สรุปการเดินทาง
Day
|
Highlight
|
Meal
|
Hotel
*หรือเทียบเท่า
|
B |
L |
D |
1 |
กรุงเทพฯ - อิสตันบูล - คัปปาโดเกีย (พักค้าง 2 คืน) |
|
|
|
Exedra Cave Hotel
|
2 |
คัปปาโดเกีย - นครใต้ดินไคมัคลี่ - พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม - ชมโชว์ระบำหน้าท้อง |
|
|
|
Exedra Cave Hotel
|
3 |
คัปปาโดเกีย - คอนย่า - ปามุคคาเล่ |
|
|
|
Pam Thermal Hotel Pamukkale
|
4 |
ปามุคคาเล่ - ปราสาทปุยฝ้าย - คูซาดาซึ - บ้านพระแม่มารี - เมืองเอฟฟิซุส |
|
|
|
Radisson Aliaga Hotel
|
5 |
เมืองเพอร์กามอน - ทรอย |
|
|
|
Kolin Hotel
|
6 |
อิสตันบูล - พระราชวังโดลมาบาชเช่ - ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส |
|
|
|
Nova Plaza Prime Hotel
|
7 |
พระราชวังทอปกาปึ - สุเหร่าสีน้ำเงิน - โบสถ์เซนต์โซเฟีย |
|
|
|
-
|
8 |
กรุงเทพฯ |
|
|
|
-
|
อัตราค่าบริการ
Booking |
Seat Available
|
ช่วงเวลาเดินทาง |
ราคา (บาท/ท่าน) |
พักเดี่ยว เพิ่มท่านละ
|
|
6
|
7-14 ก.พ. 68 /
22 ก.พ.- 1 มี.ค. 68 /
15-22 มี.ค. 68 /
22-29 มี.ค. 68
|
54,900
|
10,000
|
|
6
|
2-9 เม.ย. 68 /
3-10 พ.ค. 68/
24-31 พ.ค. 68/
2-9 มิ.ย. 68 /
14-21 มิ.ย. 68
|
57,900
|
10,000
|
|
6
|
10-17 เม.ย. 68 /
12-19 เม.ย. 68
(สงกรานต์)
|
64,900
|
10,000
|
*หมายเหตุ : กรุณาเช็คที่นั่งว่างกับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง
แพลนการเดินทาง
วันแรก :: กรุงเทพฯ - อิสตันบูล - คัปปาโดเกีย (พักค้าง 2 คืน)
|
ออกเดินทางสู่ตุรกี
|
|
|
- 04.00 น. พบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์เชคอิน U ประตูทางเข้าที่ 9 หรือ 10 อาคารผู้โดยสารขาออก เคาน์เตอร์สายการบิน Turkish Airlines (TK) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
- 06.25 น. ออกเดินทางสู่ นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยเที่ยวบิน TK 59 (ใช้เวลาบินประมาณ 9.30 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบินฯ บริการ อาหารเช้าและอาหารกลางวัน ระหว่างเที่ยวบินสู่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี
- 13.25 น. เดินทางถึง กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่อาคารผู้โดยสารในประเทศเพื่อขึ้นเที่ยวบินสู่ เมืองไคเซรี่ (Kayseri) เที่ยวบิน TK2014
- 16.10 น. ออกเดินทาง จากสนามบินอิสตันบูล (IST) สู่สนามบินเมืองไคเซรี่ (Kayseri) โดยสายการบิน Turkish Airlines โดยเที่ยวบิน TK2014 มีบริการอาหารว่างบนเครื่องบิน (ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชม.)
