สรุปการเดินทาง

อัตราค่าบริการ

*หมายเหตุ : กรุณาเช็คที่นั่งว่างกับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง

แพลนการเดินทาง 

วันแรก :: กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) - โตเกียว (สนามบินนาริตะ) (TG640 22.30 - 06.20)

• 19.00 น. คณะพร้อมกัน ณ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์ สายการบินไทย พบเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับ พร้อมอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน (วันที่ 18-23 ก.พ.68 พร้อมกันเวลา 20.00 น.) 
• 22.30 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG640 (มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (วันที่ 18-23 ก.พ.68 ออกเดินทางเวลา 23.55 น. เที่ยวบินที่ TG642)

วันที่สอง :: โตเกียว (สนามบินนาริตะ) - จังหวัดชิซูโอกะ - ชมเทศกาลดอกซากุระบานในคาวาซุ - งานประดับไฟ อิซุโคเก็น แกรนอิลูมิ - แช่น้ำแร่ธรรมชาติ

• 06.20 น. เดินทางถึง สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 2 ชม.) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว [สำคัญมาก!!ไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศญี่ปุ่นหากฝ่าฝืนมีโทษจับปรับได้] (วันที่ 18-23 ก.พ.68 เดินทางถึง 07.40 น.)

	= เดินทางสู่ จังหวัดชิซูโอกะ (Shizuoka) =
	เทศกาลดอกซากุระบานในคาวาซุ (Kawazu Cherry Bloom Festival)

เทศกาลคาวาซุซากุระ (Kawazu Sakura) หรือที่เรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า คาวาซุซากุระ มัตสึริ (Kawazuzakura Matsuri) เป็นงานเฉลิมฉลองต้นซากุระที่ออกดอกบานเร็วที่สุดในภาคตะวันออกของประเทศญี่ปุ่น ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคมของทุกปี พบกับดอกซากุระสายพันธุ์คาวาซุ (Kawazu-zakura) กว่า 8,000 ต้น ที่จะออกดอกอวดโฉมงามก่อนเมืองไหน ที่ริมแม่น้ำคาวาซุ มีต้นซากุระหนาแน่นเป็นพิเศษเรียงรายเป็นทางยาวประมาณ 4 กิโลเมตร ภายในเทศกาลมีซุ้มขายอาหารคาว อาหารแห้ง ผลไม้ท้องถิ่น เช่น ส้ม ของที่ระลึก ต้นกล้าซากุระคาวาซุ และดอกไม้สีเหลืองซึ่งจะบานในช่วงเดียวกันกับซากุระ

	รับประทานอาหารกลางวัน บนรถบัส BENTO SET
	เทศกาลประดับไฟ อิซุโคเก็น แกรนอิลูมิ (Izukogen Granillumi)

เทศกาลประดับไฟ อิซุโคเก็น แกรนอิลูมิ (Izukogen Granillumi) ณ สวนอิซุแกรนพาล (Izu Granpal Park) ที่จังหวัดชิซูโอกะ อีกหนึ่งงานประดับไฟสุดยิ่งใหญ่ ที่เคยคว้ารางวัล งานประดับไฟยามค่ำคืนที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นมาแล้ว 2 ปีซ้อน (ปี 2016-2017) นอกจากนี้ยังได้รับการจัดอันดับจากนิตยสาร Walker plus ให้เป็นอันดับที่ 1 ต่อเนื่อง 5 ปีซ้อน จุดเด่นของที่นี่ คือ ขนาดพื้นที่อันกว้างขวาง และโซนต่างๆ ที่แบ่งการนำเสนอออกเป็นหลากหลายธีม ไม่ว่าจะเป็น อุโมงค์ไฟ, สวนดอกไม้, สวนเค้ก และส่วนการจัดแสดงแสง สี เสียง 

และมีโซนเปิดใหม่ที่หากได้มาเยือนงานนี้ก็ไม่ควรพลาด ได้แก่โซนที่ชื่อว่า “Walk on the Illuminations” โดยจะมีทางเดินให้เราสามารถขึ้นไปเดินเล่นข้างบนไฟประดับได้ เมื่ออยู่บนนั้นรอบๆ ตัวเราจะเต็มไปด้วยแสงไฟระยิบระยับราวกับหลุดเข้าไปอยู่ในโลกแฟนตาซีเลยทีเดียว โซนนี้ยังมาพร้อมกับธีม “ความรัก” โดยมีการประดับไฟเป็นรูปหัวใจบนพื้นทั้งหมด 4 ดวง แต่ละดวงก็จะมีชื่อที่แตกต่างกันออกไป ได้แก่ “ดอกไม้กับดวงดาวบนฟ้า” “ดอกไม้กับทะเล” “ดอกไม้กับประเทศเขตร้อน” และ “ดอกไม้กับฤดูร้อน”

	รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารโรงแรม
	พักที่ ITO HOTEL AREA หรือในระดับเทียบเท่า
	ผ่อนคลายกับการแช่น้ำจากแร่ธรรมชาติสไตล์ญี่ปุ่น ออนเซ็น

