สรุปการเดินทาง

อัตราค่าบริการ (ราคารวมตั๋วเครื่องบิน)
ช่วงเวลาเดินทาง: ธันวาคม 2567 - มีนาคม 2568

หมายเหตุ: 

• ** ราคานี้สำหรับลูกค้าที่ถือพาสปอร์ตไทยเท่านั้น และไม่มีราคาเด็ก **
• ราคาทัวร์ข้างต้นยังไม่รวมค่าทิปไกด์ท้องถิ่นภูฏาน และคนขับรถ
• โปรแกรมขอสงวนสิทธิ์ปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมของสภาพอากาศ และฤดูกาล การจัดที่นั่งบนเครื่อง จะเป็นไปตามที่สายการบินเป็นผู้กำหนด โดยจะเป็นการรันตามระบบ ไม่สามารถเลือกที่นั่ง และที่นั่งอาจจะไม่ได้ติดกัน ซึ่งทางบริษัทไม่สามารถเข้าไปจัดการได้แต่อย่างไดทั้งนี้สายการบินมีนโยบายขายบัตร(ตั๋ว) โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติ่มนอกเหนือรายการทัวร์

รายละเอียดโรงแรมที่พัก

แพลนการเดินทาง

วันแรก :: สนามบินสุวรรณภูมิ - สนามบินแห่งชาติพาโร - พาโรซอง - National Museum - เมืองทิมพู - ทาชิโซซอง

• 04.30 น. คณะพร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่ชั้น 4 ประตูทางเข้าที่ 7 เคาน์เตอร์ สายการบิน Bhutan Airline (B3) หรือ สายการบิน Druk Air (KB) โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในเรื่องสัมภาระ 
• 06.30 น. เดินทางสู่ ภูฏาน โดยสายการบิน ภูฏานแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ B3-701 (บริการอาหารเช้าและเครื่องดื่มบนเครื่อง) 
• 09.55 น. เดินทางถึง สนามบินแห่งชาติพาโร หลังผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว (เวลาท้องถิ่นภูฏานช้ากว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง) ทุกท่านกรุณาแลกเงินนูดรัม (Ngudrum) ที่สนามบินก่อนออกเดินทาง จากนั้นพบกับมัคคุเทศก์ท้องถิ่นคอยต้อนรับท่าน “ ชูป้าย Wonderfulpackage”

พาโรซอง (Paro Rinchen Pong Dzong) สร้างขึ้นบนพื้นที่เด่นตระหง่านในหุบเขาพาโร เดินข้ามสะพานไม้เก่าแก่ที่สวยงามมาก พาดผ่านแม่น้ำเพื่อเข้าสู่ตัวซอง ปัจจุบันพาโรซองเป็นสถานที่ราชการทำงานในส่วนบริหารเมืองพาโร และเป็นวัดที่พระประจำพรรษาอยู่ประมาณ 200 รูป

พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติภูฏาน (National Museum of Bhutan) ในอดีตเคยเป็นป้อมปราการ หรือ ตาซอง (Ta Dzong) ภายในพิพิธภัณฑ์น่าสนใจมากเพราะเป็นที่เก็บรวบรวมเครื่องแต่งกาย อาวุธ เหรียญกษาปณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ ในสมัยโบราณ รวมทั้งหน้ากากต่างๆ ที่ใช้สำหรับการเต้นระบำเกี่ยวกับทางศาสนาในเทศกาลเตชูด้วย (โปรดแต่งกายให้สุภาพ) 

ทิมพูซอง (Thimphu Dzong)  หรือ ตาชิโชซอง (Tashicho Dzong) เป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองหลวงทิมพู เป็นสถาปัตยกรรมแบบภูฏานที่ใหญ่โต ตัวอาคารสีขาวมีหลังคาสีแดงซ้อนลดหลั่นเป็นชั้นๆ ภายในประกอบด้วยส่วนต่างๆ เป็นทั้งที่ทำงานของกษัตริย์ ที่พักฤดูร้อนของสมเด็จพระสังฆราช ที่ทำการรัฐบาลและศาสนา

วันที่สอง :: เมืองทิมพู - โดชูลาพาส - วัดชิมิลาคัง - พูนาคา ซอง

ระหว่างทางแวะช่องเขา โดชูลาพาส (Dochula Pass) ที่ระดับความสูง 3,150 เมตร จากระดับน้ำทะเล ชมสถูป 108 ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับทหารวีรชนชาวภูฏานที่เสียชีวิตจากสงครามอัสสัม

เดินเล่นทุ่งนาสัมผัสชีวิตชาวชนบท และชม วัดชิมิลาคัง (Chimi Lhakhang) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “วัดเจริญพันธุ์” ชาวภูฏานนิยมมาไหว้ขอพรเกี่ยวกับเรื่องครอบครัว เช่น ขอพรเรื่องความรักให้สมหวัง ขอพรให้ลูก และชาวภูฏานนิยมนำลูกมาให้พระตั้งชื่อให้

