สรุปการเดินทาง

อัตราค่าบริการ
ตั้งแต่วันนี้ -31 มีนาคม  2568

Package1: พักโรงแรม 3 ดาว และ 3.5 ดาว

Package2: พักโรงแรม 4 ดาว

*หมายเหตุ: ราคานี้ไม่สามารถใช้เดินทางได้ในพีเรียดวันหยุดนักขัตฤกษ์ กรุณาเช็คกับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง

พาเที่ยวและเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว เฉพาะครอบครัว หรือ แก๊งค์เพื่อน

แพลนการเดินทาง 

วันแรก :: กรุงเทพฯ - สนามบินวัตไต - พระธาตุหลวง - ประตูชัย - วัดสีสะเกด - หอพระแก้ว - วัดศรีเมือง

• 04.00 น. *เตรียมตัวเดินทาง*คณะพร้อมกันท่าอากาศยานดอนเมือง อาคาร 1 ผู้โดยสารขาออก ชั้น 3 ประตู 1 เคาน์เตอร์สายการบินแอร์เอเชีย Thai Air Asia(FD) เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก 
• 06.25 น. *ออกเดินทาง* สู่เวียงจันทน์โดยสายการบิน Thai Air Asia เที่ยวบินที่ FD1042
• 07.35 น. *ถึงปลายทาง* เดินทางถึง สนามบินวัดไต มุ่งสู่ตัวเมืองเวียงจันทน์

เป็นศูนย์รวมใจของประชาชนชาวลาวทั่วประเทศ มีประวัติการก่อสร้างนับพันปีเช่นเดียวกันพระธาตุพนมในประเทศไทย และปรากฏความเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ของดินแดนทางฝั่งขวาแม่น้ำโขงอย่างแยกไม่ออก

ประตูชัย มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เป็นศิลปะแบบล้านช้าง ผสมผสานอิทธิพลที่ได้รับมาจากประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส บริเวณรอบๆ ล้อมรอบด้วยสวนสวย ดอกไม้ และน้ำพุ ในเวลาค่ำจะมีการเปิดไฟสวยงามและโชว์น้ำพุเต้นระบำ

พระราชวังหลวงของกษัตริย์ลาวสมัยก่อน สาเหตุที่ได้ชื่อว่า "วัดสีสะเกด" เพราะอยู่ใกล้กับพระราชวังหลวง พระเจ้าแผ่นดินลาวทุกพระองค์นับแต่พระเจ้าโพธิสารราชผู้สร้างนครหลวงเวียงจันทน์ ทรงบรรทมหันศีรษะมาทางวัดนี้เพื่อแสดงความเคารพต่อพระรัตนตรัยเพราะมีพระพุทธรูปสำคัญของล้านช้างประดิษฐานอยู่หลายองค์

วัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ สร้างในเขตพระราชฐาน เพื่อประดิษฐานพระแก้วมรกตที่สมเด็จพระไชยเชษฐาธิราชอัญเชิญจากนครเชียงใหม่ เมืองหลวงของอาณาจักรล้านนา มายังหลวงพระบาง พระแก้วมรกตประดิษฐานที่วัดนี้เป็นเวลากว่า 200 ปี ก่อนจะถูกอัญเชิญมาประดิษฐานที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

เป็นพระอารามหลวง ในสมัยโบราณ เกี่ยวข้องกับการทำพิธีสำคัญของกษัตริย์โบราณ ภายในวัดเป็นที่ตั้งของเสาหลักเมืองประจำนครเวียงจันทน์ และมีพระพุทธรูปประดิษฐานมากมาย มีพระพุทธรูปองค์หนึ่งที่ชำรุดไปแล้วบาง เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ใครมาขอพรก็จะสมดังใจ

วันที่สอง :: เวียงจันทน์ - วังเวียง - ถ้ำปูคำ - บูลากูน - ถ้ำนางฟ้า - สะพานสีน้ำเงิน - ล่องเรือแม่น้ำซอง - ตลาดกลางคืน

เดินทางสู่ เมืองวังเวียง ซึ่งมีอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี จนได้รับสมญานามว่า "กุ้ยหลินเมืองลาว"

