สรุปการเดินทาง
Day
|
Highlight
|
Meal
|
Hotel
*หรือเทียบเท่า
|
B |
L |
D |
1 |
กรุงเทพฯ(สุวรรณภูมิ) - โคลัมโบ - ถ้ำดัมบูลล่า - เมืองสิริกิยา |
|
|
|
Brownshotels Hotel - Sigiriya
|
2 |
เมืองสิริกิยา - พระราชวังสิริกิยา(ภูเขาสิงโต) - เมืองแคนดี้ - นมัสการพระเขี้ยวแก้ว - วัดกัลยาณีราชมหาวิหาร - สนามบินโคลัมโบ - กรุงเดลี |
|
|
|
บนเครื่อง
|
3 |
กรุงเดลี - เมืองชัยปุระ - ประตูปาตริกา |
|
|
|
Hotel Sunday Jaipur / Sarover Premier
|
4 |
พระราชวังสายลม - ตลาดฮาวามาฮาล - จุดถ่ายรูป Wind View Café - ซีตี้ พาเลส (City Palace) - วัดพระพิฆเนศ - แอมเบอร์ ฟอร์ท (Amber Fort) รวมนั่งรถจิ๊ป ขึ้น-ลง |
|
|
|
Hotel Sunday Jaipur / Sarover Premier
|
5 |
เมืองชัยปุระ - เมืองอัครา - พระราชวังอัคราฟอร์ด |
|
|
|
Hotel Clarks Shiraz / Hotel Royal Sarovar
|
6 |
ทัชมาฮาล ชมตอนพระอาทิตย์ขึ้น - เมืองอัครา - กรุงเดลี - ประตูชัยอินเดีย - สนามบินอินทิราคานธี - สนามบินโคลัมโบ |
|
|
|
-
|
7 |
กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ) |
|
|
|
-
|
อัตราค่าบริการ (ราคารวมตั๋วเครื่องบิน 4 เที่ยว)
กำหนดการเดินทาง: ธันวาคม 2567
วันเดินทาง |
จำนวนผู้เดินทาง ราคาท่านละ (บาท) |
4 ท่าน
|
6 ท่าน
|
8 ท่าน |
10 ท่าน |
พักเดี่ยวเพิ่ม |
3 - 9 ธ.ค. 67
|
47,900
|
46,900
|
45,900
|
43,900
|
8,000
|
4 - 10 ธ.ค. 67
|
47,900
|
46,900
|
45,900
|
43,900
|
8,000
|
6 - 11 ธ.ค. 67
|
47,900
|
36,900
|
45,900
|
43,900
|
8,000
|
7 - 12 ธ.ค. 67
|
47,900
|
36,900
|
45,900
|
43,900
|
8,000
|
17-23 ธ.ค. 67
|
45,900
|
44,900
|
43,900
|
41,900
|
8,000
|
แพลนการเดินทาง
วันแรก :: กรุงเทพฯ(สุวรรณภูมิ) - โคลัมโบ - ถ้ำดัมบูลล่า - เมืองสิริกิยา
|
กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) - โคลัมโบ
|
- 05.00 น. พร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 2 เคาน์เตอร์ S สายการบิน SriLankan Airlines
- 07.45 น. เดินทางสู่ ประเทศศรีลังกา โดยสายการบิน SriLankan Airlines เที่ยวบินที่ UL403
- 09.35 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานบันดานารานัยเก ประเทศศรีลังกา (เวลาช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชม.) ให้ท่านได้แลกเงินรูปีศรีลังกาที่สนามบิน
|
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
|
|
= เดินทางสู่ เมืองดัมบุลลา = (ระยะทาง 130 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง)
|
|
วัดถ้ำดัมบุลลา (Dambulla Cave Temple)
|
|
|
วัดถ้ำดัมบุลลา (Dambulla Cave Temple) เป็นที่รู้จักกันในชื่อวัดทองคำแห่งดัมบุลลา วัดพุทธที่สำคัญแห่งหนึ่งของศรีลังกา เป็นวัดถ้ำที่ใหญ่ที่สุดและมีการทำนุบำรุงไว้อยู่ในสภาพดีที่สุดในศรีลังกา ประกอบด้วยถ้ำ 5 ถ้ำ แต่ละถ้ำมีขนาดไม่เท่ากัน ถ้ำเทวราชา เป็นถ้ำที่เก่าแก่ที่สุดในจำนวน 5 ถ้ำ มีพระพุทธรูปปางปรินิพพานขนาดใหญ่แกะสลักจากหินอ่อนยาว 49 เมตร ถ้ำมหาราชา เป็นถ้ำที่มีขนาดใหญ่และมีความสำคัญที่สุด ภายในมีพระพุทธรูปและประติมากรรมจำนวนมาก ถ้ำมหาอลุต มีพระนอนขนาดเกือบ 10 เมตรประดิษฐานอยู่ ถ้ำภัคชิมา มีขนาดเล็กที่สุดแต่มีภาพจิตรกรรมเต็มไปทั่วพื้นที่เพดานถ้ำและ ถ้ำเทวนะอลุต เป็นถ้ำที่สร้างขึ้นหลังสุด ภายในมีพระนอนขนาดใหญ่
