สรุปการเดินทาง

อัตราค่าบริการ

*หมายเหตุ : กรุณาเช็คที่นั่งว่างกับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง

แพลนการเดินทาง

วันแรก :: กรุงเทพฯ (สนามบินดอนเมือง) - ซัปโปโร (สนามบินชิโตเสะ) (XJ620 : 02.05-11.05) (อาหารร้อนบนเครื่อง)

• 22.00 น. พร้อมกันที่ สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ชั้น 3 (อาคาร 1) เคาน์เตอร์สายการบิน ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารและสัมภาระ

วันที่สอง :: ซัปโปโร (สนามบินชิโตเซะ) - โนโบริเบทสึ - หุบเขานรกจิโกกุดานิ - นั่งกระเช้าชมวิวเมืองฮาโกดาเตะ(รวมค่ากระเช้า) - แช่น้ำแร่ธรรมชาติ

• 02.05 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินชิโตเซะ ประเทศญี่ปุ่น โดย สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เที่ยวบินที่ XJ620 (รวมอาหารและน้ำดื่มบนเครื่อง) 
• 11.05 น. เดินทางถึง สนามบินชิโตเซะ ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 2 ชม.) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว (สำคัญมาก!! ไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศญี่ปุ่นหากฝ่าฝืนมีโทษจับปรับได้)

หุบเขานรกจิโกกุดานิ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Shikotsu-Toya เมือง Noboribetsu หรือเรียกอีกอย่างว่า “หุบเขานรก” เพราะที่นี่มีทั้งบ่อโคลนและบ่อน้ำร้อนที่เดือดตามธรรมชาติกระจายไปทั่วบริเวณที่มีควันร้อนๆ พวยพุ่งขึ้นมาอยู่ตลอดเวลา และถือเป็นแหล่งกำเนิดน้ำแร่และออนเซ็นที่มีชื่อเสียงที่สุดบนเกาะฮอกไกโด ทางเข้าหุบเขาจะมีสัญลักษณ์เป็นยักษ์สีแดงตัวใหญ่ถือตะบองคอยต้อนรับ เป็นยักษ์ที่คอยคุ้มกันภัยให้ผู้มาเยือนดังนั้นทุกบริเวณพื้นที่ของที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นร้านขายของที่ระลึกห้องน้ำจะมีป้ายต่างๆ ที่มีสัญลักษณ์รูปยักษ์ให้เห็นโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์

ชมภูเขาไฟโชวะซินซัน เรียกว่าเป็นภูเขาไฟน้องใหม่ที่อายุน้อยที่สุดในญี่ปุ่น เพราะเพิ่งเกิดขึ้นในปี 1946 หรือประมาณเจ็ดสิบกว่าปีมาแล้ว เป็นภูเขาไฟที่เกิดขึ้นจากการสั่นสะเทือนของผิวโลก ซึ่งระเบิดปะทุติดต่อกันนานถึง 2 ปีจนกลายมาเป็นภูเขาโชวะชินซัน ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของรัฐบาลในฐานะเป็น “อนุสรณ์ทางธรรมชาติแห่งพิเศษ”

ฟาร์มหมีภูเขาไฟโชวะชินซัน (Showa-Shinzan Bear Park) เป็นสถานที่เพาะพันธุ์หมีสีน้ำตาลที่มีตั้งแต่เจ้าหมีตัวเล็กๆ ไปจนถึงหมีตัวโต น้องหมีที่นี่ไม่ดุร้ายเพราะหมีที่นี่ได้รับการดูแลและฝึกให้คุ้นเคยกับคน ท่านจะได้เห็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดู น้องหมีโชว์ลีลาอ้อนขออาหารจากนักท่องเที่ยว ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถป้อนอาหารเหล่าหมีทั้งหลายด้วย ขนมปัง และแอปเปิ้ล ซึ่งจะมีจุดจำหน่ายอาหารหมี

	รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารโรงแรม
	พักที่ TOYA ONSEN HOTEL หรือในระดับเทียบเท่า
	ผ่อนคลายกับการแช่น้ำจากแร่ธรรมชาติสไตล์ญี่ปุ่น ออนเซ็น

วันที่สาม :: จุดชมวิวทะเลสาบโทยะ - เมืองฮาโกดาเตะ - ป้อมดาวโกะเรียวคะคุ (รวมค่าขึ้นหอคอย)- โกดังอิฐแดง - นั่งกระเช้าชมวิวเมืองฮาโกดาเตะ(รวมค่ากระเช้า)

ทะเลสาบโทยะ เป็นทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของญี่ปุ่น ภายในทะเลสาบมีเกาะถึง 4 เกาะ มีทัศนียภาพที่แตกต่างกันไปในแต่ละวัน ทะเลสาบแห่งนี้มีความพิเศษตรงที่น้ำจะไม่แข็งตัวในช่วงฤดูหนาว กลางทะเลสาบมีเกาะเล็กๆอยู่ตรงกลาง คือ เกาะนากาจิมะ(Nakajima Island) สามารถลงไปเดินเล่นได้ (ยกเว้นฤดูหนาว)

