สรุปการเดินทาง

อัตราค่าบริการ

หมายเหตุ : 

• *** โปรแกรมอาจจะมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมของสภาพอากาศ และฤดูกาล *** 
• ราคาทัวร์ข้างต้นยังไม่รวมค่าทิปมัคคุเทศก์ท้องถิ่น และคนขับรถ ท่านละ 2,000 บาท (ยกเว้นเด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ) 
• สำหรับทิปหัวหน้าทัวร์ที่ดูแลคณะจากเมืองไทย แล้วแต่ความพึงพอใจในการบริการ 
• กรณีที่ท่านต้องการให้ทางบริษัทฯ ลงทะเบียน K-ETA ให้ มีค่าบริการในการลงทะเบียนครั้งละ 500 บาท

แพลนการเดินทาง

วันแรก :: กรุงเทพฯ (ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ)

• 23.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ โดยมีเจ้าหน้าที่ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก

วันที่สอง :: สนามบินอินชอน - ซองโด เซนทรัล พาร์ค - วัดฮึงยุนซา - ย่านอินชอนไชน่าทาวน์ - พิพิธภัณฑ์จางจังมยอน - ถนนวอลมิโด

• 02.35 น. ออกเดินทางสู่ ประเทศเกาหลีใต้ โดยสายการบิน Asiana Airlines เที่ยวบิน OZ744
• 09.55 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้  (เวลาในประเทศเกาหลีเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง) 

ซองโด เซ็นทรัล พาร์ค (Songdo Central Park) สวนสาธารณะที่ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างจาก เซ็นทรัลพาร์ค ในมหานครนิวยอร์ก ของประเทศสหรัฐอเมริกา สร้างขึ้นบนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ภายในสวนเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมถึงยังมีกิจกรรมมากมายให้เลือกทำ เช่น กิจกรรมทางน้ำ พายเรือแคนู พายเรือคายัค หรือเดินเล่น ให้อาหารกระต่าย ให้อาหารกวาง ปั่นจักรยาน

วัดฮึงยุนซา (Heungryunsa Temple) วัดเก่าแก่กว่า 600 ปี ก่อนหน้านี้ใช้ชื่อว่า “วัดชองยังซา Cheongnyangsa” เพราะอยู่ใกล้ภูเขาชองยังซัน (Cheongnyangsan) ตัววัดตั้งอยู่บนเขาทำให้สามารถเห็นทิวทัศน์ในเมืองจากมุมสูงสวยงามมาก

ลิ้มรสอาหารเกาหลีโบราณ ใช้วัตถุดิบหลักเป็นเนื้อหมูสไลด์หมักซอส เพื่อเพิ่มความนุ่มละมุนลิ้น เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ และเครื่องเคียงต่างๆ

ย่านอินชอนไชน่าทาวน์ (Incheon Chinatown) ย่านชุมชนชาวจีนของเมืองอินชอน ซึ่งเป็นไชน่าทาวน์หนึ่งเดียวในประเทศเกาหลี เต็มไปด้วยร้านค้ารวมถึงศิลปะต่างๆ ในแบบของจีน ในอดีตเคยเป็นร้านขายของต่างๆ ของชาวจีน ปัจจุบันเป็นที่ตั้งร้านอาหารต่างๆ โดยสถานที่แห่งนี้เป็นต้นกำเนิด และศูนย์รวมร้านขาย "จาจังมยอน" บะหมี่ซอสดำชื่อดังของเกาหลี ซึ่งถ้าท่านต้องการกินจาจังมยอนแบบดั้งเดิมจะหากินได้แต่ที่นี่เท่านั้น

พิพิธภัณฑ์จางจังมยอน (Jajangmyeon Museum) พิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าความเป็นมาของเมนูอาหารจาจังมยอน และอิทธิพลของเมนูยอดฮิตนี้ที่มีต่อคนเกาหลีทุกเพศทุกวัย “จาจังมยอน” หรือบะหมี่หน้าดำ เป็นบะหมี่แห้งทำจากเส้นโซเมียน หรือโซเมนที่ทำจากแป้งสาลี และไข่มาลวกให้ร้อนแล้วคลุกกับซอสชุนเจียง ซอสที่ทำจากถั่วดำหมักมีลักษณะข้นได้รับความนิยมในเกาหลีเป็นอย่างมาก หากใครที่เป็นคอละครซี่รี่ส์เกาหลีจะเห็นเมนูนี้บ่อยมาก เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเมนูประจำตัวของเหล่าพระเอกนางเอกเกาหลีเลยทีเดียว

