สรุปการเดินทาง
Day
|
Highlight
|
Meal
|
Hotel
*หรือเทียบเท่า
|
B |
L |
D |
1 |
กรุงเทพฯ - ดูไบ |
|
|
|
-
|
2 |
กรุงโรม - วาติกัน - มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ - เมืองฟลอเรนซ์ |
|
|
|
Marriott Rome Park Hotel
|
3 |
กรุงโรม - วาติกัน - มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ - เมืองฟลอเรนซ์ |
|
|
|
Grand Hotel Mediterraneo, Florence
|
4 |
เมืองปิซ่า - หอเอนปิซ่า - เวนิส เมสเตร้ - เกาะเวนิส |
|
|
|
Belstay Venezia Mestre
|
5 |
กรุงมิลาน - มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน - ลูเซิร์น - ชมเมือง |
|
|
|
Radisson Blu Lucerne
|
6 |
กรินเดอร์วาล - ยอดเขาจุงฟราว - เมืองดิฌง |
|
|
|
Mercure Dijon Centre Clemenceau
|
7 |
เมืองดิฌง - กรุงปารีส - ล่องเรือบาโตมุช - ห้าง Samaritaine |
|
|
|
Mercure Paris Velizy
|
8 |
หอไอเฟล - ประตูชัย - พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ - LA VALLEE VILLAGE OUTLET - สนามบิน |
|
|
|
-
|
9 |
ดูไบ - กรุงเทพฯ |
|
|
|
-
|
อัตราค่าบริการ
*หมายเหตุ : กรุณาเช็คที่นั่งว่างกับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง
แพลนการเดินทาง
วันแรก :: กรุงเทพฯ - ดูไบ
|
กรุงเทพฯ - ดูไบ
|
- 23.00 น. พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 9 แถว T สายการบิน Emirates Airlines
วันที่สอง :: ดูไบ - กรุงโรม (อิตาลี) - โคลอสเซี่ยม - น้ำพุเทรวี่ - บันไดสเปน
|
เดินทางสู่ กรุงโรม อิตาลี
|
|
|
- 02.25 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบิน Emirates Airlines เที่ยวบินที่ EK377 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
- 06.00 น. เดินทางถึง เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง
- 09.10 น. ออกเดินทางสู่ กรุงโรม ประเทศอิตาลี โดยสายการบิน Emirates Airlines เที่ยวบินที่ EK097 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
- 12.40 น. เดินทางถึง สนามบินกรุงโรม ประเทศอิตาลี หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
|
สนามกีฬาโคลอสเซี่ยม (Colosseum)
|
|
|
เมืองหลวงของประเทศอิตาลี ที่มีศิลปะ สถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์แห่งความยิ่งใหญ่ยาวนานมากกว่า 2,800 ปี กรุงโรม เคยเป็นเมืองที่มีบทบาทมากที่สุดของอารยธรรมตะวันตกและในอดีตได้เป็นอาณาจักรที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ถ่ายรูปด้านหน้าของ สนามกีฬาโคลอสเซี่ยม (Colosseum) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ ในอดีตนั้นเป็นสนามประลองการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ของชาวโรมันที่สามารถจุผู้ชมได้ถึง 50,000 คน
|
น้ำพุเทรวี่ (Trevi Fountain)
|
|
|
ชมงานประติมากรรมของเทพนิยายกรีกและโยนเหรียญอธิษฐานบริเวณ น้ำพุเทรวี่ สัญลักษณ์ของกรุงโรมอันโด่งดัง
|
บันไดสเปน (The Spanish Step)
|
|
|
เพลิดเพลินเดินเล่นเลือกซื้อสินค้าแฟชั่นและของที่ระลึกในบริเวณย่าน บันไดสเปน ซึ่งเป็นแหล่งแฟชั่นชั้นนำสุดหรูและยังเป็นแหล่งนัดพบของชาวอิตาเลี่ยน
|
รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
|
|
พักที่ Marriott Rome Park Hotel หรือในระดับเทียบเท่า
|
|
|
วันที่สาม :: กรุงโรม - วาติกัน - มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ - เมืองฟลอเรนซ์
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
|
|
= เดินทางสู่ นครรัฐวาติกัน =
|
|
มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St.Peter’s Basilica)
|
|
|
นครรัฐวาติกัน (Vatican) ประเทศที่เล็กที่สุดในโลกตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม เป็นประเทศเดียวในโลกที่มีกำแพงล้อมรอบเมืองเอาไว้ได้ทั้งหมด ยกเว้นด้านหน้าทางเข้า และเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก โดยมีพระสันตะปาปา มีอำนาจปกครองสูงสุด นำท่านชมมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St.Peter’s Basilica)
|
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
|
|
