10 เหตุผล ที่ทำไมถึงต้องไปเที่ยวฮอกไกโดให้ได้ครั้งหนึ่งในชีวิต
ฮอกไกโด เราอาจจะได้ยินคำร่ำลือถึงความงดงามของที่นี่มาบ้างแล้ว แต่ถ้าหากคุณยังไม่เคยไปฮอกไกโดแล้วล่ะก็ ต้องไปสัมผัสด้วยตัวคุณเองสักครั้งในชีวิต แล้วจะรู้ว่าเกาะเหนือของญี่ปุ่นเกาะนี้ ทำไมถึงต้องไปให้ได้
1. ความสวยงามที่ผลัดเปลี่ยนให้ชมตลอดทั้งปี
ฮอกไกโด เป็นความงดงามที่สามารถไปเที่ยวได้ทั้งปี ถ้าหากเราไปฤดูหนาว ก็จะพบกับเทศกาลหิมะยิ่งใหญ่ระดับโลกอย่าง sapporo snow festival หรือจะไปช่วงซากุระบาน ที่นี่ก็ถือว่าเป็นจุดชมซากุระที่น่าสนใจ เพราะจะบานช่วงเดือนเมษายน ที่ตรงกับช่วงหยุดยาวของบ้านเราพอดี หรือจะไปหน้าร้อน ก็จะได้พบกับลาเวนเดอร์และดอกไม้หลากสีเบ่งบานอยู่เต็มท้องทุ่ง ได้เก็บภาพประทับใจสีสันสวยๆ ตัดกับท้องฟ้าสดใส กันเพลินเลยล่ะ
Cr. www.seejapan.co.uk
2. สัมผัสความเป็นธรรมชาติแท้ๆ
แน่นอนว่าฮอกไกโดมีธรรมชาติที่สวยงามมากมาย ลองนั่งกระเช้าขึ้นสู่ยอดเขา แล้วชมวิวทิวทัศน์ที่เป็นธรรมชาติโดยรอบทั้ง 360 องศา แล้วสูดอากาศให้เต็มปอด เราจะได้เห็นวิวของภูเขาไฟที่หาชมได้ยากอย่างภูเขาไฟอุสึ หรือจะลองเปลี่ยนบรรยากาศมาชมภูเขาไฟโยเท ที่อยู่ในแถบฮาโกดาเตะ ที่ได้รับฉายาว่าเป็น "ฟูจิน้อย" ต้องลองไปดูว่าจะเหมือนภูเขาไฟฟูจิขนาดไหน
Cr. japanryan.blogspot.com
Cr. www.hokkaidoexplorer.com
3. ความงดงามของผืนน้ำสีฟ้า
ชมความงดงามของทะเลสาบสีฟ้าสดใส ตัดกับภูเขาสีเขียวที่อยู่ตรงหน้า กับอีกหนึ่งความอัศจรรย์ของทะเลสาบโทยะที่ไม่เคยมีหิมะปกคลุม ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงฤดูหนาวก็ตาม เพราะฉะนั้นเราสามารถชมความงามของทะเลสาบโทยะได้ตลอดทั้งปี และลองไปเมืองเล็กๆ อย่าง Biei เราจะได้เห็น Blue Pond เป็นน้ำที่มีสีฟ้าสวยงามมากๆ สีฟ้าที่เห็นเชื่อว่าเกิดจากธาตุอะลูมิเนียมที่มีอยู่มากในบริเวณนั้นนั่นเอง
4. บรรยากาศสุดโรแมนติก
ถ้าจะพูดถึงความโรแมนติกของการไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วล่ะก็ คงหนีไม่พ้นคลองโอตารุ คลองที่ไหลผ่านกลางเมือง เดิมทีสร้างจากการถมทะเลและใช้สำหรับเทียบเรือมาเก็บไว้ในโกดัง ถึงแม้เวลานี้โกดังจะไม่ได้ถูกใช้งานขนถ่ายสินค้าเมือนอย่างเคย แต่ก็ยังกลายเป็นฉากหลังที่สวยงาม ในช่วงเวลากลางวันจะมีสีสันสดใส และในยามกลางคืนจะเห็นแสงไฟเรียงรายอยู่ตามทาง จึงทำให้คลองโอตารุกลายเป็นสถานที่สุดโรแมนติกแห่งหนึ่งของฮอกไกโด
5. สูดความสดชื่นกันให้เต็มปอด
ถ้ากำลังมองหาความสดชื่นอยู่ล่ะก็แนะนำให้ไปที่ สวนสาธารณะโอโดริ ปอดใหญ่ใจกลางเมืองซัปโปโร กับความยาวสุดตาถึง 12 บล็อกถนน หรือประมาณ 1.5 กิโลเมตร ซึ่งจะรู้จักกันดีว่าเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลหิมะระดับโลก แต่ในยามที่ไม่มีเทศกาล จะเต็มไปด้วยสีเขียวชอุ่มของต้นไม้ และยังมีการประดับประดาด้วยน้ำพุและดอกไม้นานาพันธุ์ ถือเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจสำคัญของฮอกไกโดเลยล่ะ นอกจากนี้ถ้าหากอยากเห็นความงามของสวนโอโดริแบบเต็มๆ ตาก็สามารถขึ้นไปชมบน TV Tower ได้
