สรุปการเดินทาง

อัตราค่าบริการ (รวมตั๋วเครื่องบิน)

**ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับราคาเพิ่ม กรณีเดินทางช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันหยุดเทศกาล

แพลนการเดินทาง

วันแรก :: เช็คอิน ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ

• 23.50 น. พร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์ H-J สายการบินเกรทเตอร์เบย์ แอร์ไลน์ (Greater Bay Airlines - HB) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก

วันที่สอง :: กรุงเทพฯ(สุวรรณภูมิ) - สนามบินฮ่องกง(ต่อเครื่อง) - ท่าอากาศยานนาริตะ - เข้าโรงแรม - ดินเนอร์ ณ ภัตตาคาร

• 03.00 น. ออกเดินทางสู่ นาริตะ ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบิน เกรทเตอร์เบย์ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ HB298 
• 07.00 น. เดินทางถึง สนามบินฮ่องกง เพื่อแวะต่อเครื่อง 
• 09.20 น. ออกเดินทางสู่ นาริตะ ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบิน เกรทเตอร์เบย์ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ HB320 
• 15.00 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเป็นเวลาท้องถิ่น) สำคัญ!!! ประเทศญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศ หากฝ่าฝืนจะมีโทษจับและปรับ 
• พบเจ้าหน้าที่ชูป้ายรับที่สนามบิน

	เดินทางสู่กรุงโตเกียว โดยรถ Micro Bus (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที)

ผ่อนคลายจากความเมื่อยล้าในการเดินทางบนเครื่องบิน ด้วยรถ Micro Bus พักผ่อนเอนกายสะดวกสบาย ที่นั่งกว้างขวาง มุ่งสู่กรุงโตเกียว

	รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร เมนู บุฟเฟ่ต์ชาบูหมูและเนื้อ พร้อมผักสดนานาชนิด

อิ่มอร่อยด้วย บุฟเฟ่ต์ชาบูหมูและเนื้อ อาหารที่รับประทานได้ทุกวัย ย่อยง่าย และเต็มไปด้วยผักสดนานาชนิดที่ดีต่อสุขภาพ

วันที่สาม :: นั่งรถไฟด่วนพิเศษ Specia X สู่นิกโก้ - ศาลเจ้านิกโก้ - โทโชกุ - เข้าโรงแรม - ดินเนอร์ ณ โรงแรม - แช่ออนเซ็น

สัมผัสประสบการณ์การเดินทางสุดพิเศษ โดยรถไฟด่วนพิเศษ SPACIA X สู่เมืองแห่งมรดกโลก นิกโก้ เป็นรถไฟที่มีการออกแบบผสมผสานระหว่างความดั้งเดิมและความทันสมัย ซึ่งได้นำองค์ประกอบการออกแบบที่ได้ผ่านการขัดเกลามาในประวัติศาสตร์มาพัฒนาให้เข้ากับยุคปัจจุบัน มีที่นั่งทั้งหมด 6 ประเภท ตั้งแต่ที่นั่งมาตรฐาน ที่นั่งพรีเมียมปรับเอนเบาะด้วยระบบไฟฟ้า ไปจนถึงห้องส่วนตัว และที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาสอย่าง ห้องค็อกพิทสวีท ซึ่งรองรับผู้โดยสารได้ถึง 7 คน ให้ความรู้สึกราวกับอยู่บนเครื่องบินส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่ภายในรถไฟที่ให้บริการเครื่องดื่ม ของว่าง ขนมหวาน รวมถึงสินค้าออริจินัลที่หาซื้อได้แค่ที่นี่เท่านั้น

	รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมนู เซ็ตมากิโทฟุ

มากิโทฟุ เป็นอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อแห่งเมืองนิกโก้ ที่ทำมาจากฟองเต้าหู้ยุบะ ซึ่งฟองเต้าหู้ที่นิกโก้มีลักษณะพิเศษคือ เป็นชั้นๆ มีวอลุ่มหนาให้เคี้ยวได้

ศาลเจ้าโทโชกุ ศาลเจ้าที่เป็นอนุสรณ์สถานแด่โชกุนโทกุงาว่า ที่เก่าแก่นับ 4 ศตวรรษ อาคารแต่ละหลังสร้างจากไม้ลงลายสีทอง มีสถาปัตยกรรมไม้แกะสลักที่วิจิตรตระการตาทั้งสวยงามในแง่ของศิลปะและแฝงแง่มุมทางปรัชญา ทางเข้าจะเป็นซุ้มประตูโยเมมง (Yomeimon) เป็นซุ้มประตูที่สวยงาม มีขนาดใหญ่ ด้านในเป็นอาคารไม้ มีรูปลิงแกะสลัก 3 ตัว อยู่ในท่า ปิดหู ปิดปาก ปิดตา หมายถึง การไม่ดู ไม่ฟัง ไม่พูดในสิ่งไม่ดี ศาลเจ้าแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกทางวัฒนธรรม

	เข้าสู่ที่พัก NIKKO SENHIME MONOGATARI หรือในระดับเทียบเท่า
	รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร เมนู เซ็ตอาหารญี่ปุ่น (เมนูอาหารมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล)