- 17.35 น. เดินทางถึง สนามบินเมืองไคเซรี่ นำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พัก
|
รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
|
|
พักที่ Exedra Cave Hotel หรือในระดับเทียบเท่า
|
|
|
วันที่สอง :: คัปปาโดเกีย - นครใต้ดินไคมัคลี่ - พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม - ชมโชว์ระบำหน้าท้อง
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
|
|
คัปปาโดเกีย (Cappadocia)
|
|
|
ดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์ แปรสภาพเป็นหุบเขา ร่องลึก เนินเขา กรวยหินและเสารูปทรงต่างๆ ที่งดงามสารพัดรูปทรงราวกับดินแดนในเทพนิยาย จนผู้คนในพื้นที่เรียกขานกันว่า "ปล่องไฟนางฟ้า" และยูเนสโกได้ประกาศให้พื้นที่มหัศจรรย์แห่งนี้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี
หมายเหตุ: ในกรณีที่ท่านต้องการขึ้นบอลลูนซึ่งจัดเป็น Optional Tour ท่านสามารถเลือกซื้อได้เอง ราคาประมาณ 280-300 USD แต่ประกันการเดินทางที่บริษัททำให้ ไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูนและเครื่องร่อนทุกชนิด ดังนั้นการซื้อ Optional Tour นี้ ขึ้นกับดุลยพินิจของท่าน ซึ่งเป็นส่วนนอกเหนือจากโปรแกรมที่บริษัทจัด ดังนั้นหากเกิดมีปัญหาบอลลูนขึ้นไม่ได้หรือปัญหาอื่นๆ ท่านต้องติดต่อกับทาง supplier ในส่วนบอลลูนเอง
|
นครใต้ดิน (Underground city of Kaymakli)
|
|
|
เป็นเมืองใต้ดินที่มีครบทุกอย่าง ทั้งห้องโถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร โบสถ์ ทางหนีฉุกเฉิน ฯลฯ แม้จะเป็นเมืองขนาดใหญ่ขุดลึกลงไปใต้ดินหลายชั้นแต่ว่าอากาศในนั้นกลับถ่ายเทเย็นสบายเนื่องจากเป็นหินภูเขาไฟ อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีประมาณ 17-18 องศาเซลเซียสหน้าร้อนอากาศเย็น หน้าหนาวอากาศอบอุ่น
|
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
|
|
พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม (Goreme Open-air Museum)
|
|
|
พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 โดยก่อนที่ศาสนาคริสต์จะเผยแพร่ในคัปปาโดเกีย ผู้คนนับถือเทพเจ้ากรีก-โรมัน จนได้มีการเดินทางมาเผยแผ่ศาสนาคริสต์แต่ดูเหมือนว่าชาวโรมันผู้ปกครองในยุคนั้นจะไม่ให้การยอมรับ ทำให้ผู้นับถือศาสนาคริสต์ในคัปปาโดเกียต้องหลบซ่อนด้วยการเจาะถ้ำขุดพื้นดินลงไปเป็นอุโมงค์ เกิดเป็นเมืองใต้ดินขึ้นมาในบริเวณเกอเรเม่ ทำเป็นโบสถ์ถ้ำจำนวนมาก ว่ากันว่ามีถึง 365 หลังด้วยกัน (สร้างตามจำนวนวันใน 1 ปี) แต่ปัจจุบันเปิดให้ชมเพียงบางส่วนเท่านั้น
|
แวะชมโรงงานทอพรม โรงงานเซรามิค
|
|
รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารท้องถิ่น ชมโชว์ระบำหน้าท้องอันลือชื่อของตุรกี
|
|
|
|
พักที่ Exedra Cave Hotel หรือในระดับเทียบเท่า
|
|
|
วันที่สาม :: คัปปาโดเกีย - คอนย่า - ปามุคคาเล่
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
|
|
= เมืองคอนย่า (Konya) = ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง
|
|
คาราวานสไรน์ (Caravanserai)
|
|
|
ที่พักแรมและที่แลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างทางของชาวเติร์กในสมัยออตโตมัน มีกำแพงล้อมรอบเพื่อป้องกันลมและฝนและพายุทะเลทราย
