Full Service VS Low Cost จองตั๋วเครื่องบินแบบไหนดี?

การใช้บริการจองตั๋วเครื่องบินนั้นนิยมแพร่หลายกันมานานหลายต่อหลายปีแล้ว แต่เพื่อนๆรู้หรือไม่ว่าความแตกต่างระหว่างการบริการของสายการบินแบบ Full Service กับแบบ Low Cost นั้นมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง เราไปรู้จักกับการบริการของทั้งสองแบบนี้กันดีกว่า

Full Service VS Low Cost ราคา

สิ่งแรกเลยถ้าพูดถึงสองบริการนี้ก็คือราคานั่นเองค่ะ แน่นอนว่าราคาในการบริการแบบ Full Service นั้นสูงกว่า Low Cost อยู่พอสมควร แต่สิ่งที่ทำให้ราคาสูงกว่านั้นเป็นเพราะว่า ทางสายการบินต้นทุนต่ำ (Low Cost) ได้มีการตัดบริการบางอย่างออกไป อย่างเช่นเรื่องของน้ำหนักกระเป๋าเดินทาง ไม่มีอาหารและเครื่องดื่มแจกบนเครื่องเป็นต้นฯ ซึ่งต่างกับทาง Full Service ที่รวมค่าน้ำหนักกระเป๋า มีบริการอาหารเครื่องดื่มบนเครื่องนั่นเอง

Full Service VS Low Cost ความปลอดภัย

ความปลอดภัยนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งต่อการให้บริการ เชื่อว่าใครที่จองตั๋วเครื่องบินไม่ว่าจะราคาถูกหรือแพงก็ต้องคิดคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยอยู่แล้ว ซึ่งแน่นอนเราไม่ได้กำลังจะบอกว่าต้องใช้บริการแต่เฉพาะ Full Service เพียงเพราะว่ามีราคาที่แพงกว่า และบริการจะต้องดีกว่านะคะ ไม่ว่าเพื่อนๆจะใช้บริการแบบไหน เรื่องความปลอดภัยนั้นก็เป็นไปตามมาตรฐานด้วยกันทั้งสองแบบเพราะฉะนั้นไว้ใจทั้งสองบริการได้อย่างแน่นอนฟันธง!

Full Service VS Low Cost ราคาโปรโมชั่น

หากพูดถึงกระแสการจองตั๋วเครื่องบินราคาโปรโมชั่นแล้วนั้น ทาง Low Cost ดูจะขยันออกโปรฯสุดพิเศษออกมาเยอะกว่าอีกแบบพอสมควร เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า ราคาของตั๋วเครื่องบินแบบ Low Cost นั้นจะไม่นิ่งแน่นอน ราคาจะแปรเปลี่ยนไปอยู่เรื่อยๆขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยเช่น ระยะเวลาของการเปิดจองตั๋ว อย่างเราจองวันนี้ กับจองในวันถัดไป ราคาก็อาจจะสูงขึ้นแล้ว บางเส้นทางสูงกว่าแบบ Full Service อีกด้วยเพราะฉะนั้นให้เราตรวจเช็คและเปรียบเทียบราคาของเส้นทางที่จะเดินทางให้ดีค่ะช่วยได้เยอะ

Full Service VS Low Cost การบริการ

เรากำลังพูดถึงการบริการที่ได้รับจากทั้งสองแบบ Full Service และ Low Cost เช่นเรื่องของการโหลดกระเป๋าใต้ท้องเครื่องบินอย่างของ Full Service นั้นจะรวมการบริการนี้เรียบร้อยแล้ว แต่ทาง Low Cost นั้นไม่รวม จะต้องจ่างเงินเพิ่มเติมเอา หรืออย่างอาหารเครื่องดื่ม ทาง Full Service นั้นจะครอบคลุมในบริการเรียบร้อย แต่ทาง Low cost หากอยากรับประทานจะต้องเสียเงินซื้อเพิ่มต่างหากค่ะ ดังนั้นแล้วใครที่จำเป็นต้องมีค่าโหลดกระเป๋าเดินทางก็ลองคำนวณกันให้ดีๆนะคะ เพราะค่าโหลดกระเป๋านั้นค่อนข้างแพงเอาการอยู่

