หนีเที่ยวไต้หวันไทเป-จิ่วเฟิ่น กับ พี่เสือ Tigerair Taiwan

เมือปลายเดือนที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเที่ยวไต้หวัน เลยอยากจะแบ่งปันเรื่องราวการเดินทางในครั้งนี้ เผื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังตัดสินใจไปเที่ยวไต้หวัน อ่านจบแล้ว ต้องอยากไปเที่ยวกันบ้างล่ะ

การเดินทางของเราเรียกง่ายๆ ว่าหนีเที่ยวกันเลย เพราะคนอื่นเค้าไปประชุมกันจ้า ส่วนเราแอบติดสอยห้อยตามไปเปิดหูเปิดตากับเค้าสักหน่อย กับทริป ไทเป-จิ่วเฟิ่น 3 วัน 2 คืน มาเริ่มออกเดินทางไปพร้อมๆ กันเลย Let's go

เที่ยวไต้หวัน แบบกรุ๊ปส่วนตัว คลิก!!

เตรียมตัวออกเดินทาง

เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม กับการเดินทางไปไต้หวันครั้งแรก ยิ่งช่วงนี้ทางไต้หวันเค้ายกเว้นวีซ่าด้วย ต้องรีบไปกัน มาวางแผนการเดินทางกันสักหน่อย

วันแรก: เดินทางไฟลท์ค่ำ ถึงไทเปตอนดึกๆ แล้วเข้าโรงแรม

วันที่สอง: ช่วงระหว่างรอพี่ๆ เค้าไปประชุมกัน เราเลยต้องวางแผนว่าจะอยู่เที่ยวไต้หวันยังไงดี น่าจะอยู่ที่ไทเปนี่แหละ

ซึ่งหลังจากค้นๆ ในสื่อออนไลน์ ก็เจอบริษัทที่ขาย ซิตี้ทัวร์ แบบครึ่งวันมีหลายๆเส้นทาง ราคาประมาณ 1,xxx NT / คน ซึ่งสะดวกมาก มีคนมารับที่โรงแรม เที่ยวเสร็จก็มาส่งที่โรงแรมเหมือนเดิม ใช้เวลาเที่ยวประมาณ 3-4 ชั่วโมง เนื่องจากเวลาเรามีน้อย เลยลองเลือกทัวร์จิ่วเฟิ่น ออกนอกเมืองกันไปเลยไม่เสียเที่ยว ส่วนช่วงค่ำถ้ายังมีเวลาก็ค่อยต่อที่ตลาดซื่อหลินไนท์มาร์เก็ต

วันที่สาม: ได้ป๊ะกับพี่ๆ แล้ว เลยว่าจะชวนไป check-in @Taipei101 ซะหน่อย จากนั้นก็หาข้าวเที่ยงกินกัน แล้วค่อยไปสนามบิน

ได้เวลาเดินทางแล้วสิ

ได้เวลาเดินทาง เย็นวันแรกของการเดินทาง นัดรวมพลกันที่สนามบินดอนเมือง ประตู 5 สายการบิน Tigerair Taiwan ที่เคาท์เตอร์คนไม่เยอะเช็คอินเสร็จเราก็รีบเข้าข้างในกัน เราซื้อน้ำหนักกระเป่าไว้ 15 กก. แต่พี่เสือเค้าก็ใจดีให้ถือขึ้นเครื่องได้อีก คนละ 10 กก. (จริงๆ ไม่ซื้อก็ได้นะเนี่ย แอบเสียดาย)

ไฟลท์บิน ดอนเมือง – ไทเป IT 506 20.45-00.55 น. บนเครื่องจ้า เครื่องใหม่สวยเชียว โชคดีเราได้ที่นั่งตรงประตูฉุกเฉิน ยืดขากันได้สบายเลย

อาหารไม่ได้สั่ง แอบถ่ายเมนูมาเผื่อใครสนใจ

เครื่องดื่มดีกว่า ดื่มไป เม้าท์ไป ชิลล์ๆ

ไปถึงสนามบินเถาหยวน ประเทศไต้หวัน (Tigerair Taiwan ลงที่ Terminal 1) ต้องผ่าน ตม. ก่อนสิจ๊ะ บนเครื่องแอร์ก็จะเอา ตม. เดินแจก ถ้าใครไม่ได้ ก็มาเขียนก่อนเข้า ตม. ก็ได้ ตม. คนเยอะมากจนน่าตกใจ แต่ระบบเค้าดีอ่ะไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็หลุดออกมาได้ละ