|
พิพิธภัณฑ์เมฟลานา (Mevlana museum)
|
|
|
เดิมเป็นสถานที่นักบวชในศาสนาอิสลามในการทำสมาธิ (Whirling Dervishes) โดยการเดินหมุนเป็นวงกลมขณะฟังเสียงขลุ่ย ส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์เป็นสุสานของเมฟลานา เจลาเลดดิน ภายนอกเป็นหอทรงกระบอกปลายแหลมสีเขียวสดใส ภายในประดับประดาฝาผนังแบบมุสลิม
|
รับประทานกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
|
|
= ปามุคคาเล่ (Pamukkale) =
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง
|
|
รับประทานอาหารเย็น ณ โรงแรมที่พัก
|
|
พักที่ Pam Thermal Hotel Pamukkale หรือในระดับเทียบเท่า
|
|
|
หมายเหตุ: ท่านสามารถแช่น้ำแร่ที่โรงแรมได้ กรุณาเตรียมชุดว่ายน้ำและหมวกไปด้วย
วันที่สี่ :: ปามุคคาเล่ - ปราสาทปุยฝ้าย - คูซาดาซึ - บ้านพระแม่มารี - เมืองเอฟฟิซุส
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
|
|
ปราสาทปุยฝ้าย (ปามุคคาเล่)
|
|
|
เมืองแห่งน้ำพุเกลือแร่ร้อน ชมหน้าผาที่ขาวกว้างใหญ่ ด้านข้างของอ่างน้ำเป็นรูปร่างคล้ายหอยแครงและน้ำตกแช่แข็ง มองเผินๆ เหมือนสร้างจากหิมะ เมฆหรือปุยฝ้ายน้ำแร่ที่ไหลลงมาแต่ละชั้นจะแข็งเป็นหินปูนห้อยย้อยเป็นรูปร่างต่างๆ อย่างมหัศจรรย์ น้ำแร่นี้มีอุณหภูมิประมาณ 33-35.5 องศาเซลเซียส ประชาชนจึงนิยมไปอาบหรือนำมาดื่มเพราะเชื่อว่ามีคุณสมบัติในการรักษาโรค
|
= เมืองเอฟฟิซุส (City of Ephesus) =
|
|
|
เป็นเมืองอาณาจักรโรมัน(ต่อมาหลังจากยุคกรีก) ในอดีตเอฟฟิซุสเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของโรมัน ในคาบสมุทรอนาโตเลีย เป็นศูนย์กลางการค้า การคมนาคม ตั้งอยู่ริมทะเล จนได้รับการกำหนดให้เป็นเมืองหลวงแห่งเอเชียของอาณาจักรโรมัน
- ห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (Roman Bath) ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องอบไอน้ำให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้
- วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน (Temple of Hadrian) เป็นจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่อีกองค์หนึ่งของโรมัน ความโดดเด่นของวิหารแห่งนี้คืออยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก ด้านหน้าสร้างเป็นเสาโครินเธียน 4 ต้น คู่กลางรองรับโค้งครึ่งวงกลมที่เรียงอย่างสวยงาม โค้งด้านหลังมีภาพแกะสลักเป็นรูปนางเมดูซ่าหัวเป็นงู
- หอสมุดเซลซุส (Library of Celsus) อาคารที่โดดเด่นที่สุดจนเป็นสัญลักษณ์ของเอฟฟิซุส เป็นอาคารสองชั้นด้านหน้าหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเพื่อรับแสงสว่างยามเช้า
- ด้านหน้ามี รูปปั้นของเทพี 4 องค์ ได้แก่ Sophia (wisdom - ปัญญา), Arete (virtue - ความดี), Ennoia (thought - ความคิด), Episteme (knowledge - ความรู้)
- โรงละคร (Great Theatre) สิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอฟฟิซุส สร้างโดยการสกัดไหล่เขาให้เป็นที่นั่งสามารถบรรจุคนได้ถึง 25,000 คน ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 10 ของประชากรในยุคนั้น เดิมสร้างตั้งแต่สมัยกรีกโบราณโรมันมาปรับปรุงซ่อมแซมให้ยิ่งใหญ่มากขึ้น
|
ช้อปปิ้ง ณ ศูนย์ผลิตเสื้อหนังคุณภาพสูง
|
|
รับประทานอาหารเย็น ณ โรงแรมที่พัก
|
