สรุปการเดินทาง

อัตราค่าบริการ สำหรับเดินทาง 4 ท่านขึ้นไป
(รวมตั๋วเครื่องบินไป-กลับ และ บินภายในประเทศ 2 เที่ยว)

กำหนดการเดินทาง
วันนี้ - 30 เมษายน 2568

หมายเหตุ :

• ราคานี้ใช้ไม่ได้กับช่วงเทศกาลปีใหม่ 28 ธันวาคม 2567 - 10 มกราคม 2568 , เทศกาลตรุษจีน วันที่ 28 มกราคม - 4 กุมภาพันธ์, สงกรานต์ วันที่ 10-20 เมษายน 2568 กรุณาติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
• ** ราคานี้สำหรับลูกค้าที่ถือพาสปอร์ตไทยเท่านั้น และไม่มีราคาเด็ก **
• ราคาทัวร์ข้างต้นยังไม่รวมค่าทิปไกด์พม่า(นำเที่ยว) และพนักงานขับรถ จ่าย 1,000 บาท/ท่าน ตลอดการเดินทาง

แพลนการเดินทาง 

วันแรก :: สนามบินสุวรรณภูมิ(กรุงเทพฯ) - ย่างกุ้ง 8M336 1015-1105 - เจดีย์โปตาทาวน์ เทพกระซิบ เทพทันใจ - กราบสักการะพระมหาเจดีย์ชเวดากอง - แม่ยักษ์

• 08.00 น. คณะพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศชั้น 4 เคาน์เตอร์ สายการบิน MYANMAR AIRWAYS (8M) โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน 
• 10.15 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินมิงกาลาดง เมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์ โดยเที่ยวบินที่ 8M338 
• 11.05 น. เดินทางถึง สนามบินนานาชาติมิงกาลาดง เมืองย่างกุ้ง (ประเทศเมียนมาร์ เวลาช้ากว่าประเทศไทย 30 นาที) 
• นำท่านเข้าสู่ตัวเมืองย่างกุ้ง

เจดีย์โบตาทาวน์ มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงระฆังที่มีความสวยงามและสง่างาม โดยมีลวดลายการตกแต่งที่ละเอียดและมีลักษณะเฉพาะตัว ภายในมีพระเกศธาตุที่บรรจุในมณฑปครอบแก้วใส ประดิษฐานอยู่ใจกลางเจดีย์ และทำช่องทางให้พุทธศาสนิกชนเดินเข้าไปดูและสักการบูชาได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ภายในอาณาบริเวณเจดีย์โปตาทาวน์ยังมี พระพุทธรูปทองคำ ประดิษฐานในวิหารด้านขวา ซึ่งเป็นพุทธรูปปางมารวิชัยที่มีพุทธลักษณะงดงามยิ่งนัก

สักการะขอพร พระเทพทันใจ เทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ของชาวพม่าและชาวไทย ที่นิยมมากราบไหว้ขอพรและเพื่อความเป็นสิริมงคล ทั้งเรื่องความสำเร็จและโชคลาภต่างๆ

ข้ามฝั่งไปอีกฝากหนึ่งของถนนเพื่อสักการะ เทพกระซิบ ชาวเมียนมาร์เชื่อว่าเป็นธิดาของพญานาค และมีความนับถือเป็นอย่างมากกรองจากเทพทันใจ จะเห็นได้จากของไหว้ที่คนพม่านำมาไหว้เมื่อประสบความสำเร็จตามพรที่ขอ โดยการขอพรเทพกระซิบนี้ ต้องไปขอเบาๆ ข้างๆ หู ซึ่งเป็นที่มาของเทพกระซิบ