ให้คุณได้ลิ้มรสอาหารญี่ปุ่นตามแบบฉบับคนญี่ปุ่นแท้ๆ (เมนูอาหารมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล)

	ออนเซ็น (Onsen)

พักผ่อนกับการ “แช่น้ำแร่ธรรมชาติ” หรือ “ออนเซ็น” (Onsen) ซึ่งชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าน้ำแร่ธรรมชาตินี้มีส่วนช่วยในเรื่องการรักษาสุขภาพ ระบบหมุนเวียนโลหิตและช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง

วันที่สี่ :: ทะเลสาบชูเซนจิ - น้ำตกเคงอน - สวนดอกไม้อาชิคางะ - เมืองโบราณคาวาโกเอะ - โตเกียว - เข้าโรงแรม

ให้ท่านได้สูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้าที่สุดสดชื่นพร้อมกับเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติที่งดงามที่ เขตทะเลสาบชูเซนจิ ตั้งอยู่บริเวณฐานภูเขาไฟนันไต โดยทะเลสาบแห่งนี้เกิดจากการระเบิดเมื่อประมาณ 20,000 ที่ผ่านมา ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเดือนตุลาคม จะสวยงามเป็นพิเศษ ด้วยทัศนียภาพของสีสันของต้นไม้และภูเขา ในช่วงฤดูร้อนก็มีอากาศที่เย็นสบายไม่ร้อนเหมือนที่อื่น

น้ำตกเคงอน เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดประจำเมืองนิกโก้ ที่มีความสวยงามเลื่องชื่อจนได้รับการจัดอันดับให้ติด 1 ใน 3 น้ำตกที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น นอกจากจะได้มาเที่ยวชมความงดงามของน้ำตกชื่อดังที่มีความสูงเกือบ 100 เมตร ที่นี่ยังเป็นอีกหนึ่งจุดสำหรับการชมใบไม้แดงในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีช่วงกลางๆ ไปจนถึงปลายเดือนตุลาคมของทุกปีอีกด้วย

สวนดอกไม้อาชิคางะ ตั้งอยู่ที่เมืองอาชิคางะ จังหวัดโทจิงิ มีดอกไม้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะมาฤดูไหนก็จะได้ชมความสวยงามที่ต่างบรรยากาศกันไป  นำท่านชม Purple garden (ต้นตุลาคมถึงปลายพฤศจิกายน) ชมดอกอเมทิสต์ เซจ (Amethyst sage) กว่า 300,000 ต้นที่ย้อมทั้งทุ่งให้เป็นสีม่วงพาสเทล บานสะพรั่งตั้งแต่ปลายฤดูร้อนถึงฤดูใบไม้ร่วง ลักษณะเด่นคือมีดอกสีม่วงบานเป็นแถวยาว ทิวทัศน์ของลำต้นและดอกไม้ที่พลิ้วไหวไปตามสายลม (การบานของดอกไม้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสำคัญ)

	อิสระรับประทานอาหารกลางวัน
	เมืองโบราณคาวาโกเอะ (Kawagoe) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที)

เมืองโบราณคาวาโกเอะ เป็นเมืองเล็กๆ ในจังหวัดไซตามะ มีพื้นที่ติดกับโตเกียว สัมผัสบรรยากาศเมืองเก่าที่ได้กลิ่นอายโบราณในสมัยเอโดะ จึงได้รับการขนานนามว่าเป็น ลิตเติลเอโดะ ซึมซับบรรยากาศของโกดังเก่าที่เรียงรายกันยาวตลอดระยะทางกว่า 700เมตร ปัจจุบันได้ถูกเปลี่ยนเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก โดยเฉพาะร้านขนมที่ทำจากมันหวานสีเหลืองและสีม่วง เป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของเมืองนี้

วันที่ห้า :: อิสระท่องเที่ยวหรือช้อปปิ้งตามอัธยาศัย (ไม่มีรถบริการ)

มีวันว่างให้ท่านได้เพลิดเพลินไปกับการเที่ยวญี่ปุ่นตามแบบฉบับของตัวเอง แบบไม่ต้องทำตามแพลนใคร แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในโตเกียวที่น่าสนใจ อาทิ

วันที่หก :: อิสระท่องเที่ยวหรือช้อปปิ้งตามอัธยาศัย (ไม่มีรถบริการ) - รถรอรับจากโรงแรมที่พัก - เดินทางสู่ท่าอากาศยานนาริตะ

	รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
	อิสระท่องเที่ยวโตเกียว

ให้ท่านได้พักผ่อนหรือเดินเล่นในกรุงโตเกียวตามอัธยาศัย

• สมควรแก่เวลาเดินทางโดย Micro Bus สู่ ท่าอากาศยานนาริตะ เพื่อเช็คอินเตรียมตัวเดินทางกลับ
• 17.40 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน เกรทเตอร์เบย์ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ HB323 
• 21.40 น. เดินทางถึง สนามบินฮ่องกง เพื่อแวะต่อเครื่อง 
• 22.40 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน เกรทเตอร์เบย์ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ HB297

• 00.45 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