ถ้ำปูคำ ("คำ" ที่แปลว่า "ทอง") ภายในถ้ำกว้างใหญ่ มีหินงอกหินย้อยรูปทรงแปลกตา ประกอบกับมีแสงจากภายนอกลอดผ่าน ทำให้มีความสวยงามยิ่งขึ้น เข้าไปกราบไหว้สักการะพระพุทธรูปปางไสยาสน์เพื่อความเป็นสิริมงคล

สระน้ำสีฟ้าใสที่เกิดขึ้นจากภูเขาหินปูน เพลิดเพลินพักผ่อนลงเล่นน้ำใสๆ ของบลูลากูน และกิจกรรมสนุกๆ มากมาย

ข้ามสะพานแขวนสีฟ้า ที่ทอดข้ามแม่น้ำซอง แล้วไปพบกับความงดงามของ ถ้ำนางฟ้า ถ้ำหินปูนที่มีความงามของหินงอกหินย้อยรูปทรงแปลกตา ให้ท่านได้เติมเต็มจินตนาการของความงามในถ้ำแห่งนี้ทั่วถึงทั้งถ้ำ

นั่งเรือหางยาว (เรือ 1 ลำ นั่งได้ 2 ท่าน) ชมธรรมชาติเก็บภาพบรรยากาศตลอดสองฝั่งแม่น้ำซอง มองเห็นภูเขาหินปูนสูงชันตั้งตระหง่าน แมกไม้นานาพันธุ์ แม่น้ำซองใสสะอาด ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงได้ฉายาว่า กุ้ยหลินเมืองลาว

เดินเล่นถนนคนเดิน เลือกซื้อของที่ระลึก และสินค้ามากมาย เช่น เสื้อผ้าแฟชั่น ข้าวของเครื่องใช้ เครื่องประดับ อาหาร และกิจกรรมการแสดงที่คนมาโชว์ความสามารถกันมากมาย

วันที่สาม :: วังเวียง - หลวงพระบาง(โดยรถความเร็วสูง) - หลวงพระบาง - บ้านผานม - วัดวิชุนราช - น้ำตกตาดกวงสี - ล่องเรือแม่น้ำโขง - ตลาดกลางคืนหลวงพระบาง

ออกเดินทางสู่ สถานีรถไฟหลวงพระบาง โดยรถไฟเที่ยวที่ C86 วังเวียง 18.26 น. - หลวงพระบาง 09.16 น. ชั้นประหยัด ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามระหว่างสองข้างทาง

เป็นหมู่บ้านชาวไทลื้อ มีฝีมือในการทอผ้าอย่างสวยงาม อดีตเป็นแหล่งทอผ้าถวายแด่เจ้ามหาชีวิต ปัจจุบันผ้าทอจากบ้านผานมนี้มีชื่อเสียงมาก และมีการรวมกลุ่มตั้งเป็นศูนย์หัตถกรรมแสดงสินค้า ให้ท่านได้เลือกซื้อผ้าพื้นเมืองได้ตามอัธยาศัย

วัดที่มีพระธาตุเจดีย์องค์ใหญ่รูปทรงคล้ายแตงโม ชาวลาวเรียกว่า พระธาตุหมากโม วัดแห่งนี้ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ซึ่งเดิมเป็นที่ประดิษฐานพระบาง และเป็นแหล่งรวมผลงานฝีมือช่างสกุลต่างๆ

พักผ่อนเล่นน้ำ และชมความงดงามของน้ำตกสีเขียวมรกต มองเห็นสายน้ำไหลลดหลั่นลงมาตามหน้าผาหินปูนอันสลับซับซ้อน น้ำใสสะอาดมองเห็นตัวปลา ท่ามกลางธรรมชาติอันร่มรื่น

ออกเดินทางสู่ท่าเรือ เพื่อลงเรือล่องไปตามลำน้ำโขงชมวิถีชีวิตของชาวลาว กับบรรยากาศพระอาทิตย์อัสดงในช่วงเย็น

19.00น. หลังอาหารค่ำ เที่ยวชมตลาดกลางคืน เลือกซื้อสินค้าในบรรยากาศถนนคนเดินเมืองหลวงพระบางยามราตรีบนถนนศรีสว่างวงศ์ ตั้งแต่หน้าพระราชวังจนสุดถนน