ป้อมดาวโกะเรียวคะคุ ป้อมปราการรูปดาวขนาดมหึมา มีความสูงประมาณ 100 เมตร ขึ้นไปบนหอคอยเพื่อชมวิว สวนสาธารณะโกะเรียวคะคุ ผ่านกระจกล้อมรอบแบบ 360 องศา มองเห็นทิวทัศน์ของโกะเรียวคะคุ ภูเขาฮาโกดาเตะ และท่าเรือ พร้อมเก็บภาพพาโนรามาสุดประทับใจ

โกดังอิฐแดง หรือ โกดังคานะโมริ อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของฮาโกะดาเตะ โดดเด่นด้วยอาคารสไตล์ยุโรปที่ก่อด้วยอิฐสีแดง เนื่องจากฮาโกดาเตะเป็นเมืองท่าแรกๆ ที่เปิดรับชาวต่างชาติในช่วงเปิดประเทศ ดังนั้นจึงมีกลิ่นอายความเป็นนานาชาติ และโกดังแห่งนี้จึงมีสถาปัตยกรรมแบบยุโรป ยิ่งเป็นฤดูหนาว จะโรแมนติกที่สุด

ยอดเขาฮาโกดาเตะ สัญลักษณ์ของเมืองฮาโกดาเตะ ให้ท่านได้นั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นสู่ยอดเขาฮาโกดาเตะ (ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) ขึ้นไปจุดชมวิวบนยอดเขาสูง มองเห็นทัศนียภาพที่สวยที่สุดของเมืองฮาโกดาเตะที่มีน้ำทะเลขนาบอยู่ทั้ง 2 ด้าน เมื่อยามค่ำคืนบ้านเรือนและถนนหนทางจะเปิดไฟ มองเห็นแสงระยิบระยับราวกับดวงดาวบนผืนแผ่นดิน ที่นี่จึงเป็น 1 ใน 3 ทิวทัศน์ยามค่ำคืนอันงดงามของญี่ปุ่นที่ควรต้องมาชมด้วยตาตัวเอง (โดยอีกสองแห่งคือ ภูเขาอินาสะ เมืองนางาซากิ กับ ภูเขาร็อคโกะ เมืองโกเบ) (กรณีกระเช้าปิดเนื่องจากสกภาพอากาศหรือซ่อมบำรุง ขอสงวนสิทธิเปลี่ยนเป็นขึ้นรถเพื่อไปชมวิวที่จุดชมวิวแทน)

วันที่สี่ :: ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ - กิจกรรมลานสกี สโนแลนด์ - เมืองซัปโปโร - ร้านDuty Free - ช้อปปิ้งถนนทานุกิโคจิ

ตื่นมาสูดอากาศยามเช้า และไปเดินเล่นกันที่ ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ ที่นี่เต็มไปด้วยอาหารทะเลสดมากๆ เพราะเค้ายกมาจากทะเลสดใหม่ทุกวัน โดยเฉพาะปูยักษ์ที่ว่ากันว่า ปูที่นี่อร่อยกว่าอีกหลายๆ ที่ของญี่ปุ่น และยังมี ปลาแซลมอน ปลาหมึก ไข่หอยเม่น กุ้ง ที่มีทั้งแบบสดและแบบแห้ง หรือจะเป็นผลไม้ขึ้นชื่อตามฤดูกาลและผักพื้นเมืองหลากหลายชนิด

อิสระเพลิดเพลินและสนุกสนานกับ กิจกรรมลานสกี (ตามสภาพอากาศ) ท่านสามารถสนุกสนานกับกิจกรรมมากมายให้ท่านได้เลือกไม่ว่าจะเป็น สโนว์โมบิล (Snow Mobile), ล่องแพหิมะ (Snow Rafting), ถาดเลื่อนหิมะ (Snow Tubing) ** ไม่รวมอัตราค่าเช่าอุปกรณ์, ค่าคอร์สในการเล่นกิจกรรม และ เครื่องเล่นทุกชนิด**

	รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
	= เดินทางสู่ เมืองซัปโปโร =
	ดิวตี้ฟรี (Duty Free)

ช้อปปิ้งที่ ดิวตี้ฟรี แหล่งช้อปปลอดภาษี ที่รวบรวมสินค้าราคาพิเศษและมีชื่อเสียงที่เห็นแล้วต้องรู้ว่ามาจากประเทศญี่ปุ่น เช่น โฟมถ่านหินภูเขาไฟ วิตามิน อาหารเสริม ครีมต่างๆ ขนมญี่ปุ่นหลากหลายชนิด รวมไปถึงชาเขียว ผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของญี่ปุ่น เป็นต้น ให้ทุกท่านสามารถเลือกซื้อเป็นของฝาก

