แพ็กเกจโปรแกรมทัวร์ท่องเที่ยวยุโรปตะวันออก

ทัวร์ยุโรปตะวันออก เที่ยวยุโรปตะวันออก

ยุโรปตะวันออก ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวสลาฟ มีสภาพความเป็นอยู่แบบชนบทมากกว่าความเจริญรุ่งเรื่องของเมือง ซึ่งประกอบไปด้วย 10 ประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต ประเทศส่วนใหญ่ในยุโรปตะวันออกในอดีต ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ แต่ในปัจจุบันได้เริ่มมีการพัฒนาเป็นประชาธิปไตยบ้างแล้ว สำหรับศาสนาที่นับถือส่วนใหญ่ในภูมิภาคนี้ก็คือศาสนาคริสต์ และภาษาที่ใช้เป็นภาษากลุ่มโรมานซ์และกลุมสลาโวนิกคำกล่าวที่ว่าบอลข่าน และอดีตสหภาพโซเวียต (Slavic) หมายถึง บรรดาประเทศที่เคยได้รับอิทธิพลมาจากสหภาพโซเวียตก่อนล่มสลาย ในบรรดาประเทศต่างๆ เหล่านี้ เช่น รัสเซีย  พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตอากาศหนาวเย็น ประชากรจึงไม่หนาแน่น นอกจากส่วนที่ใกล้กับยุโรปตะวันตก

ประเทศในยุโรปตะวันออก

1.เบลารุส

2.บัลแกเรีย

3.สาธารณรัฐเช็ก

4.ฮังการี

5.มอลโดวา

6.โปแลนด์

7.โรมาเนีย

8.สหพันธรัฐรัสเซีย

9.สาธารณรัฐสโลวัก

10.ยูเครน

ลักษณะประชากรและอาชีพ

ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม นอกจากบางประเทศที่เจริญก้าวหน้าทางอุตสาหกรรมแล้ว (เช่นโปแลนด์ รัสเซีย ยูเครน) แม้ว่าพื้นที่ของภูมิภาคนี้เมื่อรวมกันแล้วจะใหญ่มากกว่ายุโรปตะวันตกถึง 4 เท่า แต่ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศรวมกันแล้วกลับน้อยกว่ายุโรปตะวันตกถึง 2 เท่าเลยทีเดียว

สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ

สำหรับยุโรปตะวันออก เป็นภูมิภาคที่มีความน่าสนใจและ เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติมากมาย ถือได้ว่าเป็นดินแดนแห่งศิลปวัฒนธรรม ด้วยทัศนียภาพที่ห้อมล้อมไปด้วยขุนเขา ป่าไม้ สายน้ำ และสถาปัตยกรรมรวมทั้งสิ่งปลูกสร้างที่มีความเป็นเอกลักษณ์ค่อนข้างสูง จึงเป็นแหล่งรวมสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย เช่น โกเตอร์ , มอนเตเนโกรโซเฟีย , บัลแกเรีย   ปราก , สาธารณรัฐเช็ก โอโลมุซ , สาธารณรัฐเช็ก บูดาเปสต์ , ฮังการี  ริก้า , ลัตเวีย  เบรัท , แอลเบเนีย   อ่าวไอโอเนียน , แอลเบเนีย   ซาราเยโว , บอสเนีย และ เฮอร์เซโกวีนา นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีก ดังนี้

1. มอสโก , รัสเซีย

รัสเซีย ได้รับการขนานนามว่าเป็นประเทศที่ “ สตรีงามที่สุดในโลก” และมี “เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก” ซึ่งงดงามดุจราชินีแห่งยุโรป สำหรับการท่องเที่ยวรัสเซียนั้น ต้องเดินทางไปช่วงที่เหมาะกับการท่องเที่ยว คือ ช่วงเดือนพฤษภาคม อากาศช่วงนี้จะเย็นสบายไม่หนาวจนเกินไป และมีทิวทัศน์สวยมาก ต้นไม้กำลังผลิดอก ส่งกลิ่นหอมตลบไปทั่ว เป็นช่วงที่เรียกว่า “ไวท์ไนท์” ซึ่งเป็นผลมาจากแสงของพระอาทิตย์เที่ยงคืน สำหรับการเดินทางไปเที่ยวรัสเซียก็สะดวกขึ้น โดยสามารถบินตรงจากกรุงเทพฯ-มอสโก ได้เลย หากอากาศไม่หนาวจนเกินไป แนะนำให้ไปเยี่ยมชมจัตุรัสแดงและพระราชวังเครมลิน ซึ่งมีความอลังการและมีเสน่ห์อย่างพลาดไม่ได้