นมัสการ พระมหาเจดีย์ชเวดากอง เจดีย์ทองคำคู่บ้านคู่เมืองของเมียนมาร์อายุสองพันห้าร้อยกว่าปี เป็นองค์มหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเมียนมาร์ มีทองคำโอบหุ้มอยู่มากถึง 8,688 แผ่น เป็นน้ำหนักประมาณ 60 ตัน ยอดฉัตรประดับประดาด้วยเพชรพลอยอัญมณีล้ำค่า กว่า 5,448 เม็ด รวมถึงทับทิม ขนาดเท่าไข่ไก่บนยอดองค์พระเจดีย์ เชื่อกันว่าภายในองค์เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ได้แก่ พระเกศาธาตุ 8 เส้น ทำให้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง 

พร้อมนำท่านไปยังจุดอธิษฐาน เพื่อเสริมสิริมงคลและบารมี และถือเป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานของประเทศพม่า สถานที่แห่งนี้เปรียบเสมือนจิตวิญญาณของชาวพม่า ณ ลานอธิฐาน 

คำไหว้พระมหาเจดีย์เวดากอง

วันทามิ อุตตมะ ชมพู วระฐาเน สิงกุตตะเร           มะโนลัมเม สัตตัง สะรัตนะ
ปฐมัง กกุสันธัง สุวรรณะ ตันตัง ธาตุโย ธัสสะติ     ทุติยัง โกนาคะมะนัง ธัมมะ การะนัง ธาตุโย
ธัสสะติ ตติยัง กัสสปัง พุทธจีวะรัง ธาตุโย ธัสสะติ  จตุกัง โคตะมัง อัตถะเกศา ธาตุโย ธัสสะติ
อหัง วันทามิ ตุระโต อหัง วันทามิ ธาตุโย            อหัง วันทามิ สัพพะทา อหัง วันทามิ สิระสา
***อธิษฐานพร้อมด้วยใบไม้ที่แปลว่าชัยชนะและความสำเร็จ***

จากนั้น ชมแสงของอัญมณีที่ประดับบนยอดฉัตร โดยจุดชมแต่ละจุดท่านจะได้เห็นแสงสีต่างกันออกไป เช่น สีเหลือง, สีน้ำเงิน, สีส้ม, สีแดง เป็นต้น (สถานที่สำคัญของพระมหาเจดีย์ชเวดากอง คือ ลานอธิฐาน จุดที่บุเรงนอง มาขอพรก่อนออกรบ ท่านสามารถนำดอกไม้ธูปเทียน ไปไหว้ เพื่อขอพรจากองค์เจดีย์ชเวดากอง ณ ลานอธิษฐานเพื่อเสริมสร้างบารมีและสิริมงคล นอกจากนี้ รอบองค์เจดีย์ยังมีพระประจำ วันเกิดประดิษฐานทั้ง แปดทิศรวม 8 องค์ หากใครเกิดวันไหนก็ให้ไปสรงน้ำพระประจำวันเกิดตน จะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต)

ขอพร แม่ยักษ์ อีกนึงจุดที่สำคัญของเจดีย์ชเวดากอง คนท้องถิ่นมีความเชื่อว่าการกราบไหว้บูชาแม่ยักษ์ จะช่วยตัดกรรมจากเจ้ากรรมนายเวร ขจัดอุปสรรค ปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน การเรียน โชคลาภ เงินทอง นอกจากนี้ยังเชื่อกันอีกว่า แม่ยักษ์ ยังช่วยในเรื่องความมีชื่อเสียง ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน 

การขอพรแม่ยักษ์ จะนิยมถวาย บุหรี่ ยาเส้น และผ้าสีเขียว 

วันที่สอง :: สนามบินย่างกุ้ง - สนามบินอินเล K7-846 1020-1135 - วัดดองพองอู(กราบสักการะพระบัวเข็ม) - หมู่บ้านอินปอขอม - วัดแมวกระโดด(ชมงานศิลปะล้ำค่า)

• 10.20 น. นำท่านออกเดินทางสู่ อินเล โดยเที่ยวบินภายใน AIR KBZ เที่ยวบินที่ 214 
• 11.35 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติ อินเล เมืองอินเล 
• ท่านและคณะนำท่านรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว รถส่วนนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที)