|
รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารโรงแรม
|
|
ที่พัก Brownshotels Hotel - Sigiriya ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
|
|
|
วันที่สอง :: เมืองสิริกิยา - พระราชวังสิริกิยา(ภูเขาสิงโต) - เมืองแคนดี้ - นมัสการพระเขี้ยวแก้ว - วัดกัลยาณีราชมหาวิหาร - สนามบินโคลัมโบ - กรุงเดลี
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
|
|
= เดินทางสู่ เมืองสิกิริยา = (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที)
|
|
ยอดเขาสิกิริยา(Sigiriya)
|
|
|
เดินขึ้นบันได 2,200 ขั้น ขึ้นไปบนยอดเขาสิกิริยา ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด ชมอดีตร่องรอยแห่งอดีตอันรุ่งเรืองของ พระราชวังลอยฟ้า สิกิริยา (Sigiriya Palace) , อ่างเก็บน้ำโบราณ , ป้อมปราการ หรือประตูสิงโต เป็นสิ่งมหัศจรรย์แห่งเดียวบนเกาะนี้รู้จักกันดีในชื่อ Lion Rock หรือ แท่นศิลาราชสีห์, ชมภาพเขียนสีเฟรสโก เป็นภาพนางอัปสรสวรรค์ ที่มีอายุพันกว่าปีและถูกจัดให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก และมองวิวทิวทัศน์ของเมืองสิกิริยาได้จากจุดที่สูงที่สุด
|
สวนสมุนไพร (New Ranweli Spice Garden)
|
|
|
ชม สวนสมุนไพร (New Ranweli Spice Garden) ที่ได้รวบรวมปลูกไว้มากมาย อาทิ ต้นอบเชย ต้นกระวาน ต้นกานพลู ต้นจันทน์ ต้นโกโก้ ต้นวานิลลา ต้นชา กาแฟ ตะไคร้ เป็นต้น พร้อมมีป้ายบอกสรรพคุณกำกับ โดยมีผู้เชี่ยวชาญนำชมและอธิบายเป็นภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ต่างๆจากสมุนไพร จากธรรมชาติแท้ปลอดสารเจือปนจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ที่ขื้นชื่อของสวนสมุนไพรในเมือง Matale เช่น น้ำยาปลูกผมสกัดจากน้ามันพะพร้าวคิงส์โคโคนัท หรือน้ำยาสมุนไพรแก้โรคไขข้อเสื่อม
|
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
|
|
= เดินทางสู่ เมืองแคนดี้ = (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)
|
|
วัดพระเขี้ยวแก้ว (Dalada Valigawa)
|
|
|
วัดพระเขี้ยวแก้ว (Dalada Valigawa) กราบนมัสการ พระบรมธาตุเขี้ยวแก้ว (The Sacred Tooth Relic of the Buddha) ซึ่งเป็นพระทันตธาตุเบื้องซ้ายของของพระพุทธเจ้า เป็นเพียงองค์เดียวที่ปรากฏบนโลกมนุษย์ โดยมีหลักฐานรองรับความถูกต้องตรงตามพระคัมภีร์มหาวังศา นับเป็นสิ่งสักสิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่โบราณ และเป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวศรีลังกา พระธาตุเขี้ยวแก้วนี้ได้ถูกบรรจุอยู่ในเจดีย์ทองคำ และผอบทองคำ 7 ชั้น ประดิษฐานในห้องกระจกกันกระสุนอย่างแน่นหนา และไม่เคยเสด็จออกนอกประเทศเลยนับตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 9 **ทุกท่านต้องสวมชุดสีขาวสุภาพเท่านั้น เพื่อพิธีกรรมทางศาสนาตอนเข้าสักการะ**