6. ชมวิวที่สวยที่สุด ความงามของสวรรค์บนดิน
พาไปเมืองฮาโกดาเตะกันบ้าง ที่นี่เค้าขึ้นชื่อว่ามีวิวที่สวยงามที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว ในตอนกลางวันเราไปชมป้อมดาวโกเรียวคาคุ และในยามค่ำคืน ไปชมจุดชมวิวที่สวยงามของฮาโกดาเตะ ที่ตรงนี้เราจะเห็นภาพเบื้องล่างเป็นแสงไฟของเมืองส่องสว่างสวยงาม เป็นอีกหนึ่งความงดงามจากผืนดิน ที่ประทับใจสุดบรรยายจริงๆ
7. วิถีชีวิตแห่งฮอกไกโด
อยากสัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวฮอกไกโด ต้องไปที่ หมู่บ้านไอนุ หมู่บ้านที่บอกเล่าเรื่องราวของชนพื้นเมืองดั้งเดิมก่อนที่จะกลายมาเป็นฮอกไกโดของญี่ปุ่น เราจะเห็นวิถีชีวิตต่างๆ ของชาวไอนุ ไม่ว่าจะเป็น บ้านเรือน เครื่องนุ่งห่ม การเล่นดนตรี การเต้นระบำพื้นเมือง การกล่อมเด็ก การจับปลาแซลมอน และเรายังเห็นเสาโทเทมที่คล้ายกับเสาของเหล่าอินเดียนแดงอยู่ในหมู่บ้านไอนุอีกด้วย
Cr. prezi.com
Cr. pdhealey.blogspot.com
8. ผ่อนคลายกับออนเซ็น
เที่ยวกันเพลินๆ อย่าลืมไปผ่อนคลายกับออนเซ็น และออนเซ็นที่ดีที่สุดของฮอกไกโดอยู่ที่ โนโบริเบทสึ อยู่ไม่ไกลจากหุบเขาจิโจกุดานิ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติบริสุทธิ์ และออนเซ็นที่นี่มีน้ำแร่แตกต่างกันถึง 9 แบบ แต่ละแบบก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไป
9. อาหารทะเลสดๆ ปูยักษ์ตัวโตๆ
ไปถึงฮอกไกโดทั้งที ถ้าไม่ได้ลิ้มรสอาหารทะเลที่นี่ถือว่าพลาดสุดๆ เพราะ ในบรรดาอาหารทะเลของญี่ปุ่นนั้น ฮอกไกโดขึ้นชื่อว่าของดีที่สุด และอร่อยที่สุด โดยเฉพาะปูยักษ์อันเลื่องชื่อ ทั้งสามสายพันธุ์ที่มีรสชาติแตกต่างกันออกไป ปูขน(Kegani) ที่ว่ากันว่าเป็นเนื้อปูที่หวานและอร่อยที่สุด, ปูซูไว (Queen Krab) เนื้อนุ่ม เหมาะกับการจิ้มน้ำจิ้มเป็นที่สุด และปูทาราบะ (King Crab) ตัวโตๆ เนื้อแน่นๆ และถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ปูทั้งสามชนิดนี้ ก็อร่อยไม่แพ้กัน
Cr. www.winedineniseko.com
10. ช้อปปิ้งของฝากจากฮอกไกโดแท้ๆ
ได้เวลาช้อปปิ้งกันแล้ว เริ่มกันที่ถนนคนเดินทานุคิโคจิ ถนนคนเดินเก่าแก่ที่สุดแห่งฮอกไกโด ที่มีมานานกว่าร้อยปี มีทางเดินคลุมหลังคาให้ตลอดทางกับร้านค้าถึง 200 ร้านค้า ช้อปกันเพลินเลยล่ะ สำหรับใครที่มองหาขนมและของกิน แนะนำให้ไปที่ ดองกิโฮเตะ (Don Quijote) ซึ่งนอกจากของกินก็ยังมีของเล่นและเครื่องสำอางอยู่ภายในตึกเดียวกัน
Cr. www.donki.com
สนใจโปรแกรมท่องเที่ยวทัวร์ฮอกไกโดกับ WonderfulPackage คลิกเลย
จองด่วนโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินฮอกไกโด ญี่ปุ่นราคาถูก คลิกเลย
ใครอยากจะไปเที่ยวญี่ปุ่นในแบบส่วนตัว ลองไปกับ Group and Go กันดูสิคะ
แชร์ บทความนี้
พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้