ทัวร์โอซาก้า 10 อันดับที่เที่ยวยอดนิยม
1. ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)
ใครมาทัวร์โอซาก้า ปราสาทโอซาก้า ห้ามพลาดสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่งดงาม ตั้งอยู่กลางเมืองโอซาก้า มองเห็นปราสาทตั้งตระหง่านกับสถาปัตยกรรมแบบโบราณดั้งเดิมของญี่ปุ่น ล้อมรอบไปด้วยสวนสาธารณะบรรยากาศเงียบสงบ ให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ มีดอกซากุระออกดอกสีชมพูบานสะพรั่งเต็มต้น จุดไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ จุดชมวิวชั้นบนสุด ที่สามารถมองลงมาเห็นความงามของเมืองโอซาก้าทั้งเมือง
2. ยูนิเวอร์ซัล สตูดิโอส์ เจแปน (Universal Studios Japan)
Cr. ja.wikipedia.org
ยูนิเวอร์ซัล สตูดิโอส์ เจแปน สวนสนุกที่จะทำให้เพลิดเพลินไปกับเครื่องเล่นหลากหลาย เล่นได้ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และชมแบบจำลองจากภาพยนตร์อันโด่งดังของ Universal Studios แบ่งเป็นโซนต่างๆ ออกเป็น 9 โซน คือ New York, Hollywood, San Francisco, JurassicPark, Snoopy Studios, Lagoon, Water World, AmityVillage และ Land of Oz
3. โอซาก้า อควาเรียม ไคยูคัง (Osaka Aquarium Kaiyukan)
Cr. friendlybooking
โอซาก้า อควาเรียม ไคยูคัง เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น และใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของโลก มีสัตว์น้ำจัดแสดงให้ได้ชมกันมากกว่า 580 ชนิด ถึง 30,000 ตัวเลยทีเดียว โดยเฉพาะปลาฉลามวาฬที่ใหญ่ที่สุดในโลกความยาวกว่า 4 เมตร ภายในแท้งก์ใต้มหาสมุทรแปซิฟิก การเดินทางก็ง่ายๆ จากสถานีรถไฟเพียง 5 นาทีเท่านั้น
4. ช้อปปิ้งถนนโดทงโบริ (Dotonbori)
Cr. id.wikipedia.org
ถนนโดทงโบริ ถือเป็นหัวใจหลักของเมืองโอซาก้า เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีบรรยากาศคึกคักตลอดเวลา มีทั้งร้านค้ามากมาย ร้านอาหาร และของกินอร่อยๆ มีให้เลือกเพียบ และยังเป็นจุดนัดพบยอดนิยมของชาวโอซาก้า มีป้ายไฟโฆษณามากมาย โดยเฉพาะป้ายไฟสัญลักษณ์ของกูลิโกะ (Glico Running Man) และป้ายไฟปูยักษ์ (Kani Doraku Crab) ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของโดทงโบริ ที่มาทัวร์โอซาก้าถึงโดทงโบริ จะต้องถ่ายรูปคู่กูลิโกะและปูยักษ์ให้ได้
5. โฟลทติ้ง การ์เด้น (Floating Garden Observatory)
Cr. www.osaka-info.jp
ชมวิวบนมุมสูงที่ Floating Garden Observatory อยู่บนดาดฟ้าของตึก Umeda Sky Building ตึกที่สร้างด้วยรูปทรงแปลกตา โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ชั้นบนสุดเป็นลานกว้างทรงโค้ง สามารถเดินวนได้รอบ ชมวิวแบบ Panorama มองเห็นวิวทิวทัศน์เมืองโอซาก้าได้อย่างชัดเจน ยังมีมุมที่จัดไฟไว้ให้ และมีที่วางกล้องถ่ายรูป ให้ถ่ายภาพพร้อมฉากหลังที่สวยงาม ยิ่งตอนพระอาทิตย์ตกดินยิ่งสวยงามมากๆ