พูนาคา ซอง (PunakhaDzong) ได้รับการขนานนามว่าเป็นวังแห่งความสุข “The Palace of Great Happiness” และเป็นหนึ่งในป้อมปราการที่สวยสง่างามที่สุดในภูฏาน เป็นป้อมที่สร้างเป็นอันดับสองของภูฏาน ในอดีตเมื่อครั้งเมืองพูนาคายังเป็นเมืองหลวง ป้อมแห่งนี้ได้ถูกใช้เป็นที่ทำการของรัฐบาล ปัจจุบันเป็นที่พักในฤดูหนาวของพระชั้นผู้ใหญ่ ป้อมนี้ตั้งอยู่ บริเวณที่แม่น้ำโพ (Pho Chu) และ แม่น้ำโม (Mo chu) ไหลมาบรรจบกัน

วันที่สาม ::เมืองทิมพู - พระพุทธรูปดอร์เดนม่า - จุดชมวิว BBS Tower - สวนสัตว์แห่งชาติ ทาคิน - เพียงแค่ภูฏาน (Simply Bhutan) - ช้อปปิ้งตลาดท้องถิ่น - ชมการยิงธนูในภูฏาน - เมืองพาโร - ช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง

เนินเขา Kuenselphodrang เนินเขาที่เรียกว่า Buddha Point ซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธรูปดอร์เดนมา (Great Buddha Dordenma) เป็นพระพุทธรูปศากยมุนีองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ความสูง 51.50 เมตร ตั้งอยู่ด้านบนเขา และยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดของทิมพู สวดมนต์ไหว้พระและขอพรก่อนออกเดินทาง

จุดชมวิว Sangayagang (BBS Tower) บีบีเอสทาวเวอร์ หรือ หอบริการกระจายเสียงของภูฏาน ที่รู้จักกันในนาม จุดชมวิวซานเกย์กัง ตั้งอยู่ที่ความสูง ประมาณ 9,400 ฟุต ให้ท่านชมทัศนีย์ภาพของหุบเขาทิมพูทั้งหมดจากด้านบน ชมทัศนียภาพกว้างไกลของหุบเขาทั้งหมด ซึ่งทำให้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมในทิมพู

เขตรักษาพันธ์สัตว์หายากของภูฏาน สถานอนุรักษ์ ตาคิน (Takin) สัตว์ประจำชาติของภูฏานที่มีลักษณะเหมือนวัวผสมกับแพะ เป็นสัตว์ที่หายากและใกล้สูญพันธุ์ ซึ่งมีอยู่ที่ภูฏานเพียงแห่งเดียวเท่านั้น

ชม “เพียงแค่ภูฏาน” (Simply Bhutan) พิพิธภัณฑ์มีชีวิต ที่เราสามารถเข้าใจถึงชีวิตแบบภูฏานดั้งเดิมได้ในครั้งเดียว บ้านดินโคลนที่มีหลังคามุงด้วยแผ่นไม้ใช้เป็นหลังคาแสดงถึงบ้านภูฏานแบบดั้งเดิมในยุคกลาง ภายในเต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้โบราณที่ได้รับการบูรณะและอนุรักษ์ไว้เพื่อแสดงถึงวิถีชิวิตแบบดั้งเดิม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์และส่งเสริมประเพณีและวัฒนธรรมอันเก่าแก่

ช้อปปิ้งตลาดท้องถิ่น ที่มีผลผลิตทางการเกษตรกร และสินค้าท้องถิ่น ตลาดแห่งนี้มีชิวิตชีวาด้วยแผงขายสีสันสดใสที่เต็มไปด้วยสินค้าท้องถิ่นและสินค้านำเข้า คนท้องถิ่นที่เป็นมิตร ให้ท่านอิสระเลือกซื้อตามอัธยาศัย

ชมการยิงธนูในภูฏาน (Archery Ground) การยิงธนูในภูฏานเป็นกีฬาประจำชาติของราชอาณาจักร และได้ประกาศให้เป็นกีฬาประจำชาติภูฏาน

ช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองในตัวเมือง โดยมีร้านค้าประมาณร้อยร้านบนถนนเส้นเดียวที่ผ่านตัวเมือง มีสินค้าที่น่าสนใจ คือ เครื่องเงิน รูปปั้นพระพุทธรูป หน้ากาก เครื่องประดับตกแต่ง ผ้าทังก้า ขนม น้ำอัดลม น้ำขวด ส่วนมากนำเข้าจากประเทศอินเดีย