เพลิดเพลินเดินเล่นแหล่งกินดื่มหรืออิสระช้อปปิ้งได้ที่ ย่านทานุกิโคจิ ย่านช้อปปิ้งในร่มยาวประมาณ 1 กิโลเมตรถูกแบ่งเป็น 7 ส่วนหรือ 7 บล็อค สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านขายสินค้ามากมายกว่า 100 ร้าน ที่มีอายุมากกว่า 100 ปี และ ย่านซูซูกิโนะ ย่านแหล่งบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือของญี่ปุ่น บาร์ ไนต์คลับ หรือร้านคาราโอเกะ

วันที่ห้า :: อิสระช้อปปิ้งและท่องเที่ยวในเมืองซัปโปโร

วันที่หก :: ผ่านชมหอนาฬิกาซัปโปโร - เมืองโอตารุ - คลองโอตารุ - พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี - ศาลเจ้าฮอกไกโด - MUTSUI OUTLET PARK SAPPORO

ผ่านชม หอนาฬิกาซัปโปโร เป็นหอนาฬิกาที่เก่าแก่ร้อยกว่าปี ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางกลุ่มตึกสูงสมัยใหม่ และเป็นอีกสัญลักษณ์อยู่คู่เมืองซัปโปโร เดิมทีเป็นโรงฝึกงานของมหาวิทยาลัยฮอกไกโด และได้ปรับเปลี่ยนสร้างเป็นหอนาฬิกาและมีระฆังตีบอกเวลา จนถึงปัจจุบันก็ยังสามารถบอกเวลาได้อยู่ และด้วยความเก่าแก่ที่อยู่คู่กับเมืองซัปโปโรมานานจึงได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมืองซัปโปโร

คลองโอตารุ เป็นคลองสายวัฒนธรรมอันมีเสน่ห์ชวนให้ค้นหา ด้วยความเป็นเอกลักษณ์แห่งวีถีชีวิต 2 ฝั่งคลองที่ยังคงความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม คลองโอตารุสร้างเพื่อให้เรือเล็กลำเลียงสินค้าจากท่าเรือเอามาเก็บไว้ในโกดังที่อยู่ตามริมคลอง เมื่อวิทยาการเจริญก้าวหน้าเรือใหญ่จึงเปลี่ยนไปเข้าท่าที่ใหญ่และขนส่งเข้าโกดังได้ง่ายขึ้น ตึกเก่าเก็บสินค้าริมคลองเหล่านี้ จึงถูกดัดแปลงเป็นร้านอาหารสไตล์ต่างๆ และพิพิธภัณฑ์

สัมผัสความโรแมนติกใน พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี ให้ท่านได้ท่องไปในดินแดนแห่งเสียงดนตรีและบทกวีที่แสนอ่อนหวานชวนให้น่าหลงใหล ด้วยกล่องดนตรี (MUSIC BOX) อันมากมายหลากหลายและงดงามที่จะทำให้ท่านผ่อนคลายมากกว่า 3,000 แบบ รวมถึงยังสามารถเลือกทำกล่องดนตรีแบบที่ต้องการได้

ศาลเจ้าฮอกไกโด เป็นศาลเจ้าของศาสนาพุทธนิกายชินโตที่มีความเก่าแก่ของเกาะฮอกไกโด โดยถูกสร้างในช่วงยุคเริ่มพัฒนาเกาะ เข้าไปสักการะขอพรกับเทพเจ้าที่ประทับภายในศาลเจ้ามากถึง 4 องค์ และยังมีพื้นที่เชื่อมต่อกับสวนมารุยามะ ถือได้ว่าเป็นจุดชมวิวเด็ดๆ อีกแห่งหนึ่งของเมืองเลยทีเดียว 

	มิตซุยเอาท์เล็ท ปาร์ค ซัปโปโร (Mitsui Outlet Park Sapporo)

มิตซุยเอาท์เล็ท ปาร์ค ซัปโปโร เป็นห้างสรรพสินค้ารูปแบบ Outlet mall ขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด ตั้งอยู่ที่เมือง Kita-Hiroshima ชานเมืองทิศตะวันออกซัปโปโร ใกล้เส้นทางที่ไปยัง สนามบินชิโตเซะ เปิดให้บริการเมื่อเดือนเมษายน ปี 2012 ภายในห้างมีร้านค้าแบรนด์ต่างๆกว่า 128 ร้าน รวมถึงร้านค้าปลอดภาษี ศูนย์อาหารขนาดใหญ่จุ 650 ที่นั่ง และร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและสินค้าจากฟาร์มท้องถิ่นประจำจังหวัดฮอกไกโด

วันที่เจ็ด :: ซัปโปโร (สนามบินชิโตเสะ) - กรุงเทพฯ (สนามบินดอนเมือง) (XJ621 : 12.20-18.15) (อาหารร้อนบนเครื่อง)

• เช็คเอาท์และตรวจสอบสัมภาระก่อนเดินทางไปยัง สนามบินชิโตเสะ
• ถึง สนามบินชิโตเสะ ทำการเช็คอินและโหลดกระเป๋าสัมภาระ
• 12.20 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เที่ยวบินที่ XJ621 (รวมอาหารและน้ำดื่มบนเครื่อง) 
• 18.15 น. เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