ชม ทะสาบอินเล ที่มีความสวยงามตามธรรมชาติ ด้วยผืนน้ำอันกว้างใหญ่และวิวทิวเขาอันสวยงาม รวมทั้งวิถีชีวิตของชาวอินตาที่เรียบง่าย ทะเลสาบอินเลเป็นที่ตั้งของชุมชนทางน้ำขนาดใหญ่ ชาวบ้านมีอาชีพเกษตรกรรมทั้งเพาะปลูก ประมง และมีสินค้าหัตถกรรมขนาดเล็ก เช่น การทอผ้า ตีเหล็ก เป็นต้น

วัดพองดออู กราบนมัสการพระบัวเข็ม ซึ่งเป็นพระพุทธรูป 5 องค์ เดิมมีขนาด 5 เซ็นติเมตร และด้วยพลังศรัทธาที่ชาวบ้านเอาทองมาปิดพระจวบจนถึงปัจจุบัน พระพุทธรูปมีขนาดสูงกว่าเดิมถึง 6 เท่า ถือเป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์คู่ทะเลสาบอินเล 

มีตำนานเล่ากันว่า แต่เดิมนั้น ชาวบ้านได้อันเชิญพระพุทธรูปออกมาแห่ทั้ง 5 องค์ แต่ในปี 1965 เกิดพายุใหญ่ ทำให้เรือพลิกคว่ำจนจมลงก้นทะเลสาบไป ชาวบ้านช่วยกันงมหาพระพุทธรูปขึ้นมาพบเพียง 4 องค์เท่านั้น แต่เมื่อนำพระพุทธรูปกลับมายังวัด กลับพบว่าพระพุทธรูปองค์ที่ 5 ตั้งรออยู่แล้ว เป็นที่น่าอัศจรรย์ นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาจึงไม่มีการอัญเชิญพระพุทธรูปองค์นี้ออกไปแห่ที่ไหนอีกเลย ส่วนตำแหน่งที่เรือพลิกคว่ำ ปัจจุบันได้สร้างเสาเป็นรูปหงษ์ปักเอาไว้เป็นเครื่องหมาย 

หมู่บ้านทอผ้าอินปอขอม เป็นหมู่บ้านที่นำเส้นใยบัวมาทอเป็นเสื้อผ้า ผ้าพันคอ ฯลฯ ท่านจะได้เห็นถึงขั้นตอนที่สำคัญๆ ที่หาชมได้ยาก ตั้งแต่การเก็บใยบัว วิธีการทอผ้า จนถึงวิธีการเก็บใยบัว

วัดง๊ะเพจอง หรือ วัดแมวกระโดด วัดเก่าแก่กลางทะเลสาบอินเล มีอายุ 200 กว่าปี โดดเด่นด้วยพระพุทธรูปที่มีลักษณะงดงาม ทำมาจากเครื่องเขินด้วยไม้ ที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวฉาน และบุษบกที่แกะสลักงดงามวิจิตรบรรจงฝีมือหาใครเทียบ ถือเป็นโบราณสถานที่สำคัญของพม่า

วันที่สาม :: สนามบินอินเล - สนามบินพุกาม K7-214 1000-1045 - กราบสักการะพระมหาเจดีย์ชเวสิกอง - วัดอนันดา - วิหารธรรมยันจี - พระอาทิตย์ตกดิน ณ เจดีย์ ชเวสันดอว์ ชมทะเลเจดีย์

• 11.05 น. นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองบากัน(พุกาม) โดยเที่ยวบินภายใน เที่ยวบินที่ 8M4214 
• 11.45 น. เดินทางถึง สนามบินนานาชาติบากัน
• นำท่านสู่เมืองพุกาม(บากัน) ดินแดนแห่งเจดีย์ 10,000 องค์ ที่มีอายุกว่า 2,000 ปี ของกษัตริย์อนุรุทมหาราชแห่งอาณาจักรพุกาม