รับกระเป๋าเสร็จรวมพลกันอีกที รอรถมารับเข้าโรงแรม ตอนแรกกะว่าออกมาจาก ตม. จะรีบหาซื้อซิมการ์ดไว้ใช้เล่นเน็ต หาข้อมูลไว้เรียบร้อยแต่ไม่ได้ซื้อ เพราะเค้าปิด 22.00 น. โชคดีที่เปิดโรมมิ่งมาไว้แล้ว

โรงแรมของเรา Ferrary Hotel ถ่ายรูปแทบทุกจุด ดันลืมถ่ายโรงแรม อิอิๆ โชคดีสำหรับแบ็คแพ็คตัวน้อยอย่างเรา ที่ได้พักย่านช้อปปิ้งอย่าง Ximending และจากโรงแรมเดินไปย่านช้อปปิ้ง ไม่ถึง 10 นาที เดินมารถไฟไต้ดิน ก็ไม่ถึง 10 นาทีเหมือนกัน เป็นครั้งแรกในการไปเที่ยวไต้หวันที่ไม่ยากอย่างที่คิด

คืนนี้ขอจัดทริปทัวร์ Family Mart กันหน่อย จริงๆคือหิวกันล่ะ มาหาบะหมี่กินกัน ร้านค้าที่นี่เวลาซื้อของเค้าไม่ใส่ถุงให้นะจ๊ะ อยากได้ต้องเสียเงิน ประมาณ 2-3 NT/ใบ นี่แหละ จำมะได้ละเค้าคิดรวมกันมา

วันนี้ฉายเดี่ยว เที่ยวจิ่วเฟิ่นกับซิตี้ทัวร์

ตอนเช้าพี่ๆ ต้องไปประชุมแต่เช้า ทิ้งเราให้เปล่าเปลี่ยวคนเดียว เลยลองเดินชมรอบๆ โรงแรมกันหน่อย คนไต้หวันเค้าพูดจีนกลางกันนะจ๊ะ พูดภาษาอังกฤษก็พอได้ ส่วนเราพูดจีนไม่ได้ อังกฤษได้น้อยมาก ที่ต้องเตรียมติดตัวตลอดคือ Google Translate แค่นี้ก็เที่ยวไต้หวันเองได้ละ มาต่ออย่างที่บอกโรงแรมเราอยู่ในย่านช้อปปิ้ง แต่เช้านี้ยังไม่มีใครเปิดร้าน มาชม Ximending ยามเช้ากัน (มองผ่านๆ นึกว่าอยู่ญี่ปุ่นนะเนี่ย)

กลับมาเตรียมตัวที่โรงแรม รอคนมารับไปทัวร์จิ่วเฟิ่น (เวลา 13.00-17.00 น. ได้เที่ยว 4 ชม.) ไกด์+คนขับรถ เป็นคนเดียวกัน น่ารักอารมณ์ดี พูดได้ทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาญี่ปุ่น (น่าจะมีภาษาไทยด้วยเนอะ)

ไกด์บอกว่า วันนี้ทริปเรามีทั้งหมด 4 คน มีคนไทย 1 (เราเอง) คนฟิลิปปินส์ 2 (น่าจะเป็นแม่ลูกกัน) คนเบลเยี่ยม 1 (ฝรั่งตัวโตเชียว) รถที่ใช้เดินทางเป็นรถตู้นั่งกันสบายอ่ะ ใช้เวลาเดินทางจาก ไทเป-จิ่วเฟิ่น ประมาณ 1 ชม.

หมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น ตั้งอยู่ในเมืองจิ่วเฟิ่นเป็นถนนคนเดินเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในไต้หวัน ซึ่งเป็นหมู่บ้านเก่าแก่บนภูเขาและงดงามด้วยประวัติศาสตร์ที่เป็นเอกลักษณ์ ในอดีตเคยเป็นแหล่งเหมืองแร่ทองคำที่เก่าแก่ ตั้งแต่สมัยกษัตริย์กวงสวี้แห่งราชวงค์วอง มีนักขุดทองจำนวนมากพากันมาขุดทองที่นี้ การที่มีคนมาขุดทอง และแร่ธาตุต่างๆ เป็นจำนวนมาก จึงทำให้แร่ธาตุลดลงบางครอบครัวก็อพยพออกไปอยู่ที่อื่น ซึ่งในสมัยก่อนจะมีทั้งหมด 9 ครอบครัว เท่านั้น ตอนนี้เปลี่ยนเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ทั้งคนไต้หวันเอง และชาวต่างชาติก็นิยมมาที่นี่ เนื่องจากที่นี่เป็นหมู่บ้านตั้งอยู่บนเขา ทำให้อากาศเย็นสบาย มีหมอกตลอดเวลาแม้จะเป็นช่วงบ่ายไปแล้วก็ตาม