2. วอร์ซอว์ , โปแลนด์

วอร์ซอว์ เมืองหลวงของโปแลนด์ เป็นเมืองที่มีความซับซ้อนและถูกทำลายเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 พวกเขาได้มีการต่อสู้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อสร้างและทดแทนในสิ่งที่ขาดหายไป ซึ่งในวันนี้ เมืองเต็มไปด้วยพลังงานไฟฟ้า เฟื่องฟูด้วยศิลปวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมเพลง ที่พลาดไม่ได้เลยคือการเที่ยวชมเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยอาคารประวัติศาสตร์

3. คราคอฟ , โปแลนด์

คราคอฟ เมืองอันเก่าแก่ของโปแลนด์ มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ที่น่าทึ่งคือศูนย์ประวัติศาสตร์คราคอฟ ที่ถูกยกให้เป็นมรดกโลก เรียกได้ว่าเป็นที่ตั้งของตลาดที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ประกอบไปด้วยบ้านเรือน พระราชวังและโบสถ์อันงดงาม รวมถึงปราสาท Wawel และหินคริสตจักร Adalbert เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ ซึมซับเรื่องราวแบบอารมณ์มาเต็มเกี่ยวกับการยึดครองของนาซี

4. ลูบยาน่า , สโลวีเนีย

ลูบยาน่า เมืองหลวงของสโลวีเนีย เป็นเมืองที่อุดมไปด้วยวัฒนธรรม มีพิพิธภัณฑ์อันยอดเยี่ยม โรงแรมและร้านอาหารอันสุดวิเศษ หัวใจของเมืองนี้คือ Presernov Trg จตุรัสกลางเมือง ท่านจะได้ชมวิถีชีวิตของผู้คนที่นี่ มีแม่น้ำไหลผ่าน เหมาะแก่การเดินเล่นหรือปั่นจักรยาน พร้อมชมความอลังการของปราสาทลูบยาน่าและหอสมุดแห่งชาติ ซึ่งทั้งสองเป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมที่งดงาม

5. เบลเกรด , เซอร์เบีย

เบลเกรด อดีตเมืองแห่งความขัดแย้งในยุคของยูโกสลาเวียเดิม ปัจจุบันเป็นเมืองหลวงของเซอร์เบีย มีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้น ชมป้อมปราการอันเป็นสัญลักษณ์เตือนใจทางสงคราม เป็นอีกแห่งที่จะเพลิดเพลินไปกับร้านกาแฟบรรยากาศเยี่ยม พร้อมเที่ยวชมทัวร์ใต้ดินเพื่อเรียนรู้และสำรวจประวัติศาสตร์อันวุ่นวายของเมืองแห่งนี้

6. สปลิท , โครเอเชีย

สปลิท เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของโครเอเชีย รองจากซาเกร็บ ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของทะเลเอเดรียติก คุณจะพบกับอนุสาวรีย์โรมันที่เป็นมรดกโลก โดยมีภูเขาเป็นฉากหลัง สนับสนุนให้เมืองมีความสวยงามโดดเด่น มีพระราชวัง Diocletian เป็นหัวใจหลักของเมือง มีชายหาด Bacvice ชมทะเลสวยๆ และกิจกรรมสนุกๆ มากมาย 

7. ดูบรอฟนิก , โครเอเชีย

ดูบรอฟนิก “ไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก” เมืองอันเจิดจรัสแห่งโครเอเชีย และ 1 ในเมืองที่สวยที่สุดในยุโรปตะวันออก ถูกยกให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1979 เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม คริสตจักรที่ยอดเยี่ยม พิพิธภัณฑ์และประติมากรรมสุดตระการตา ไฮไลท์สำคัญคือการเดินเลาะกำแพงเมือง เพื่อสัมผัสทัศนียภาพสุดประทับใจ