= เดินทางสู่ เมืองฟลอเรนซ์ (Florence) = ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง
|
|
เนินเขา Piazzale Michelangelo
|
|
|
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง ไปยัง เมืองฟลอเรนซ์ เมืองสวยอันดับ 1 ของอิตาลี ที่ได้ขึ้นชื่อว่าหากมาอิตาลีแล้วไม่ได้มาเยือนฟลอเรนซ์ก็เหมือนว่ายังมาไม่ถึงอิตาลีอย่างแท้จริง เป็นเมืองที่ยังคงความสวยงามและมีการอนุรักษ์ไว้ได้อย่างดี เต็มไปด้วยศิลปะ โดยเฉพาะศิลปะยุคเรเนสซองส์เป็นยุคที่ศิลปะเฟื่องฟูที่สุด
เดินขึ้นไปยัง เนินเขา Piazzale Michelangelo ชมวิวของเมือง Florence ในมุมสูง มองเห็นอาคารหลังคาสีแดงสุดคลาสสิคที่เรียงรายกันเป็นแนวสวยงาม
|
รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
|
|
พักที่ Grand Hotel Mediterraneo, Florence หรือในระดับเทียบเท่า
|
|
|
วันที่สี่ :: เมืองปิซ่า - หอเอนปิซ่า - เวนิส เมสเตร้ - เกาะเวนิส
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
|
|
= เดินทางสู่ เมืองปิซ่า(Pisa)= ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
|
|
จัตุรัสดูโอโมแห่งปิซ่า (Compo Dei Miracoli)
|
|
|
เมืองปิซ่า (Pisa) เมืองแห่งศิลปะที่สำคัญของอิตาลี เดินทางเข้าสู่ บริเวณ จัตุรัสดูโอโมแห่งปิซ่า หรือ จัตุรัสกัมโป เดย์ มีราโกลี (Compo Dei Miracoli) ที่ประกอบด้วยกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ โดยเริ่มจาก หอพิธีเจิมน้ำมนต์ (Baptistry of St. John) ที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี ชม มหาวิหารดูโอโม (Duomo) ที่งดงามและหอเอนแห่งเมืองปิซ่าอันเลื่องชื่อ ถ่ายภาพคู่กับ หอเอนปิซ่า (Leaning Tower of Pisa) สัญลักษณ์แห่งเมืองปิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง
|
รับประทานกลางวัน ณ ภัตตาคาร
|
|
= เดินทางสู่ เมืองเวนิส เมสเตร้ (Mestre) = ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง
|
|
ล่องเรือเกาะเวนิส
|
|
|
เมืองเวนิส เมสเตร้(Mestre) แคว้นเวเนเซีย (Venezia) ดินแดนแสนโรแมนติก เป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร โดยใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน มีสมญานามว่าเป็น “ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก” มีเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะและมีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่ง ออกเดินทางสู่ ท่าเรือตรอนเคตโต้ เพื่อเตรียมตัวนั่งเรือข้ามสู่เกาะเวนิส แล้วนั่งเรือต่อเพื่อไปยัง ท่าเรือซานมาร์โค (San Marco Pier) บนเกาะเวนิส
|
พระราชวังดอดจ์ (Doge’s Palace)
|
|
|
แวะให้ถ่ายรูปสวยๆ เก็บเป็นที่ระลึกกันที่ พระราชวังดอดจ์ (Doge’s Palace) พระราชวังริมน้ำแสนอลังการที่สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ในสไตล์เวเนเชียนโกธิค ที่เคยเป็นที่ประทับของผู้ปกครองแต่เก่าก่อนของเวนิส
|
จัตุรัสเซนต์มาร์ค (St. Mark’s Square)
|
|
|
เดินเที่ยวชมแลนด์มาร์คสำคัญต่างๆ ในเมือง และเก็บภาพสถานที่ต่างของเมืองแห่งคลองไม่ว่าจะเป็น จัตุรัสเซนต์มาร์ค (St. Mark’s Square) จัตุรัสหลักของเมืองเวนิสและยังเป็นศูนย์กลางเมืองตั้งแต่โบราณ รายล้อมไปด้วยอาคารสวยๆ สไตล์โกธิค
และจุดเด่นของจัตุรัสเซนต์มาร์คแห่งนี้ก็คือ มหาวิหารเซนต์มาร์ค (St. Mark’s Basilica) ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของจัตุรัสเซนต์มาร์ค มหาวิหารใหญ่ของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก อลังการด้วยการตกแต่งด้วยโดมใหญ่ รูปปั้นมากมายที่ทั้งละเอียดและประณีต
และที่อยู่ติดกันและโดดเด่นด้วยความสูงถึง 50 เมตรก็คือ หอระฆัง ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองที่เห็นได้ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของเมืองก็ตาม และที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ สะพานถอนหายใจ สะพานอันโด่งดังแห่งนี้ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำที่คั่นกลางระหว่างคุกเก่ากับพระราชวังดอดจ์ ทำจากหินปูนที่แกะสลักและออกแบบอย่างงดงามเช่นเดียวกับพระราชวังดอดจ์และอาคารโดยรอบ ถึงเวลาอันสมควรนำท่านเดินทางโดยเรือกลับสู่ เวนิส เมสเตร้