วันที่สาม :: อุทยานแห่งชาติฮาโกเน่ - หุบเขาโอวาคุดานิ - ศาลเจ้าฮาโกเน่ - โกเทมบะพรีเมี่ยมเอ้าเล็ต - เมนูขาปูยักษ์ - แช่น้ำแร่ธรรมชาติ

อุทยานแห่งชาติฮาโกเน่ (Hakone National Park) จุดชมวิวและเมืองพักผ่อนตากอากาศที่ตั้งอยู่ในจังหวัดคะนะงะวะ มีชื่อเสียงในด้านน้ำพุร้อนซึ่งเกิดจากความร้อนของภูเขาไฟรวมทั้งยังมีทิวทัศน์ของภูเขาไฟฟูจิที่สวยงาม

ศาลเจ้าฮาโกเน่ (Hakone Jinja Shrine) ตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบอาชิ (Lake Ashi) ซึ่งเป็นที่เที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างมากในแถบฮาโกเน่ ศาลเจ้าแห่งนี้มีความเชื่อในเรื่องช่วยให้เดินทางปลอดภัย ช่วยให้รอดพ้นจากเคราะห์ภัย โดยในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเข้ามาแวะเวียนมาที่นี่มากกว่า 20 ล้านคน

ตื่นตาบ่อน้ำแร่กำมะถันที่มีควันพวยพุ่งอยู่รายรอบของ หุบเขาโอวาคุดานิ และต้องไม่พลาด ชิมไข่ดำ ที่มีเฉพาะที่นี่เท่านั้น! เชื่อว่า เมื่อกินไข่ดำ 1 ฟอง จะทำให้มีอายุยืนยาวขึ้น 7 ปี

	รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
	Gotemba Premium Outlets

Gotemba Premium Outlets เป็นเอาท์เลตส์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น รวมแบรนด์ดังทั้งในประเทศและแบรนด์ต่างประเทศกันแบบจุใจ จุดที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่คือได้มาช้อปปิ้งพร้อมสัมผัสบรรยากาศของภูเขาไฟฟูจิได้เลย และสำหรับสายการ์ตูนญี่ปุ่นห้ามพลาด! ร้านขายสินค้าโปเกม่อน (Pokémon) ตุ๊กตา แก้วน้ำ ปากกา และอื่นๆ เกี่ยวกับโปเกม่อน ที่ทำให้เหล่าโปเกม่อนเพลย์เยอร์ต้องใจสั่นในความน่ารัก

	รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารโรงแรม พิเศษ เมนูขาปูยักษ์สไตล์ญี่ปุ่น พร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด
	พักที่ YAMANASHI HOTEL AREA หรือในระดับเทียบเท่า
	ผ่อนคลายกับการแช่น้ำจากแร่ธรรมชาติสไตล์ญี่ปุ่น ออนเซ็น

วันที่สี่ :: อิสระกิจกรรม ลานสกี - กิจกรรม ชงชาญี่ปุ่น - หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะฮักไก - เมืองโตเกียว - ช้อปปิ้ง ชินจูกุ

	รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
	กิจกรรม ลานสกี

สัมผัส ลานสกี ให้ทุกท่านได้อิสระเพลิดเพลินสนุกสนานกับการเล่นหิมะและเก็บภาพประทับใจ กลับไปอวดคนทางบ้าน เช่นหากท่านต้องการเล่น เลื่อนหิมะ **สามารถเช่าอุปกรณ์, ชุดสำหรับเล่นสกีและเครื่องเล่นทุกชนิด ราคาประมาณ 500-15,000 เยน

** หมายเหตุ: ในกรณีที่ลานสกีเข้าไม่ได้เนื่องจากสภาพอากาศ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนโปรแกรมทัวร์ หรือบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนโปรแกรมทัวร์เป็น Fuji Visitor Center ซึ่งท่านสามารถศึกษาความเป็นมาของภูเขาไฟฟูจิและเลือกซื้อของที่ระลึกเกี่ยวกับภูเขาไฟฟูจิได้ และยังเป็นจุดถ่ายรูปกับภูเขาไฟฟูจิได้สวยงามในช่วงฤดูหนาว

สัมผัสวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น นั่นก็คือ กิจกรรมการชงชาญี่ปุ่น (Sado) โดยการชงชาตามแบบญี่ปุ่นนั้น มีขั้นตอนมากมาย เริ่มตั้งแต่การชงชา การจับถ้วยชา และการดื่มชา ทุกขั้นตอนนั้นล้วนมีขั้นตอนที่มีรายละเอียดที่ประณีตและสวยงามเป็นอย่างมาก และท่านยังมีโอกาสได้ลองชงชาด้วยตัวท่านเองอีกด้วย ซึ่งก่อนกลับให้ท่านอิสระเลือกซื้อของที่ฝากของที่ระลึกตามอัธยาศัย