เป็นถนนสายวัฒนธรรมที่ตั้งอยู่บนเกาะวอลมิโด ที่เหมาะสำหรับเดินท่องเที่ยวริมทะเล ประกอบไปด้วยโซนต่างๆ โดยมี จุดเริ่มต้นต้ังแต่ Doodle Pillar, Meeting Square, Arts Square, Performance Square และ Good Harvest Square เต็มไปด้วยร้านอาหาร, คาเฟ่ และร้านอาหารทะเลมากมายเรียงรายไปตามชายฝั่ง นอกจากนี้ยังมี หอสังเกตการณ์โวลมี (Wolmi Observatory) สถานที่ที่เหมาะสำหรับชมทิวทัศน์ของท่าเรือและตัวเมืองโดยรอบ

ชาบูหม้อไฟสไตล์เกาหลีที่ประกอบไปด้วย แฮม ไส้กรอก เต้าหู้ขาวแบบแข็ง หมูบด เนื้อบด หรือไก่บด ต้นหอมญี่ปุ่น เห็ดเข็มทอง ต้มในน้ำซุปร้อนๆ ที่ปรุงรสกลมกล่อมตามสูตรของทางร้าน จากนั้นใส่บะหมี่เกาหลีลงไป ต้มจนเดือดพร้อมรับประทาน

วันที่สาม :: อินชอน - พาจู - วัดโบวังซา - DMZ ชมเกาหลีเหนือ - ศูนย์เครื่องสำอางแบรนด์ดังเกาหลี - ถนนฮงแด

วัดโบวังซา (Bogwangsa Temple) วัดโบราณในศาสนาพุทธ ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาที่รายล้อมไปด้วยเทือกเขาและน้ำตกที่มีความสวยงาม บริเวณรอบวัดมีความสงบและร่มรื่นไปด้วยพรรณไม้สนคละเคล้าไปกับเสียงน้ำตกเป็นที่น่ารื่นรมย์ 

ทะเลสาบมาจัง เป็นทะเลสาบที่ไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ โดยสร้างเมื่อปี 2000 เพื่อใช้เป็นสวนสาธารณะและศูนย์กลางธรรมชาติให้กับเมืองพาจู จุดไฮไลท์คือ สะพานแขวนมาจัง (Majang lake suspension bridge) ถือเป็นสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในเกาหลี ตรงกลางสะพานมีพื้นกระจก ทำให้สามารถมองเห็นความสูงจากพื้นน้ำ และมองเห็นทิวทัศน์ของภูเขาที่สูงตระหง่าน

เราอยู่ที่เมืองพาจู จุดเหนือสุดของเกาหลีใต้ และที่จุดนี้ DMZ (Demilitarized Zone) (เขตปลอดทหาร)  โดยที่ อิมจินกัก & สวนสาธารณะ พยองฮวา นูริ (Imjingak & Pyeonghwa-Nuri Park) เป็นหนึ่งในสถานที่ไม่กี่แห่งของแหล่งท่องเที่ยวในเขตปลอตทหาร DMZ เป็นจุดที่สามารถส่องดูเกาหลีเหนือได้แบบใกล้ที่สุดจากเขตเกาหลีใต้ 

เยี่ยมชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์ อุโมงค์หมายเลข 3 (Third Tunnel) ซึ่งถูกขุดโดยกองทัพเกาหลีเหนือ มีความยาวถึง 1.635 กิโลเมตร ย้อนรอยประวัติศาสตร์เส้นทางอพยพที่อยู่ใต้ดินของเขตแดนระหว่างเกาหลีเหนือและใต้ สัมผัสวิวแบบรอบทิศทางของเกาหลีเหนือจาก หอสังเกตการณ์โดราชาน มีกล้องส่องทางไกลกำลังขยายสูงที่สามารถมองเห็นเกาหลีเหนือได้ , ชมสะพานประวัติศาสตร์สะพานเสรีภาพ (Freedom Bridge) ซึ่งเป็นสะพานที่เชลยสงครามกว่า 13,000 ชีวิต เคยข้ามมาเพื่อรับอิสรภาพ