วัดอนันดา (Ananda Temple) เป็นมหาวิหารขนาดใหญ่ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “เพชรน้ำเอกของพุทธศิลป์สกุลช่างพุกาม” เป็นที่รู้จักเหนือวิหารทั้งหลาย สร้างโดยพระเจ้าจานสิตา เมื่อก่อนยอดพระเจดีย์ยังเป็นสีขาวเหมือนกับพระเจดีย์องค์อื่นๆ ของพุกาม แต่รัฐบาลพม่าได้มาทาสีทองทับเมื่อปี พ.ศ. 2533 เพื่อสมโภชการสร้างอานันวิหารครบรอบ 900 ปี

วิหารธรรมยันจี (Dhammayangyi Temple) วิหารที่วัดนี้ได้ชื่อว่าใช้ความละเอียดพิถีพิถันในการสร้างมากที่สุดในพม่าก็ว่าได้ ถือว่าเป็นเจดีย์ที่ยิ่งใหญ่และแข็งแรงที่สุด เพราะว่าสร้างด้วยอิฐแดง และมีลักษณะของเจดีย์แบบสี่เหลี่ยมคล้ายกับวัดอนันดา

ตลาดยองอู (Yong U Market) เป็นตลาดใหญ่ของเมืองพุกาม ที่นี่มีของขายสินค้าทุกชนิด ทั้งดอกไม้นานาพันธ์ เครื่องอุปโภคบริโภค อาหาร เสื้อผ้า ของที่ระลึกพื้นเมือง เหมาะสำหรับเดินชมเลือกซื้อของฝาก โดยเฉพาะเครื่องเขินของเมืองพุกามถือว่าเป็นหนึ่งเพราะฝีมือที่ประณีตและการออกแบบที่สวยงาม

พระมหาเจดีย์ชเวสิกอง 1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของพม่า องค์เจดีย์สร้างเป็นทรงสถูปแบบดั้งเดิมของพม่าโดยแท้ มีลักษณะเป็นสีทองขนาดใหญ่ บรรจุพระบรมสารีริกาตุจากพระสรีระหลายส่วน ทั้งที่เป็นธาตุจากไหปลาร้า พระนลาฎ ตลอดจนพระเขี้ยวแก้วของพระเจ้าอโนรธา ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอาณาจักรพุกาม การอธิษฐานกับเจดีย์ชเวสิกองนั้น เชื่อว่า เมื่อมาไหว้ที่นี่จะทำอะไรก็สำเร็จ

สักการะ เจดีย์ชเวสันดอร์ เชื่อกันว่าภายในบรรจุพระเกศาของพระพุทธเจ้าและยังมีรูปปั้นเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาฮินดูตั้งอยู่บริเวณลานของวิหาร จึงมีชื่อเรียกแบบฮินดูว่าเจดีย์กาเนซา จากบริเวณนี้สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกลับขอบฟ้า และเจดีย์น้อยใหญ่ ที่ตั้งอยู่รายรอบจนได้สมญานามว่า “ป่าทะเลเจดีย์” ให้ท่านเก็บภาพประทับใจตามอัธยาศัย

วันที่สี่ :: พุกาม - มัณฑะเลย์(นั่งรถส่วนตัว เดินทาง 4 ชั่วโมง) - วัดชเวนันดอร์ - พระราชวังมัณฑะเลย์ - วัดกุโสดอร์ - ชมวิวยอดเขามัณฑะเลย์

วัดชเวนันดอร์ เป็นอาคารไม้สักทองสลักเสลาด้วยลวดลายที่งามวิจิตร อาคารนี้เคยเป็นพระตำหนักที่ประทับของพระเจ้ามินดง เมื่อสิ้นพระชนม์ลงแล้ว พระเจ้าทีบอ (กษัตริย์องค์สุดท้ายของพม่า) ได้รื้อมาถวายวัด ภายในอาคารยังตกแต่งด้วยไม้แกะสลักเล่าเรื่องมหาชาดก 10 ชาติ ที่ยังคงความสมบูรณ์มากที่สุด