วันที่สี่ :: เมืองพาโร - พิชิตวัดทักซัง (วัดถ้ำเสือ) - พาโร สตรีท

08.00น. เดินขึ้นเขา ณ วัดทักซัง (Taksang Monastery) หรือวัดถ้ำเสือ (Taksang Monastery) เป็นวัดที่ศักดิ์สิทธิ์และมีชื่อเสียงมากที่สุดในบรรดาวัดวาอารามของพุทธศาสนาในภูฏาน วัดตั้งอยู่บนหน้าผาหินสูง 900 เมตร คำแปลชื่อวัดนี้ แปลว่า Tiger’s Nest กล่าวกันว่าท่านกูรู หรือ พระอาจารย์ของวัดนี้ต้องขี่หลังนางเสือเพื่อขึ้นไปที่วัด จากนั้นท่านก็จะจำพรรษาอยู่ในถ้ำของวัดครั้งละ 3 เดือน 

วัดนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวภูฏานเคารพนับถือมาก นักแสวงบุญจากทั่วประเทศจะเดินทางเพื่อมาสวดมนต์ภาวนาที่วัดนี้ตลอดเวลา ตามปกติ วัดจะไม่เปิดให้คนทั่วไปเข้าชมยกเว้นนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาไหว้พระและชมวัดนี้จะต้องขออนุญาตจากทางการเป็นพิเศษ การเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ รถจะสามารถขึ้นได้แค่เนินเขาเท่านั้น จากนั้นท่านสามารถเลือกเดินทางได้ 2 แบบ คือ  เดินเท้า หรือ ขี่ม้า

การเดินทางขึ้นเขา โดยส่วนมากแล้ว จะใช้เวลาเดิน ประมาณ 2-3 ชั่วโมง  ไปกลับก็จะประมาณ 6 ชั่วโมง ดังนั้นเวลาที่จะกลับลงมาถึงตีนเขาประมาณบ่าย 2 -3 โมง ต้องเริ่มออกเดินทางปีนเขาแต่เช้าเพื่อไปให้ทันก่อนวัดปิดช่วงกลางวัน และจะเปิดใหม่ตอนบ่าย 2 โมง

หมายเหตุ: ท่านสามารถเลือกขี่ม้าได้ 1 ขาซึ่งประหยัดเวลาไปได้มาก ค่าม้าประมาณ 500 งูลดรัม(ท่านละ 30 USD) และ ขาลงต้องเดินลง ซึ่งวัดนี้นับว่าคุ้มค่ากับการเดินทางมากที่สุด เพราะศักดิ์สิทธิ์มาก (ควรเตรียมรองเท้าสำหรับเดิน Hiking พิชิตวัดทักซังให้พร้อม) // กรุณาแจ้งทำจองล่วงหน้ากับทางบริษัทฯ เนื่องด้วยม้าไม่เพียงพอต่อนักท่องเที่ยว 

นำท่านเดินทางลงจากเขา (ไม่สามารถอนุญาตให้นั่งม้าลงมาด้านล่างได้ เนื่องจาก อันตรายเป็นอย่างมากต่อตัวผู้เดินทาง)

หมายเหตุ: การเดินขึ้นไปถึงวัด ตั๊กซัง ต้องมีความพร้อมทั้งร่างกาย และจิตใจอากาศบนที่สูง ระดับความสูงเฉลี่ย 2,000- 3,000 เมตร อากาศเบาบางท่านจะไม่คุ้นเคย และจำทำให้เหนื่อยง่าย ท่านที่ต้องการสละสิทธิ์ กรุณาแจ้งล่วงหน้า เพื่อจัดสรรรายการอื่น หรือเพื่อจัดเตรียมการดูแล

เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้ง ณ พาโร สตรีท ซื้อของฝากของที่ระลึกตามอัธยาศัย

วันที่ห้า :: เมืองพาโร - วัดคิชู - สนามบินแห่งชาติพาโร - สนามบินสุวรรณภูมิ(กรุงเทพฯ)

วัดคิชูลาคัง (Kyichu Lhakhang) วัดเก่าแก่ สร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าซองเซินกัมโป กษัตริย์แห่งทิเบต ตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 และได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 ภายในโบสถ์หลังเก่าพื้นปูด้วยไม้แผ่นใหญ่ มีพระประธานองค์ใหญ่ เบื้องหน้ามีรอยบุ๋มเนื่องจากการยืนกราบในจุดเดียวกันเป็นเวลายาวนาน เป็นการกราบแบบอัษฎางคประดิษฐ์ คือการนอนราบพื้นอันเป็นการแสดงการคารวะสูงสุด)

• 08.00 น. สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ สนามบินพาโร เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ 
• 10.35 น. ออกเดินทางกลับ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน Bhutan Airlines หรือ Druk Air(KB) เที่ยวบินที่ B3-700 
• 16.05 น. เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพและความประทับใจอิ่มใจในความบริสุทธิ์มิรู้ลืม