|
พักที่ Radisson Aliaga Hotel หรือในระดับเทียบเท่า
|
|
|
วันที่ห้า :: เมืองเพอร์กามอน - ทรอย
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
|
|
= เมืองเพอร์กามอน = ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง
|
|
วิหารเอสเคลปิออน (Asklepion)
|
|
|
ซากวิหารเอสเคลปิออนตั้งอยู่เบื้องล่างทางตะวันตกของตัวเมือง สร้างถวายเอสเคลปิออสเทพแห่งการแพทย์ วิหารแห่งนี้ไม่ใช่คลินิกธรรมดาแต่เป็นศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพที่สมบูรณ์แบบแห่งแรกในประวัติศาสตร์มีขั้นตอนการรักษาดังนี้ เริ่มจากคนไข้ซึ่งอาจเป็นนักธุรกิจ นักการเมืองหรือแม่ทัพนายกองชาวกรีกและโรมันที่ตรากตรำงานหนักมานานจะเดินทางมายังวิหาร ผู้ดูแลจะออกมาต้อนรับ จากนั้นพาเดินมาตามทางศักดิ์สิทธิ์หรือเวียเตกตา ซึ่งมีเสาคอลัมน์เรียงรายวิธีรักษามีให้เลือกมากมาย ทั้งการนวดและผัสสะบำบัดเพื่อช่วยผ่อนคลายความเมื่อย นอกจากนี้ยังมีการรักษาแบบจิตบำบัดอีกด้วย
|
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
|
|
= เมืองทรอย (Troy) =
ม้าไม้แห่งกรุงทรอย (the trojan hores of troy)
|
|
|
ชมม้าไม้แห่งกรุงทรอยอันโด่งดังซึ่งเป็น หนึ่งในอาวุธยุทโธปกรณ์อันชาญฉลาดในสมัยนั้นและเป็นสาเหตุให้กรุงทรอยถึงคราล่มสลาย และยังเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่หลงใหลในมหากาพย์อีเลียดได้เห็นด้วยตาของตนเอง
|
รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
|
|
พักที่ Kolin Hotel หรือในระดับเทียบเท่า
|
|
|
วันที่หก :: อิสตันบูล - พระราชวังโดลมาบาชเช่ - ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
|
|
= นครอิสตันบูล = ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.30 ชั่วโมง
|
|
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารไทย
|
|
พระราชวังโดลมาบาชเช่ (Dolmabahce Palace)
|
|
|
พระราชวังที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญอย่างสูงสุดทั้งทางวัฒนธรรมและทางวัตถุของจักรวรรดิออตโตมัน ซึ่งได้แผ่ขยายอำนาจออกไปอย่างกว้างขวาง เป็นศิลปะผสมผสานของยุโรปและตะวันออก ภายนอกตกแต่งด้วยสวนไม้ดอกรายล้อมพระราชวังซึ่งอยู่เหนืออ่าวเล็กๆ ของช่องแคบบอสฟอรัส ภายในประกอบด้วยห้องต่างๆ ตกแต่งด้วยโคมระย้า บันไดลูกกรง แก้วเจียระไน และ โคมไฟมหึมาหนัก 4.5 ตัน ซึ่งแขวนไว้อย่างโดดเด่นในห้องท้องพระโรงใหญ่
|
ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Strait)
|
|
|
เป็นช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำ (The Black sea) กับทะเลมาร์มาร่า (Sea of Marmara) ความยาวทั้งสิ้นประมาณ 32 กิโลเมตร ความกว้างตั้งแต่ 500 เมตรจนถึง 3 กิโลเมตร ถือว่าสุดขอบของทวีปยุโรปและสุดขอบของทวีปเอเชียมาพบกันที่นี่ ขณะที่ล่องเรือท่านจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ข้างทางไม่ว่าจะเป็น พระราชวังโดลมาบาชเช่ หรือ บ้านเรือนสไตล์ยุโรปของบรรดาเศรษฐี ซึ่งล้วนแล้วแต่สวยงามตระการตาทั้งสิ้น
|
ตลาดสไปซ์ มาร์เกต (Spice Market)
|
|
|
เลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันเลื่องชื่อของตุรกี อย่างแอปปริคอทหรือจะเป็นถั่วพิชทาชิโอ ซึ่งมีให้เลือกซื้อมากมาย
|
รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารจีน
|
|
พักที่ Nova Plaza Prime Hotel หรือในระดับเทียบเท่า
|
|
|
วันที่เจ็ด :: พระราชวังทอปกาปึ - สุเหร่าสีน้ำเงิน - โบสถ์เซนต์โซเฟีย
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
|
|
พระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace)
|
|
|
พระราชวังทอปกาปึนี้มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่กินเนื้อที่เกือบ 700,000 ตารางเมตร ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงตามแนวฝั่งทะเลมาร์มารา ภายในพระราชวังประกอบด้วยตำหนักน้อยใหญ่ พลับพลา พระคลังมหาสมบัติ มัสยิส หอพัก โรงเรียน ฯลฯ ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติที่ใช้เก็บมหาสมบัติอันล้ำค่าอาทิ เช่น เพชร 96 กะรัต กริชทองประดับมรกต เครื่องลายครามจากจีน หยก มรกต ทับทิม และเครื่องทรงของสุลต่านในแต่ละยุคสมัย
|
ฮิปโปโดรม (Hippodrome)
|
|
|
สนามแข่งม้าของชาวโรมัน สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิ เซปติมิอุส เซเวรุส เพื่อใช้เป็นที่จัดแสดงกิจกรรมต่างๆของชาวเมือง ต่อมาในสมัยของจักรพรรดิคอนสแตนติน ฮิปโปโดมได้รับการขยายให้กว้างขึ้น ตรงกลางเป็นที่ตั้งแสดงประติมากรรมต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นศิลปะในยุคกรีกโบราณ ในสมัยออตโตมันสถานที่แห่งนี้ใช้เป็นที่จัดงานพิธี แต่ในปัจจุบันเหลือเพียงพื้นที่ลานด้านหน้ามัสยิสสุลต่านอะห์เมตซึ่งเป็นที่ตั้งของเสาโอเบลิกส์ 3 ต้นคือ เสาที่สร้างในอียิปต์เพื่อถวายแก่พาโรห์ตุตโมซิสที่ 3 ถูกนำกลับมาไว้ที่อิสตันบูล เสาต้นที่สองคือ เสางู และเสาต้นที่สามคือ เสาคอนสแตนตินที่ 7
|
สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque)
|
|
|
ถ่ายรูปกับสุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยสุลต่านอะห์เมตที่ 1 ซึ่งมีพระประสงค์ที่จะสร้างมัสยิดของจักรวรรดิออตโตมันให้มีความงดงามและยิ่งใหญ่กว่าโบสถ์เซ็นต์โซเฟีย (St. Sophia) ของจักรวรรดิ ไบแซนไทน์ให้ได้ โดยสุเหร่าแห่งนี้สร้างประจันหน้ากับโบสถ์เซ็นต์โซเฟีย อย่างไรก็ตาม โบสถ์เซ็นต์โซเฟียก็ยังคงเป็นโบสถ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตุรกีจวบจนปัจจุบัน
|
โบสถ์เซนต์โซเฟีย (ST. Sophia)
|
|
|
ถ่ายรูปกับโบสถ์เซนต์โซเฟีย (ST. Sophia) ซึ่งเป็นศิลปะแบบไบเซนไทม์ ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณสร้างขึ้นสมัยจักรพรรดิคอนสแตนติน ของจักรวรรดิไบแซนไทน์ เดิมใช้เป็นโบสถ์คริสต์ แต่หลังจากจักรวรรดิออตโตมันเข้ามาปกครองจึงได้เปลี่ยนโบสถ์ดังกล่าวมาเป็นมัสยิส ปัจจุบันเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมความงามและความยิ่งใหญ่ ภายในมีภาพประดับโมเสกทองที่สมบูรณ์บ่งบอกถึงความศรัทธาอันแรงกล้าของจักรพรรดิคอนสแตนตินที่มีต่อคริสต์ศาสนา
|
12.00 น. เดินทางสู่สนามบินอิสตันบูล
|
|
อิสระรับประทานอาหารกลางวัน ในสนามบน
|
|
ออกเดินทาง
|
|
|
- 15.20 น. ออกเดินทางสู่ ประเทศไทย โดยสายการบิน Turkish Airlines เที่ยวบินที่ TK 58 (ใช้เวลาบินประมาณ 9 ชั่วโมง)
- สายการบินฯ มีบริการอาหารค่ำและอาหารเช้าระหว่างเที่ยวบิน
วันที่แปด :: กรุงเทพฯ
|
กรุงเทพฯ
|
|
|
- 04.45 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