วัดกุโสดอร์ (Kuthodaw Pagoda) มีองค์เจดีย์สีทองที่รูปแบบคล้ายกับเจดีย์ชเวสิกองแห่งเมืองพุกาม เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างโดยพระเจ้ามินดง เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานการสังคายนาพระไตรปิฏก โดยจารึก 84,000 พระธรรมขันธ์ ลงบนหินอ่อนขนาดใหญ่จำนวน 729 แผ่น

พระราชวังมัณฑะเลย์ พระราชวังที่เคยเป็นอาณาจักรที่รุ่งเรืองที่สุด เป็นพระราชวังขนาดใหญ่มีประตูเข้าถึง 12 ประตู ตัวพระราชวังเป็นหมู่อาคารไม้และตึกตกแต่งด้วยปูนปั้นมีระเบียงรอบถึง 5 ชั้น ประกอบด้วยท้องพระโรง พระที่นั่ง และตำหนักต่างๆ ทั้งหมดถูกไฟไหม้เมื่อคราวสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันทางการพม่าได้จำลองขึ้นใหม่อีกครั้งบนฐานเดิม

ภูเขามัณฑะเลย์ (Mandalay Hill) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของพระราชวัง เขาลูกนี้สูง 240 เมตร ซึ่งเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดของเมืองมัณฑะเลย์ สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองมัณฑะเลย์เกือบทั้งเมือง และเป็ตจุดชมพระอาทิตย์ลับฟ้าที่สวยงามที่สุด

วันที่ห้า ::ร่วมพิธีล้างพระพักตร์พระมหามัยมุนี - วัดมหากันดาหยง(มหาวิทยาลัยสงฆ์) - สะพานไม้สักอูเบ็ง - สนามบินมัณฑะเลย์ - สนามบินดอนเมือง(กรุงเทพฯ) 8M362 1525-1745

ร่วมพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ พิธีพระพักตร์พระมหามัยมุนี (1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่า) และร่วมกันถวายผ้าจีวรแด่พระมหามัยมุนี พระพุทธรูปทองคำขนาดใหญ่ทรงเครื่องกษัตริย์ที่ได้รับการขนานนามว่า “พระพุทธรูปทองคำเนื้อนิ่ม” โดยก่อนหน้านั้นได้ประดิษฐานอยู่ในเมืองยะไข่ และหลังจากนั้นพระเจ้าปดุงได้อัญเชิญพระมหามัยมุนีออกจากเมืองยะไข่ล่องไปตามแม่น้ำอิรวดี มาประดิษฐานที่เมืองมัณฑะเลย์ โดยมีความเชื่อว่าเป็น "พระพุทธรูปที่ยังมีลมหายใจ" ดังนั้นมีการประกอบพิธีล้างพระพักตร์พระมหามัยมุนีในทุกๆ เช้า

วัดมหากันดายง(มหาวิทยาลัยสงฆ์) เป็นวิทยาลัยสงฆ์ที่ใหญ่ที่สุดของพม่า ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนพระปริยัติธรรมที่ใหญ่ที่สุดในพม่า มีสามเณรและพระจำพรรษาอยู่มากถึงพันกว่ารูป โดยจะมีพระสงฆ์เดินเรียงแถวกันมารับบิณฑบาตรทุกเช้าให้ท่านได้ร่วมทำบุญตักบาตร

สะพานไม้อูเบ็ง เป็นสะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก ทอดข้ามผ่านทะเลสาบตองตะมาน โดยใช้ไม้สักจำนวน 1,086 ต้น สร้างเป็นสะพานยาว 1,200 เมตร โดยชื่ออูเบ็ง มาจากชื่อ อูเบียน ขุนนางที่ทำหน้าที่เป็นแม่กองในการสร้างสะพาน

• สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ สนามบินมัณฑะเลย์ 
• 15.25 น. ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน MYANMAR AIRWAYS เที่ยวบินที่ 8M362 
• 17.45 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