6. ช้อปปิ้งชินไซบาชิ (Shinsaibashi Shopping Arcade)
Cr. en.japantravel.com
ชินไซบาชิ นี้ถูกตั้งชื่อตามสะพานข้ามคลองนากาโอริกาวะ เป็นแหล่งช้อปปิ้งบนทางเดินที่คลุมด้วยหลังคาโปร่งแสงตลอดสาย ทอดยาวกว่า 600 เมตร เต็มไปด้วยร้านค้าหรูหรา เป็นแหล่งรวมของเสื้อผ้าแบรนด์เนม ของดีไซน์เนอร์ชื่อดังมากมาย จนกลายเป็นศูนย์กลางของการช้อปปิ้งของโอซาก้า
7. ชิงช้าสวรรค์เทมโปซาน (Tempozan Ferris Wheel)
Cr. stag.j-cul.com
Tempozan Ferris Wheel ชิงช้าสวรรค์ขนาดยักษ์ ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ Osakako ตู้นั่งชิงช้าจะมีให้เลือกสองแบบ แบบตู้ที่สีต่างๆ กับตู้กระจกใสที่มองเห็นพื้นด้านล่างแต่ตู้แบบใสมีเพียงตู้เดียว ต้องต่อคิวกันยาวหน่อย แต่คุ้มกับการได้ขึ้นไปชมวิวที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา เปิดให้บริการตอน 10 โมงเช้าไปจนถึง 4 ทุ่ม
8. หอคอย Tsutenkaku
Cr. medicinaycine.blogspot.com
หอคอย Tsutenkaku หมายความว่า อาคารสูงระฟ้า เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของโอซาก้า ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเครื่องหมายของเมืองใหม่ ตัวหอคอยนั้นใช้หอไอเฟลของฝรั่งเศสเป็นแม่แบบ ที่ชั้น 5 มีห้องโถงและกล้องส่องทางไกลที่สามารถมองเห็นวิวได้ทั่วเมือง บนยอดหอคอยยังมีไฟนีออนกลมๆ ประดับตลอดปีไว้แจ้งพยากรณ์อากาศในวันรุ่งขึ้น หากไฟนีออนเป็นสีขาว แสดงว่าจะดี สีส้มจะมีเมฆมาก และสีเขียวฝนจะตก
9. ศาลเจ้า Sumiyoshi-taisha Shrine
Cr. www.tripomatic.com
ศาลเจ้า Sumiyoshi เป็นศาลที่ชาวโอซาก้าศรัทธามากที่สุด ภายในมีศาลเอกถึง 4 ศาลเรียงรายอยู่ ต่างกับศาลชินโตทั่วไปที่มักมีศาลเอกเพียงศาลเดียว แต่ละศาลมีเทพเจ้าสิงสถิตย์อยู่และได้รับการนับถือมาแต่โบราณ มีประวัติมากว่า 1,800 ปี และยังมีสะพาน Taiko-bashi สีแดงสด ถือว่าการข้ามสะพานโดยปลอดภัยเป็นการชำระล้างสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย
10. เมืองจำลอง Osaka Museum of Housing and Living
Cr. runningdocz.blogspot.com
Osaka Museum of Housing and Living ที่นี่จะจำลองเมืองโบราณให้ได้ชม สามารถใส่ชุดยูกาตะหรือกิโมโนได้ฟรี 30 นาที เดินไปเข้ากับบรรยากาศแบบญี่ปุ่นโบราณ จะได้เห็นฉากจำลองเมืองโบราณ ตลอดจนเครื่องมือ เครื่องใช้ ของเล่นต่างๆ สะท้อนวิถีชีวิตบ้านเรือนของชาวเมืองโอซาก้าในเวลานั้นได้เป็นอย่างดี
สนใจจองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่น โอซาก้ากับเรา คลิกที่นี่
แต่ถ้าใครที่ไม่ชอบเดินทางร่วมกันกับผู้อื่นเราขอแนะนำประสบการณ์ในการเดินทางแบบใหม่เรียกว่าการเดินทางแบบเที่ยวส่วนตัวหรือว่า "Group and Go" นั่นเองค่ะ
แชร์ บทความนี้
พูดคุย เกี่ยวกับบทความนี้