วันที่สี่ :: ตักบาตรข้าวเหนียว - ตลาดเช้าหลวงพระบาง - ล่องเรือแม่น้ำโขง - บ้านซ่างไห - ถ้ำติ่ง - วัดเชียงทอง - พระธาตุพูสี

05.30 น. ตื่นเช้ามาทำบุญตักบาตรข้าวเหนียว เพื่อความเป็นศิริมงคล โดยมีพระภิกษุออกมาบิณฑบาตรนับร้อยรูป ประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวลาวที่ทำกันเป็นประจำทุกเช้า

เที่ยวชมตลาดเช้า สัมผัสวิถีชีวิตของชาวพื้นเมืองหลวงพระบาง ชิมกาแฟโบราณประชานิยม ที่ว่ากันว่าอร่อยที่สุดของหลวงพระบาง

จาก ท่าเรือบ้านซ่างไห ลงเรือล่องไปตามลำน้ำโขงมุ่งหน้าสู่ ถ้ำติ่ง เป็นถ้ำบนหน้าผาที่อยู่ติดริมแม่น้ำโขง มี 2 ชั้น คือถ้ำติ่งบน และถ้ำติ่งล่าง มีชาวบ้านนำพระพุทธรูปมาตั้งวางเรื่อยๆ เพราะเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ จนปัจจุบันมีพระพุทธรูปภายในถ้ำกว่า 4,000 องค์

ชมวิถีชีวิตของชาวลาวที่ บ้านซ่างไห เป็นหมู่บ้านในชนบทที่ตั้งรกรากใช้ชีวิตอยู่ริมแม่น้ำโขงมาเป็นระยะเวลานาน มีอาชีพในการหมักเหล้า สาโท และเป็นแหล่งรวมสินค้าพื้นเมืองจำพวกผ้าทอ กระเบื้องเคลือบเก่า

ตะลึงกับความงามอันอ่อนช้อยของต้นศิลปะสกุลล้านช้างที่ได้รับการกล่าวขานและได้รับการยกย่องจากนักโบราณคดี ว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่มีความโดดเด่น งดงาม และทรงคุณค่า เป็นดั่งอัญมณแห่งสถาปัตยกรรมของลาว

ขึ้นไปกราบไหว้บูชาพระธาตุ ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง 150 เมตร ใจกลางเมืองหลวงพระบาง สองข้างทางร่มรื่นและหอมอบอวลไปด้วยดอกจำปาลาว มองจากยอดพูสี จะเห็นวิวอันกว้างใหญ่ที่เบื้องล่างคือราชธานีเก่าแก่ ริมแม่น้ำโขง ล้อมรอบด้วยทิวเขาสลับซับซ้อน

วันที่ห้า :: วัดใหม่สุวันพูมาราม - พระราชวังเก่า - สนามบินหลวงพระบาง - กรุงเทพฯ

เคยเป็นที่ประทับของ สมเด็จพระสังฆราชบุญทัน ซึ่งเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์สุดท้ายของลาวมาก่อน อุโบสถของวัดนี้สร้างด้วยเครื่องไม้มีหลังคาซ้อนกันห้าชั้นตามแบบหลวงพระบาง กำแพงพระระเบียงด้านหน้า ทำเป็นลายรดน้ำปิดทองเล่าเรื่องรามายณะและพระเวสสันดรชาดก ปัจจุบันวัดใหม่ได้ใช้เป็นโรงเรียนปริยัติธรรม

อาคารเก่าแก่สถาปัตยกรรมฝรั่งเศส ผสมผสานวัฒนธรรมลาว ในอดีตเคยเป็นพระราชวังที่ประทับของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์ ภายในเป็นที่ประดิษฐานของ "พระบาง" พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบาง

• ได้เวลาสมควรเดินทางสู่สนามบินหลวงพระบาง 
• 16.05 น. *กลับสู่กรุงเทพฯ* ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบิน Thai Air Asia เที่ยวบินที่ FD1031
• 17.35 น. ถึงท่าอากาศยานดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