บิบิมบับ คือ ข้าวที่โปะ topping ด้วยเครื่องมากมายเช่น ถั่วงอกผัด ผักโขมน้ำมันงา เห็ดหอมผัด แตงกวา หรือเนื้อหมู เนื้อวัวผัด ส่วนประกอบคล้าย banchan (เครื่องเคียงเกาหลี) หรือไส้ที่ห่อนำไปทำ คิมบับ(Kimbap) ซึ่งไส้ส่วนใหญ่ปรุงจนสุกแล้ว จากนั้นราดด้วยซอสโคชูจัง คลุกกับข้าวร้อนๆ เป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารเกาหลีที่อร่อยและขึ้นชื่อมาก

แหล่งช้อปปิ้งที่จำหน่ายเครื่องสำอางชั้นนำของเกาหลีมากมาย อาทิ เช่น LANEIGN, SULWASOO, ROJUKISS เป็นต้น มีเวลาให้ท่านได้เลือกซื้อเครื่องสำอางชั้นนำในราคาพิเศษ

ย่านฮงแด (Hongdae Street) แหล่งช้อปปิ้งชั้นนำของกรุงโซล ตั้งอยู่หน้ามหาลัยฮงอิก (Hongik University) ที่นี่เป็นแหล่งรวมสินค้าแฟชั่นมากมายของเกาหลี มีร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ ตั้งอยู่เรียงรายเต็มไปหมด นอกจากนี้ย่านฮงแดยังมักเป็นที่จัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมทางศิลปะ การแสดง และงานเทศกาลที่น่าสนใจต่างๆ รวมถึงสตรีทอาร์ท พิเศษ โดนใจสาวก POP MART ท่านสามารถเลือกชมสินค้า POP MART ได้ ณ POPMART(สาขาฮงแด) หลากหลายคอลเลคชั่นให้ท่านได้ช้อปปิ้งอย่างจุใจ

วันที่สี่ ::ศูนย์โสมรัฐบาลเกาหลี - ศูนย์สมุนไพรน้ำมันสนแดง - พระราชวังชางด๊อกกุง - พิพิธภัณฑ์สาหร่าย - ห้างสินค้าปลอดภาษี - เมียงดง

• ศูนย์โสมรัฐบาลเกาหลี (Ginseng Center) ศูนย์โสมที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลเกาหลี โดยในบรรดาสมุนไพรทั้งหมดของเกาหลี "โสม" เป็นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยคนเกาหลีเชื่อว่าโสมสามารถรักษาได้หลายอย่าง และช่วยปรับสมดุลในร่างกาย 
• ศูนย์สมุนไพรน้ำมันสนเข็มแดง (Red Pine) คนเกาหลีเชื่อว่าน้ำมันสนเข็มแดงนั้นช่วยในการลดไขมันและน้ำตาลในเส้นเลือด เหมาะสำรับผู้ป่วยเบาหวาน หรือผู้ป่วยคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด 

พระราชวังชางด๊อกกุง (Changdeokgung Palace) พระราชวังที่ได้ขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของเกาหลี เป็นพระราชวังอันดับสองที่สร้างขึ้นต่อพระราชวังเคียงบก (Gyeongbukgung Palace) ในอดีตเคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์หลายพระองค์ในราชวงศ์โชซอน โดยภายในวังจะแบ่งเป็นเขตพระราชฐานชั้นใน และเขตพระราชฐานชั้นนอก พระราชวังแห่งนี้ได้รับสมญานามว่า “พระราชวังตะวันออก หรือ ทงวอล” โดยมีส่วนที่เรียกสวนลับ หรือสวนต้องห้าม ซึ่งสวนแห่งนี้เป็นสวนที่ใช้เฉพาะกษัตริย์เท่านั้น แม้แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาได้ ทำให้สวนแห่งนี้ถูกขนานนามว่าสวนต้องห้าม ในปัจจุบันพระราชวังชางด๊อกกุงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเกาหลี และเป็นสถานที่ที่คนนิยมมาชมใบไม้เปลี่ยนสีกันในฤดูใบไม้ร่วง

• พิพิธภัณฑ์สาหร่าย (Seaweed Museum) เรียนรู้ต้นกำเนิดของสาหร่ายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นที่ผลิต และแสดงการเลี้ยงสาหร่ายแบบครบวงจร ให้ท่านได้เลือกซื้อสาหร่ายรสชาติต่างๆ ตามอัธยาศัย 
• *** พิเศษให้ท่านได้ลองใส่ “ชุดฮันบก” ชุดประจำชาติเกาหลี และสนุกสนานไปกับกิจกรรม “ทำคิมบับ” อาหารพื้นเมืองของเกาหลี ***