8. Mljet Island , โครเอเชีย

1 ในเกาะที่สวยที่สุดในโครเอเชีย เกาะ Mljet อันห่างไกล เต็มไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติอันสมบูรณ์ ปกคลุมด้วยผืนป่าเมดิเตอร์เรเนียน มีไร่องุ่นและหมู่บ้านเล็กๆ มาช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวา ทางเหนือของเกาะจะเป็นอุทยานแห่งชาติ มีทะเลสาบน้ำเค็มอันสวยงาม พร้อมเยี่ยมชมพระราชวังโรมัน ที่ยังคงสืบทอดมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 1-5

9. บราติสลาวา , สโลวาเกีย

เมืองหลวงของสโลวาเกีย เป็นเมืองที่มีเสน่ห์เหลือล้น เมืองเก่าขนาดเล็กที่แฝงไปด้วยความยิ่งใหญ่ในยุคกลาง เมื่อมองจากยอดเขา จะเห็นความงดงามของปราสาท เมือง ถนนและตรอกเล็กๆ ที่เรียงรายกันเป็นทาง พร้อมร้่นอาหารและบาร์ คอยต้อนรับคุณกับการกินดื่มชื่นชมวัฒนธรรม

    10.  บูคาเรสต์ , โรมาเนีย

บูคาเรสต์ เมืองหลวงของโรมาเนีย เป็นเมืองที่สวยงามทันสมัย เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันเข้มข้น โดยมีฉายาน่ารักๆ ว่า “ลิตเติ้ล ปารีส” ในช่วงต้น 1900 บูคาเรสต์เป็นเมืองแห่งร้านกาแฟ ถนนมีต้นไม้ใหญ่เรียงรายสวยงาม และสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่ง ที่โดดเด่นที่สุดคงจะเป็น รัฐสภาพระราชวังอันใหญ่โตและสง่างาม

    11.  ซิบู , โรมาเนีย

ซิบู เป็นเมืองในแคว้นทรานซิลวาเนีย ดินแดนแห่งแดรกคูล่า เป็นเมืองที่มีศิลปวัฒนธรรมอันน่าอัศจรรย์และยังคงความเป็นเอกลักษณ์สูงมาก เมืองนี้จะทำให้คุณเคลิบเคลิ้มไปกับบรรยากาศในยุคกลาง ท่ามกลางภูมิทัศน์อันงดงาม ร้านอาหารอร่อย เป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่น่าเที่ยว เต็มไปด้วยสีสันของบ้านเรือนและถนนปูด้วยก้อนหิน

    12.  สโกเปีย , มาซิโดเนีย

สโกเปีย เป็นเมืองที่มีความหลากหลายและน่าสนใจที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ด้วยการผสมผสานวัฒนธรรมอิสลามและคริสเตียนไว้ด้วยกัน ทำให้เกิดสภาพสังคมที่ดูมีชีวิตชีวา บ้านเมืองมีสีสัน ชาวเมืองเล่นหมากรุกกันในสวนสาธารณะ ยามค่ำคืนผู้คนหลั่งไหลไปที่ร้านกาแฟและบาร์ เพลิดเพลินไปกับแสงสีและประวัติศาสตร์ของเมือง

    13.  นิด้า , ลิทัวเนีย

นิด้า เป็นชุมชนหนึ่งของลิทัวเนีย ตั้งอยู่บนเนินทรายโค้ง ระหว่างทะเลสาบคูโรเนียนและทะเลบอลติก เป็นเมืองมรดกโลกร่วมกันของทั้งลิทัวเนียและรัสเซีย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์บอกเล่าเรื่องราวของชาวประมงในอดีต กระท่อมไม้สีสันสดใสและท่าเรืออันสวยงาม ยิ่งเพิ่มมูลค่าการท่องเที่ยวให้กับเมืองนี้

    14.  Orheiul Vechi , มอลโดวา

สถานที่สุดวิเศษและงดงามที่สุดแห่งมอลโดวา นั่นก็คือมหาวิหาร Orheiul Vechi เป็นวัดถ้ำแกะสลัก มีลักษณะเป็นหน้าผาหินปูนที่สง่างาม ดูมีเรื่องราวลึกลับ จนกลายเป็นสถานที่สุดหลอนของมอลโดวา สถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำได้แก่ พิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์วิทยา และถ้ำแห่งใหม่เพียงข้ามหุบเขาไป หรือจะเดินชมวิวสวยๆ จากสำนักในวิหารก็ไม่เลวนัก

 ทัวร์ยุโรปตะวันออก เที่ยวยุโรปตะวันออก