|
รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
|
|
พักที่ Belstay Venezia Mestre หรือในระดับเทียบเท่า
|
|
|
วันที่ห้า :: กรุงมิลาน - มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน - ลูเซิร์น - ชมเมือง
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
|
|
= เดินทางสู่ เมืองมิลาน (Milan) = ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง
|
|
|
เมืองมิลาน (Milan) เมืองสำคัญในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่ในแคว้นที่ราบลอมบาร์ดีเป็น เมืองที่มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ ซึ่งมิลานถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชั่นในลักษณะเดียวกับ นิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน และ โรม
|
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
|
|
มหาวิหารมิลาน (Milan Duomo)
|
|
|
เที่ยวชม มหาวิหารมิลาน (Milan Duomo) โบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอิตาลี โดดเด่นด้วยศิลปะแบบโกธิค ใช้เวลาในการก่อสร้างทั้งสิ้น 579 ปี ตั้งอยู่ในระดับความสูง 108.5 เมตรจากพื้นดินราย ล้อมด้วยยอดแหลมอีก135 ยอด พร้อมด้วยรูปแกะสลักจากหินอ่อนที่ประดับอยู่โดยรอบอย่างวิจิตรบรรจงด้วย
|
= เดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น สวิตเซอร์แลนด์ = ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง
|
|
|
|
สะพานไม้ชาเปล (Chapel bridge)
|
|
|
เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปี สะพานวิหารนี้เป็นสะพานที่แข็งแรงมากมุงหลังคาแบบโบราณ เชื่อมต่อไปยังป้อมแปดเหลี่ยมกลางน้ำ จั่วแต่ละช่องของสะพานจะมีภาพเขียนเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นภาพเขียนเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันสะพานไม้นี้ถูกไฟไหม้เสียหายไปมาก ต้องบูรณะสร้างขึ้นใหม่เกือบหมด
|
รูปแกะสลักสิงโตบนหน้าผาหิน (Lion of Lucerne)
|
|
|
เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ที่หัวของสิงโตจะมีโล่ห์ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์อยู่ โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิตเซอร์แลนด์ ในด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์ จงรักภักดี ที่เสียชีวิตในประเทศฝรั่งเศส ระหว่างการต่อสู้ป้องกันพระราชวังในครั้งปฏิวัติใหญ่สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16
|
รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
|
|
พักที่ Radisson Blu Lucerne Hotel หรือในระดับเทียบเท่า
|
|
|
วันที่หก :: กรินเดอร์วาล - ยอดเขาจุงฟราว - เมืองดิฌง
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
|
|
= เดินทางสู่ เมืองกรินเดลวาลด์ = ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
|
|
ยอดเขาจุงฟราว (Jungfrau)
|
|
|
ขึ้นสู่ ยอดเขาจุงฟราว Top of Europe โดยกระช้าไฟฟ้า Eiger Express ซึ่งเป็นกระเช้าใหม่ล่าสุดที่จะพาทุกท่านขึ้นสู่ยอดเขาในเวลาเพียง 15 นาที (จากสถานี Grindelwald Terminal ไปยัง Eiger Glacier Terminal) ซึ่งยอดเขาจุงฟราวได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกอีกของสวิตเซอร์แลนด์ ที่อยู่บนความสูงกว่าระดับน้ำทะเลกว่า 4,158 เมตร ที่มี่หิมะปกคลุมตลอดทั้งปี
นำท่านชม กลาเซียร์ หรือธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ จากนั้นสนุกสนานกับการเล่นหิมะในลานกว้าง(Plateau) หรือเลือกเดินไปยัง SPHINX ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรป สามารถมองเห็นได้กว้างไกลที่สุด ณ จุด 3,571 เมตร ชม ถ้ำน้ำแข็ง ที่แกะสลักให้สวยงาม อยู่ใต้ธารน้ำแข็ง 30 เมตร สัมผัสกับภาพของธารน้ำแข็ง Alestsch ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ยาวถึง 22 ก.ม. และหนา 700 เมตร และไม่ควรพลาดกับการส่งโปสการ์ดโดยที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในยุโรป อิสระให้ท่านได้เดินเล่นและถ่ายรูปตามอัธยาศัย
|
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขา
|
|