หมู่บ้านน้ำใสโอชิโนะ ฮักไก เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ใกล้ภูเขาไฟฟูจิ บริเวณทะเลสาบยามานากาโกะ ซึ่งในปี 2013 ภูเขาไฟฟูจิได้รับเลือกให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลก ที่นี่เองก็ได้รับเลือกในฐานะ ส่วนหนึ่งของภูเขาไฟฟูจิด้วย และเพราะในบริเวณนี้มีบ่อน้ำใสๆ รวมกันกว่า 8 บ่อ คนไทยเราเรียกที่นี่ว่า หมู่บ้านน้ำใส นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านจำหน่ายของที่ระลึก ขนมหวาน ผักดอง งานฝีมือ และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นอื่นๆ บางร้านยังขายมันเทศหวานย่าง และแครกเกอร์ข้าวคั่วบนเตาเล็กๆกลางแจ้งส่งกลิ่นหอมชวนให้ลิ้มลอง

ช้อปปิ้งใจกลางมหานครโตเกียวอันเลื่องชื่ออย่าง ย่านชินจูกุ (Shinjuku) แหล่งบันเทิงและแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ใจกลางเมืองหลวงโตเกียว เป็นศูนย์รวมแฟชั่น ของเหล่าบรรดาแฟชั่นนิสต้า มีสถานีรถไฟชินจูกุที่เป็นเหมือนศูนย์กลางของของย่านนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีที่คึกคักที่สุดในญี่ปุ่น ทางด้านตะวันตกย่านนี้ที่เต็มไปด้วยตึกระฟ้าหลายอาคาร มีทั้งโรงแรมชั้นนำ และในส่วนทางด้านตะวันออกนั้นคือ คาบูกิโจ (Kabuki-jo) เป็นย่านที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า, ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่อย่าง Bic Camera และย่านบันเทิงยามราตรีที่มีร้านอาหารเยอะแยะมากมาย เช่น ร้านอิซากายะ (Izakaya)

วันที่ห้า :: อิสระช้อปปิ้งในโตเกียว หรือเลือกซื้อทัวร์โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (เดินทางโดยรถไฟ)

วันที่หก :: วัดอาซากุสะ - ช้อปปิ้ง ถนนนากามิเสะ - ช้อปปิ้งอิออน มอลล์ - โตเกียว (สนามบินนาริตะ) - กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) (TG677 17.30-22.30)

	รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
	วัดอาซากุสะ (Sensoji Temple)

วัดอาซากุสะ วัดดังอันเก่าแก่แห่งญี่ปุ่น เข้าไปกราบสักการะขอพรจากองค์เจ้าแม่กวนอิมทองคำที่เป็นทองสัมฤทธิ์ มีขนาดเล็กเพียง 5.5 เซนติเมตร แนะนำการ ขอพร 5 เยน เพราะญี่ปุ่นเชื่อว่า 5 เยน นั้น เป็นเหรียญที่มีรูตรงกลาง สิ่งเลวร้าย สิ่งที่ไม่ดี จะลอดผ่านจากรูนี้ออกไป หากขอพรกับเจ้าแม่กวนอิมเสร็จให้โยนเหรียญ 5 เยน ลงจุดโยนเหรียญ เชื่อว่าพรที่ขอไปจะสมหวังทุกประการ แล้วถ่ายรูปกับ คามินาริมง (ประตูฟ้าคำรณ) กับสัญลักษณ์โคมแดงยักษ์ใหญ่ ที่ใครๆ มาเที่ยวญี่ปุ่น ต้องไม่พลาด

	ถนนนาคามิเซ

ถนนนาคามิเซ อีกหนึ่งไฮไลท์ของวัดอาซากุสะ ถนนช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึกมากมาย ใครอยากช้อปปิ้งของฝากที่เป็นแบบญี่ปุ่๊น ญี่ปุ่น Made In Japan แท้ๆ ก็สามารถเลือกซื้อกันได้ที่นี่ หากมีเวลา สามารถเดินไปถ่ายรูปคู่กับวิวของหอคอย โตเกียวสกายทรี (Tokyo Sky tree) แลนด์มาร์กของมหานครโตเกียว ซึ่งอยู่ไม่ไกลวัดอาซากุซะ

ช้อปปิ้ง อิออน มอลล์ นาริตะ ห้างสรรพสินค้าที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่น มีร้านค้าที่หลากหลายมากกว่า 150 ร้าน เช่น MUJI, 100 yen shop, Sanrio store, Capcom games arcade, ร้านขายอุปกรณ์กีฬา และซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ ให้ท่านได้เก็บจัดการลิสต์ของฝากมาจากคนที่บ้านได้อย่างครบครันเต็มที่

• สมควรแก่เวลาเดินทางนำท่านเดินทางสู่ สนามบินนาริตะ
• ถึง สนามบินนาริตะ ทำการเช็คอิน และโหลดกระเป๋าสัมภาระ 
• 17.30 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 677 (สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) 
• 22.30 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