ไปถึงจิ่วเฟิ่น 13.55 ไกด์นัดเวลาพบกันหัวถนนก่อนเข้าหมู่บ้าน ไกด์แนะนำเวลาเดินให้เดินเข้าไปให้สุด และเดินออกทางเดิม ที่นี่มีขนม ของกินเล่นให้เลือกซื้อเลือกชิมกันตลอดเส้นทาง

จุดชมวิว

เดินออกมาทางเดิมเจอร้านขายพายสับปะรด อยู่ตรงข้าม 7-11 ไปยืนชิมแบบที่เค้าทำเสร็จใหม่ๆ อร่อยมากอ่ะ เลยจัดเป็นของฝากมา 2 กล่อง

ได้เวลานัดไกด์ก็มารับขึ้นรถ ทริปเรายังมีอีก 3 จุด ที่จะได้ไปชม คือ Bitou cape , Nanya rock , Bay of 2 colors บอกเลยว่านึกภาพไม่ออก พอไปเห็นแล้วก็ถึงบางอ้อ

คุณไกด์ทำเวลาดีมาก ถึงโรงแรมประมาณ 17.30 น. แวะพักเอาแรงก่อน สัก 18.30 น. ตั้งใจจะไปเดินตลาดซื่อหลินไนท์มาร์เก็ต

รวมพลกิน ช้อป Mala Hot Pot, ซื่อหลินไนท์มาร์เก็ต

ก่อนจะไปซื่อหลิน แวะเดินซีเหมินติงกันหน่อย หาอะไรกินด้วย ที่นี่เปรียบเหมือนสยามสแควร์บ้านเรา วัยรุ่นเดินกันเพียบ มีคาราโอเกะที่เปิดจริงจังเหมือนเมเจอร์บ้านเรา, Watsons, Comed (ร้านยาและเครื่องสำอางขู่แข่ง Watsons), 7-11, Family Mart, ร้านรองเท้า ABC Mart (หาซื้อ New Balance ได้ที่ร้านนี้)

อาหารเย็นวันนี้ ขอเสนอ Mala Hot Pot หรือ ชาบูไต้หวัน ที่ร้าน Mala Yuanyang Hotpot สาขา Ximen น้ำซุปจะมีเอกลักษณ์ตรงเครื่องเทศที่เผ็ดร้อน อาหารมีทั้ง เนื้อ หมู กุ้ง หอย ปู ปลา ไอศกรีม Movenpick กับ Haagen-Dazs เบียร์สดไต้หวัน (เค้าว่าข้างนอกหายากมาก) น้ำอัดลมแบบขวด ที่นี่เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ ทานได้ 1.30 ชม. ไลน์อาหารขนาดนี้ถามว่าคุ้มมั้ย บอกเลยว่าคุ้มมาก เราจัดทั้งเนื้อ ทั้งเบียร์ ค่าเสียหายคนละ ห้าร้อยกว่า จำราคาเต็มๆ ไม่ได้ละ เนื่องจากเป็นร้านที่มีคนนิยมค่อนข้างเยอะ อาจจะต้องรอคิวนานนิดนึง โดยรวมแล้วถือว่าคุ้มมากกก ใครไปเที่ยวไต้หวันต้องจัดให้ได้นะจ๊ะ

กินอิ่มละ ไปออกกำลงกายกันต่อ การเดินทางไปตลาดซื่อหลิน ขึ้นรถไฟสายสีเขียวสถานี Ximen ลงสถานี Zhongshan แล้วต่อสายสีแดง ไปลงสถานี Jiantan (อ่านในเน็ตเค้าว่าใกล้กว่าลงสถานี Shilin) ทางออก 1 ออกมาแล้วเจอเลย ที่นี่เปิดให้บริการตอนกลางคืน เป็นแหล่งรวมสินค้าคล้ายๆ ซีเหมินติง แต่จะเน้นเรื่องอาหารการกินซึ่งมีเยอะมากๆ หลายแบบ

เราเดินกันเป็นวงกลม วนซ้ายไปเรื่อยๆ คนที่นี่เค้ามีวิธีคลายเครียดกันแบบจริงจัง ทั้งปาโป่ง ไพ่มาจอง ยิงปืน หมุนวงล้อ ร้านที่เปิดก็เปิดซ้ำๆ กัน มีลูกค้าเข้ามาเล่นกันแทบทุกร้าน

Taipei 101 ไม่ได้ไปถือว่ามาไม่ถึงไต้หวัน

วันสุดท้ายของการเดินทาง วันนี้โปรแกรมเบาๆ เราจะขึ้นตึก Taipei 101 เดินทางกันง่ายๆ เนื่องจากไปหลายคน เช่ารถกันซะเลย ให้โรงแรมช่วยติดต่อให้ เช้านี้เราต้องเช็คเอาท์จากโรงแรม และออกเดินทาง 09.30 น.