= นั่งรถโค้ชสู่ เมืองดีฌง ฝรั่งเศส (Dijon) = ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง
|
|
|
เมืองดีฌง (Dijon) เมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องของไวน์ชั้นเลิศ และยังเป็นเมืองหลวงของแคว้นเบอร์กัน (Burgundy Region) แคว้นที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของประเทศฝรั่งเศส เมืองดีจอง เป็นเมืองหลวที่มีความสำคัญด้านประวัติศาสตร์ของแคว้น เบอร์กันดี และฝรั่งเศสเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ในเรื่องของการผลิตไวน์
|
รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
|
|
พักที่ Mercure Dijon Centre Clemenceau หรือในระดับเทียบเท่า
|
|
|
วันที่เจ็ด :: เมืองดิฌง - กรุงปารีส - ล่องเรือบาโตมุช - ห้าง Samaritaine
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
|
|
= เดินทางสู่ เมืองปารีส (Paris) = ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง
|
|
อิสระรับประทานอาหารกลางวัน
|
|
Samaritaine
|
|
|
อิสระท่านเลือกซื้อสินค้าแบรนด์ชื่อดัง ที่ Samaritaine หรือเดินชมวิวทิวทัศน์ตามอัธยาศัย
|
ล่องเรือบาโตมุช (Bateaux Mouches River Cruise)
|
|
|
ล่องเรือบาโตมุช (Bateaux Mouches River Cruise) ไปตามแม่น้ำแซนที่ไหลผ่านใจกลางกรุงปารีส ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมอันคลาสสิคของอาคารต่างๆ ตลอดสองฝากฝั่งแม่น้ำ โดยเรือจะล่องผ่าน มหาวิหารนอเตรอดาม แห่งปารีส (Notre-dame de Paris) นับเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้ยลโฉมมหาวิหารแห่งนี้ในรูปแบบที่สดใสกว่าเดิมและฟื้นคืนความงามขึ้นมาอีกครั้ง โดยจะเปิดอย่างเป็นทางการหลังจากใช้เวลาบูรณะยาวนานถึง 5 ปี
|
รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
|
|
พักที่ Mercure Paris Velizy หรือในระดับเทียบเท่า
|
|
|
วันที่แปด :: หอไอเฟล - ประตูชัย - พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ - LA VALLEE VILLAGE OUTLET - สนามบิน
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
|
|
หอไอเฟล (Eiffel)
|
|
|
มาถึงฝรั่งเศสทั้งที ถ้าไม่ได้มา หอไอเฟล เดี๋ยวเค้าจะหาว่ามาไม่ถึง ให้คุณได้เก็บภาพประทับใจกับหอไอเฟล สัญลักษณ์ที่โดดเด่นสูงตระหง่านคู่นครปารีส ด้วยความสูงถึง 1,051 ฟุต
|
ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de triomphe)
|
|
|
ถ่ายรูป ประตูชัย และผ่านชมทิวทัศน์ของร้านค้าบูติคชั้นนำระดับโลกที่ตั้งเรียงรายอยู่บนถนนฌ็องเชลิเซ่
|
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum)
|
|
|
ถ่ายรูปหน้า พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ พิพิธภัณฑ์ทางศิลปะที่มีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตัวอาคารเดิมเคยเป็นพระราชวังหลวง แต่ปัจจุบันเป็นสถานที่ที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกเป็นจำนวนมาก
|
La Vallee Village Outlet
|
|
|
La Vallee Village Outlet แหล่งช้อปปิ้งที่รวมร้านค้าแบรนด์เนมดังมากมายกว่า 70 ร้าน สัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ครบครันด้วยสินค้าชั้นนำต่างๆ มากมาย เช่น CELINE, KENZO, LONGCHAMP, POLO, BLANC BLEU, FRANCOIS, DIESEL GIRBAUD, ARMANI, PAUL SMITH, GIVENCHY, BURBERRY, VALENTINO, VERSACE, KEVIN KLEIN, SAMSONITE, CERRUTI, DOLCE & GABBANA ฯลฯ
|
อิสระรับประทานอาหารกลางวัน และอาหารเย็น
|
|
ได้เวลาอันสมควรนำท่านสู่สนามบิน
|
|
ออกเดินทาง
|
- 21.55 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบิน Emirates Airlines เที่ยวบินที่ EK076 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
วันที่เก้า :: ดูไบ - กรุงเทพฯ
|
เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ
|
- 06.35 น. เดินทางถึง เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง
- 09.40 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน Emirates Airlines เที่ยวบินที่ EK372 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
- 18.55 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