบนคอหงส์ เนื่องจากรูปร่างของมณฑลมีลักษณะคล้ายหงส์ และเมือง ฮาร์บิน ก็อยู่ช่วงที่เป็นคอ แต่บางคนก็เรียกว่า มอสโกแห่งตะวันออกหรือ ปารีสแห่งตะวันออก เพราะอาคารบ้านเรือนในเมืองคล้ายกับในมอสโกหรือปารีส และฮาร์บินยังเป็นที่รู้จักในชื่อ เมืองแห่งน้ำแข็ง เพราะมีฤดูหนาวที่ยาวนานและหนาวเย็นเป็นเมือง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสาธารณรัฐประชาชนจีน ติดกับรัสเซีย ในเมืองจะมีทั้งชาวรัสเซียและชาวจีนกว่า 40กลุ่มชนเผ่าอาศัยอยู่ร่วมกันทำให้มีวัฒนธรรมที่หลากหลายค่อนข้างมาก สินค้าพื้นเมืองส่วนใหญ่จะเป็นของรัสเซียวางขายให้นักท่องเที่ยวได้ตื่นตาตื่นใจและเสียเงินอยู่พอสมควร โดยเฉพาะตุ๊กตาแม่ลูกดก ของรัสเซีย จนนึกว่าอยู่รัสเซีย ซะอีก เป้าหมายสำคัญของการเดินทางมาครั้งนี้ ไม่ได้อยู่ที่ตุ๊กตาแม่ลูกดกนะ แต่อยู่ที่สถานที่ต่างที่สร้างความตื่นตาตื่นใจตลอดเส้นทาง
เริ่มกันที่เกาะพระอาทิตย์ (Sun Island) ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของแม่น้ำซงฮัวเจียง บริเวณทางเข้ามีป้ายหินเขียนว่า ไท่หยางเต่า เป็นสถานที่หนึ่งในการจัดเทศกาลแกะสลักหิมะน้ำแข็ง ไม่ว่าจะเป็นพระราชวัง กำแพงเมืองจีน หอฟ้าเทียนถาน และอื่นๆ อีกมากมาย และที่โดนเด่นที่สุดคงจะเป็น ลานน้ำแข็งอันกว้างใหญ่ของแม่น้ำซงฮัวเจียง ที่ดึงดูดสายตาทุกคนด้วยการโชว์การกระโดดน้ำและว่ายน้ำ ของเหล่าผู้สูงอายุที่อุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียส นี่แหละ อิอิ ขนลุกแทนจริงๆ เลย
หลังจากนั้นก็ไปดู โบสถ์เซนต์โซเฟีย (St.Sophia Church) ซึ่งออกแบบและสร้างโดยสถาปนิกชาวรัสเซีย เมื่อก่อนเคยใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่สำคัญต่างๆ ของชาวรัสเซียแต่มาถูกทำลายตอนปฏิวัติวัฒนธรรม และได้มีการสร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้งโดยพยายามรักษารูปแบบเดิมไว้ให้ได้มากที่สุด ซึ่งใช้เวลาถึง 9 ปี โดยเริ่มต้นสร้างในปี ค.ศ.1923 เสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ.1932 ถือได้ว่าเป็นโบสถ์ Greek Orthodox ที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกไกลออก ตัวโบสถ์สูง 53 เมตร มีโถงหลักที่มีหลังคารูปหัวหอมสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบไบแซนไทม์คล้ายกับสถาปัตยกรรมของจัตุรัสแดงในกรุงมอสโคว แต่ในปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นศูนย์ศิลปะและสถาปัตยกรรม แสดงภาพถ่ายขาวดำเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เมืองฮาร์บิน
อีกหนึ่งกิจกรรมที่ขาดไม่ได้คือ การได้สัมผัสบรรยากาศการเล่นสกีที่เทือกเขาเอ้อหลงซาน กับ ความสูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 266 เมตร พื้นที่สุดสายตาปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลนสะอาดตา และโอบล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงาม แต่ก็หนาแน่นไปด้วยผู้คนที่มาท้าทายความสามารถในการเล่นสกี บนเนื้อที่กว่า 78,000 ตร.ม. โดยจัดแบ่งเป็นลานสกีสำหรับผู้หัดเล่นโดยเฉพาะ หรือจะสนุกกับกิจกรรมอื่นๆบนลานหิมะ เช่น แคร่เลื่อน, สโนว์โมบิล, รถม้าลาก, เล่นสเก็ตบนทะเลสาบน้ำแข็ง ฯลฯ ก็ไม่ว่ากัน และที่สำคัญที่สุดของการเดินทางมาฮาร์บินในครั้งนี้คือ เทศกาลโคมไฟน้ำแข็ง ที่เป็นจุดขายหลักของการท่องเที่ยวที่นี่เลยหละ เค้าได้รวบรวมช่างฝีมือดีจากทุกมุมเมืองมาช่วยกันออกแบบการแกะสลักหิมะและน้ำแข็งอย่างสวยงามและยิ่งใหญ่อลังการที่สุดของประเทศจีนจนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวได้มา อึ้ง ทึ่ง หนาว กันถึงดินแดนแห่งนี้ ได้เห็นผลงานแล้วต้องบอกว่า ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนที่นี่เค้าจะทำอะไรได้สุดยอดขนาดนี้ ต้องบอกว่าคุ้มค่ากับการฝ่าสายลมอันหนาวเหน็บมาที่นี่เสียจริงๆ กลางวันก็ว่าสวยงามแปลกตาแล้วนะ พอตอนกลางคืนมีการเปิดโคมไฟที่ประดับไว้กับน้ำแข็งยิ่ง สวยงามอลังการมากๆ จนไม่รู้จะเปรียบเทียบกับอะไร ถึงจะออกมาเป็นภาพที่ทุกคนจะคิดออกมาได้เหมือนๆกัน แสงไฟที่ประดับประดาไว้ เหมือนมนต์สะกดให้ทุกคนลืมไปว่าอยู่ภายใต้อุณหภูมิเกือบ -30 องศา เอาเป็นว่า ดูรูปสวยๆ ที่เก็บมาฝากเอาแล้วกันนะ ถ้าอยากสัมผัสบรรยากาศจริงละก็ แนะนำอย่าตัดสินใจนานละ เดี๋ยวจะต้องรออีกทีปีหน้าเลย
ฮาร์บินหนาวมากก..ก่อนไปเที่ยวเตรียมตัวกันให้พร้อมนะจ๊ะ
จองตั๋วเครื่องบินไปจีน ฮาร์บินในราคาถูกกว่าใคร คลิกเลย
แชร์ บทความนี้
พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้