Taipei101 เป็นอาคารที่มีโครงสร้างที่ยืดหยุ่นพอ สามารถทนต่อลมแรงๆ อย่างพายุไต้ฝุ่น ที่อาจจะมีความเร็วลมถึง 216 กม./ชม. หรือแผ่นดินไหวหนักๆ ได้ มันดีอย่างนี้นี่เอง ถึงว่าใครๆ เค้าถึงไปกัน

หาทางไปซื้อบัตรกันก่อนเลย ถ้ามาเองคงจะงง เพราะที่ซื้อบัตรและทางขึ้นลิฟท์อยู่ชั้นใต้ดิน ไม่ต้องเดินเข้าไปข้างในตึก จะมีบันไดเลื่อนลงอยู่นอกอาคาร ไปซื้อบัตรกัน ใครจะมาต้องเผื่อเวลาไว้ด้วยนะจ๊ะ

ระหว่างที่เราเดินเข้าคิวไปเรื่อยๆ ก็จะมีซุ้มให้เราเดินผ่านเพื่อถ่ายรูป พื้นหลังเป็นตึก 101 รีบถ่าย รีบเดิน ออกมาจะเจอหน้าเราโชว์บนจอใหญ่ เหมือนเป็นกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวร่วมสนุกช่วงเวลาที่ต้องคอยคิว

และแล้วก็ได้เวลาของเรา เราจะขึ้นไปชั้นที่ 88 เพื่อชมวิวเมืองไทเปแบบพาโนรามา ใช้เวลาจากชั้นล่างถึงชั้นบนเพียง 39 วินาที (เร็วเวอร์) และนี่คือวิวบน Taipei 101

เดินไปเดินมาเค้าวาเราจะขึ้นไปชมวิวชั้น 91 ได้อีก เดินตามๆ กันไป

ข้างนอกลมแรงมาก อากาศดีสุดๆ แต่อยู่ได้ไม่นาน ผมพันกันแกะไม่ออก

เสี่ยวหลงเป่า อร่อย ต้องลอง

ใกล้เที่ยงแล้ว กลางวันนี้เราจะทานอาหารจีนกัน เมนูพิเศษวันนี้คือ..เสี่ยวหลงเปา ซาลาเปาลูกเล็กๆ มีหลายไส้ ห่อด้วยแป้งเกี๊ยว ที่สำคัญมีน้ำซุปร้อนๆอนู่ข้างใน ได้ลองทานหลายๆแบบ ทั้งแบบดั้งเดิม แบบหมาล่า และแบบมังสวิรัติ ส่วนตัวเราชอบแบบดั้งเดิมที่สุด

วิธีการรับประทาน เสี่ยวหลงเปาให้ได้อรรถรส

1. ตักขิงซอย และเทน้ำจิ้มจิ๊กโฉ่ใส่ถ้วยน้ำจิ้ม
2. ตักเสี่ยวหลงเปาใส่ช้อน ระวังน้ำข้างในจะทะลักออกมา
3. คีบขิงซอยที่แช่ในจิ๊กโฉ่วางบนเสี่ยวหลงเปา
4. ค่อยๆดูดน้ำซุป ทานทั้งชิ้นพร้อมน้ำจิ้ม

***ระวังน้ำซุปในเสี่ยวหลงเปาลวกปาก**

ได้เวลากลับแล้วสิ

บ่ายโมงนิดๆ ละ เราต้องเตรียมเดินทางไปสนามบิน ไฟลท์บิน ไทเป-ดอนเมือง IT 505 16.00-19.00 น. ต้องเตรียมตัวไปเช็คอินก่อนบ่าย 2  ถึงสนามบินละคนน้อยรีบเช็คอิน จะได้รีบเข้าไปเดินเล่นข้างในสนามบิน แต่นักท่องเที่ยวที่นี่เยอะจริงๆ อาจจะเพราะไฟลท์บินหลายๆ ไฟลท์ บินออกจากไทเปในเวลาไล่เลี่ยกัน เลยมาติด ตม. ก็รอกันไปกว่าจะถึงคิวเรา ไฟล์ทบินออกเดินทางตรงเวลา ถึงสนามบินดอนเมือง ตามเวลาเป๊ะ 19.00 น. กลับถึงบ้านแล้ว ยังคิดถึงไต้หวันอยู่เลย มีโอกาสครั้งหน้าต้องไปเที่ยวไต้หวันซ้ำรอบสองอีกแน่ๆ

เที่ยวไต้หวัน แบบกรุ๊ปส่วนตัว คลิก!!

รีวิวสายการบินไปไทเป Tigerair Taiwan

แชร์ บทความนี้

พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้