เมนูปิ้งย่างสไตล์เกาหลี ที่มีเมนูให้เลือกหลากหลาย ทั้งเนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ หรืออาหารทะเล พร้อมเครื่องเคียงต่างๆ เช่น ผักกาดหอม หัวไช้เท้าดอง ถั่วงอกผัด และกระเทียม กินคู่กับน้ำจิ้มสูตรพิเศษของทางเกาหลี พร้อมเสิร์ฟแบบไม่อั้น

ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม อาทิ นาฬิกา, แว่นตา, กระเป๋า, น้ำหอม เครื่องสำอางแบรนด์ชั้นดัง อาทิ SULWHASOO, LANEIGE, SHISEIDO, SKII และกระเป๋าแบรนด์ดัง อาทิ MCM, LOUIS VUITTON, CHANEL เป็นต้น

ตลาดเมียงดง หรือ สยามสแควร์เกาหลี แหล่งรวมวัยรุ่นและเป็นจุดนัดพบที่สำคัญของหนุ่มสาวชาวเกาหลี พบกับสินค้าวัยรุ่น อาทิ กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้าแฟชั่นแบบอินเทรนด์ รวมทั้งเครื่องสำอางยี่ห้อดังของเกาหลี เป็นต้น พิเศษ โดนใจสาวก POP MART ท่านสามารถเลือกชมสินค้า POP MART ได้ ณ POPMART(สาขาเมียงดง) หลากหลายคอลเลคชั่นให้ท่านได้ช้อปปิ้งอย่างจุใจ

วันที่ห้า :: ศูนย์สมุนไพรฮอกเกตนามู - หมู่บ้านบุคชอนฮันอก - ตลาดกวางจัง - ร้านค้าละลายเงินวอน - สนามบิน

• ศูนย์สมุนไพรฮอกเกตนามู (Hogae Namu Herb) เป็นสมุนไพรที่ขึ้นเฉพาะประเทศเกาหลี 10 ปี จะออกดอกหนึ่งครั้ง ต้องปลูกในที่อากาศหนาวเย็น บริสุทธิ์ ที่ความสูง 800 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล โดยทุกส่วน ไม่ว่ากิ่ง ก้าน ใบ ล้วนเป็นสมุนไพรได้หมด ฮอกเกตนามูนั้นมีสรรพคุณช่วยขับสารพิษตกค้างต่างๆ ออกจากตับอย่างปลอดภัย

เพลิดเพลินกับการเก็บภาพบรรยากาศย้อนยุคของ หมู่บ้านบุคชอนฮันอก (Bukchon Hanok Village) หมู่บ้านโบราณเก่าแก่กว่า 600 ปี ที่มีมาตั้งแต่สมัยโชซอน และยังคงรักษาบ้านเรือนแบบสมัยโบราณเอาไว้เป็นอย่างดี มรดกทางวัฒนธรรมของเกาหลีที่ควรต้องไป

ชาบูสไตล์เกาหลี เสิร์ฟพร้อมหมูสไลด์แล่มาพอดีคำ พร้อมเห็ด และผักหลากหลายชนิดนำมารวมกันไว้ในหม้อแล้วเติมด้วยน้ำซุปร้อนๆ ตามสูตรของทางร้าน จนเดือดก่อนเติมวุ้นเส้นลงไปพร้อมรับประทาน ทานคู่กับน้ำจิ้มสุกี้จะรสชาติเข้ากันอย่างมาก

ตลาดกวางจัง (Gwangjang Market) เป็นหนึ่งในตลาดที่เก่าแก่ของชาวเกาหลีที่มีอายุกว่าร้อยปี เป็นตลาดที่มีความคึกคักมากจนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน มี Street Food ที่เป็นอาหารพื้นเมืองต้นตำรับของชาวเกาหลี ราคาไม่แพง ไม่ว่าจะเป็น ไส้กรอก คิมบับ ต๊อกบกกี ออมุก บินแดต๊อกและอาหารอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งยังมีสินค้าพื้นเมืองของชาวเกาหลี 

ซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือ ฉายา "ร้านค้าละลายเงินวอน" ให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองของเกาหลีก่อนกลับประเทศไทย เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเกาหลี , นมกล้วย , เยลลี่ยาคูลท์ และสินค้าแบรนด์พื้นเมืองต่างๆ มากมาย

• ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน เพื่อทำคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี (Duty Free) ภายในสนามบิน
• 20.50 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน Asiana Airlines เที่ยวบิน OZ743

วันที่หก :: กรุงเทพฯ

• 00.50 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