เต้าหู้ญี่ปุ่น อาหารประจำบ้านของคนญี่ปุ่น

เต้าหู้ญี่ปุ่น อาหารที่คนญี่ปุ่นต้องกินกันทุกบ้าน โดยพบว่ากว่า 70 % ของคนญี่ปุ่นที่ทานเต้าหู้ญี่ปุ่นกันมากกว่าสัปดาห์ละครั้งเลยทีเดียว บางทีเราจะเห็นเค้ากินเต้าหู้ญี่ปุ่นกันสดๆ เพียงแค่เติมโชยุนิดหน่อยก็กินได้แล้ว และนอกจากนี้ยังนำมาทำเป็นอาหารได้หลากหลายอย่างเลย

เต้าหู้ญี่ปุ่น มีที่มาที่ไปยังไง

ตามตำนานเล่าว่า เต้าหู้ญี่ปุ่นมีต้นกำเนิดมาจากจีนในสมัยราชวงศ์ฮั่น และเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายจนมาถึงญี่ปุ่น ซึ่งในช่วงแรกๆ เต้าหู้ญี่ปุ่นนิยมกันในหมู่นักบวชและขุนนางชั้นสูง และต่อมาจึงได้แพร่หลายในไปยังประชาชนทั่วไปในช่วงสมัยเอโดะ จนทำให้เต้าหู้ญี่ปุ่นกลายเป็นอาหารยอดนิยมของชาวญี่ปุ่นในเวลาต่อมา

เต้าหู้ญี่ปุ่น  มีกี่ชนิด

มีมากมายหลายชนิดจนนับไม่ถ้วนเลย ซึ่งจะแยกไปตามขั้นตอนกระบวนการทำ ดังนี้

1. โอคาระ (กากถั่วเหลือง)

เป็นกากถั่วเหลือง ที่ได้หลังจากเอาถั่วเหลืองแช่น้ำ และปั่นผสมกับน้ำ เมื่อกรองเอาน้ำออกมาจะได้เป็นกากถั่วเหลือง  ซึ่งถึงแม้จะเป็นส่วนที่เหลือ แต่ก็สามารถนำไปประกอบอาหารต่อได้อีก โดยเฉพาะเมนูยอดนิยมคือ อุโนะฮานะ เป็นการนำไปผัดกับผักต่างๆ แล้วปรุงรสด้วยโชยุ สาเก และน้ำซุป

2. ยูบะ (ฟองเต้าหู้)

เมื่อถั่วเหลืองถูกกรองเอาแต่น้ำออกมา แล้วนำไปต้มให้เดือด จะเกิดเป็นแผ่นฟิล์มบางๆ ที่ผิวหน้า ที่เรียกว่าฟองเต้าหู้ ซึ่งสามารถนำไปทานสดๆ หรือปรุงอาหารต่อได้เลย หรือจะทำเป็นฟองเต้าหู้แห้งก็ได้

3. โทนิว (น้ำเต้าหู้)

เมื่อถั่วเหลืองถูกกรองเอากากออก และต้มเอาฟองเต้าหู้ออกไปเรียบร้อยแล้ว เราก็จะได้น้ำเต้าหู้ โดยสามารถดื่มเป็นน้ำเต้าหู้ได้เลย หรือว่าแปรรูปเป็นเต้าหู้ญี่ปุ่นชนิดอื่นๆ ได้อีก

น้ำเต้าหู้ + นิการิ = โดฟุ

1. คุนุโกชิ โดฟุ

คือเต้าหู้ญี่ปุ่น ที่เกิดจาการนำน้ำเต้าหู้ ผสมกับนิการิ ซึ่งนิการิจะเป็นสารประกอบสำคัญที่ทำให้ถั่วเหลืองจับตัวกันเป็นก้อน กลายเป็นหลากหลายเมนูโดฟุ ซึ่งเมื่อนำไปใส่ในพิมพ์ที่ไม่มีรู ก็จะกลายเป็น คุนุโกชิ โดฟุ ที่มีเนื้อนิ่มเนียนละเอียด ที่เรามักจะเห็นอยู่ในน้ำซุปมิโสะนั่นล่ะ

2. จูเตน คินุโกชิ โดฟุ

น้ำเต้าหู้ที่ผสมนิการิแล้ว เมื่อถูกนำไปใส่ในภาชนะปิดและปล่อยให้แข็งตัวเอง ก็จะกลายเป็น จูเตน คินุโกชิ โดฟุ ผิวเรียบลื่นและค่อนข้างสะอาดเพราะอยู่ในภาชนะปิดตลอดเวลา

3. โอโบโระ โดฟุ (โยเซะ โดฟุ)

หากนำน้ำเต้าหู้ผสมกับนิการิ แล้วปล่อยให้จับตัวเป็นก้อนเลย โดยไม่ได้อัดใส่แม่พิมพ์ จะเรียกว่า โอโบโระ โดฟุ ซึ่งมีรูปทรงไม่แน่นอน และมีรสชาติเข้มข้น

4. ซารุ โดฟุ

เป็นการนำเอา โอโบโระ โดฟุ มาใส่ในตะกร้าหวาย หรือซารุ แล้วปล่อยให้น้ำจากเต้าหู้ไหลผ่านออกมาทางช่องเล็กๆ ของตะกร้า ทำให้ได้ ซารุโดฟุ ที่มีเนื้อหยาบกว่าเดิม

5. โมเมน โดฟุ

เมื่อนำเอา โอโบโระ โดฟุ มากรองเอาน้ำออก แล้วนำไปใส่พิมพ์ผ้าฝ้าย หรือ โมเมน จะได้เป็นโมเมนโดฟุที่มีเนื้อหยาบ ตามลายพื้นผิวของผ้าฝ้าย เพื่อนำเป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหารต่อไป

6. ซอฟท์ โดฟุ

มีวิธีการทำเหมือนกับการทำโมเมนโดฟุ แต่ใช้แรงกดน้อยกว่า ทำให้สูญเสียน้ำน้อยกว่า ทำให้ได้รสสัมผัสอยู่กึ่งกลางระหว่าง โมเมนโดฟุ และคินุโกชิโดฟุ ที่มีเนื้อนุ่มเนียนละเอียดกำลังดี มักนำไปทำเป็นเมนูเต้าหู้เย็น

จำกันได้หมดรึเปล่า เต้าหู้ญี่ปุ่นมีอะไรบ้าง ใครสนใจก็ลองหามาชิมได้นะ

Photo Credit: cookingmomster , seriouseats , ginnabe , japanesefoodreport , kimchimari

ไปกินของอร่อยๆ ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นกันดีกว่า
สนใจจองตั๋วเครื่องบินไปยีปุ่่นในราคาแสนถูกกับเรา คลิก

แชร์ บทความนี้

พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้