อีกอย่างหนึ่งบนเครื่องบินถ้าเป็นของ Full Service ด้านหลังที่นั่งแต่ละที่จะมีสิ่งบันเทิงให้เราใช้ด้วยนะ (ขึ้นอยู่กับเครื่องบิน) แต่ถ้าบินกับ Low Cost ไม่มีแน่นอน

Full Service VS Low Cost ที่นั่ง

อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือเรื่องของที่นั่งภายในตัวเครื่องบิน ต้องยอมรับว่าบริการการบินแบบ Low Cost นั้นจะมีขนาดเล็กและคับแคบกว่าแบบ Full Service เพราะฉะนั้นหาใครที่ต้องเดินทางซึ่งใช้เวลาอยู่บนเครื่องหลายชั่วโมง หรือเป็นคนตัวใหญ่ มีปัญหาสุภาพเช่นอาการปวดเมื่อย หรือมีผู้สูงอายุไปด้วย การใช้บริการแบบ Low Cost จึงไม่เหมาะอย่างยิ่ง หันไปใช้บริการแบบ full Service ดีกว่า และหากใครที่ต้องการเลือกที่นั่งเอง Low Cost ไม่สามารถนะคะเพราะทางเจ้าหน้าที่จะเป็นคนจัดให้เราเอง หรือไม่บางสายการบินอาจจะคิดค่าที่นั่งเพิ่มเติมเพื่อให้เราสามารถจองที่นั่งได้ตามใจเราค่ะ

Full Service VS Low Cost กรณีเปลี่ยนวันเดินทางหรือขอคืนเงิน

หากเกิดเหตุสุดวิสัยที่เราไม่สามารถเดินทางตามวันที่จองตั๋วเครื่องบินได้ในกรณีของสายการบินชั้นประหยัด สามารถทำได้ยากพอสมควร อาจจะต้องซื้อตั๋วเครื่องบินกันใหม่เลยทีเดียว หรือถ้าจะเปลี่ยนวันเดินทางก็อาจจะต้องชำระค่าบริการเพิ่มเติม ซึ่งค่อนข้างราคาสูงพอสมควร กลับกันทางสายการบินแบบ Full Service นั้นสามารถเปลี่ยนแปลงวันเดินทางได้ค่ะ แต่ก็จะมีบางครั้งที่ตั๋วเกิดเป็นราคาโปรโมชั่นขึ้นมาก็อาจจะต้องทำตามเงื่อนไขเพิ่มเติมค่ะ ตัวอย่างก็เช่นเราจองตั๋วเครื่องบินราคาโปรโมชั่นมาแล้ว เกิดจำเป็นจะต้องเลื่อนวันเดินทางออกไปเป็นวันอื่นอาจจะไม่สามารถทำการเปลี่ยนแปลงวันเดินทางได้นั่นเองค่ะ เพราะฉะนั้นแล้วทางผู้บริโภคเองควรที่จะวางแผนการเดินทางให้แน่นอน

ทีนี้เพื่อนๆก็คงได้เห็นถึงความแตกต่างกันของทั้งสองประเภทการบินไปเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่สำคัญก่อนการจองตั๋วเครื่องบินราคาถูกไม่ว่าจะเป็นแบบใดก็ตาม ควรจะคิดและวางแผนการเดินทางให้ถูกต้องและแน่นอนที่สุด แล้วก็ลองค้นหาเปรียบเทียบราคากันด้วยจะช่วยให้การจองตั๋วเครื่องบินของเพื่อนๆนั้นประหยัดและคุ้มค่ามากที่สุดค่ะ