|
= เดินทางสู่ กรุงโคลัมโบ = (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)
|
|
วัดเกลาณียะราชมหาวิหาร (Kelaniya Raja Maha Vihara)
|
|
|
วัดเกลาณียะราชมหาวิหาร (Kelaniya Raja Maha Vihara) หรือ วัดกัลณียาราชมหาวิหาร ตามพงศาวดารมหาวงศ์ กล่าวว่าในพรรษาที่ 8 หลังจากตรัสรู้ พระพุทธเจ้าเสด็จมาเทศน์โปรดพญานาคาที่บริเวณวัดกัลณียาแห่งนี้ ต่อมาได้มีการสร้างพระเจดีย์ครอบบริเวณที่เชื่อกันกันว่าเป็นพุทธอาสนะในครั้งนั้น ถือเป็นวัดที่ชาวศรีลังกาให้ความเคารพอย่างสูงสุด
เมืองโคลัมโบ เมืองหลวงของศรีลังกา ที่มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ตึกระฟ้าตั้งตระหง่านขึ้นทัดเทียมกับสิ่งก่อสร้างทางวัฒนธรรม ผสมผสานด้วยความสวยงามของธรรมาชาติที่ยังคงสมบูรณ์ ผ่านชม รัฐสภานครโคลัมโบ ผ่านย่านศูนย์กลางธุรกิจ, วัดคงคาราม ซึ่งเป็นวัดของนิกายสยามวงศ์ และเป็นที่ตั้งของโรงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์แห่งแรกของศรีลังกา ย่านที่พัก CINNAMON GARDEN, อาคารรัฐสภา BMIC, ที่ทำการสหราชอาณาจักรในปัจจุบัน, กรมการทหาร, โบสถ์คริสต์ (DUTCH WOLVENDHAL CHURCH) ที่ถูกสร้างขึ้นโดยชาวดัตช์ในอดีตกาล, จัตุรัสอิสรภาพ ซึ่งสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นที่ระลึกในการ เป็นเอกราชของศรีลังกาหลังจากตกอยู่ภายใต้การปกครองของสหราชอาณาจักรมากกว่า150 ปี, หอนาฬิกาเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี สิ่งก่อสร้างและสถาปัตยกรรมที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยอาณานิคม ซึ่งศรีลังกาอยู่ภายใต้การปกครองของประเทศอังกฤษ นอกจากนี้ในเขตราชการท่านจะได้พบกับสภาพบ้านเมืองที่ถูกสร้างอย่างโอ่อ่าตระการตา
|
รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารโรงแรม
|
|
= สนามบินโคลัมโบ เดินทางสู่อินเดีย =
|
- ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่ สนามบินกรุงโคลัมโบ เพื่อเดินทางสู่ประเทศอินเดีย
- 00.35. น. เดินทางสู่ กรุงเดลี โดยสายการบิน ศรีลังกา แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ UL191
วันที่สาม :: กรุงเดลี - เมืองชัยปุระ - ประตูปาตริกา
|
กรุงเดลี (สนามบินนานาชาติอินทิราคานธี)
|
- 04.10 น. ถึงสนามบินนานาชาติอินทิราคานธี กรุงเดลี ประเทศอินเดีย เดลี หรือชื่ออย่างเป็นทางการ ดินแดนเมืองหลวงแห่งชาติเดลี ชื่อย่อว่า NCT (เวลาช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชม) หลังจากนั้นท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร และรับกระเป๋าสัมภาระเรียบร้อยแล้ว ไกด์ท้องถิ่นอินเดียคอยต้อนรับ
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคาร
|
|
= เดินทางสู่ เมืองชัยปุระ (Jaipur) = (ระยะทาง 300 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-5 ชั่วโมง) ให้ท่านพักผ่อนอิสระตามอัธยาศัย
|
|
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
|
|
ประตูปาตริกา (Patrika Gate)
|
|
|
ประตูปาตริกา (Patrika Gate) เป็นประตูเมืองชัยปุระใน อันดับที่ 9 และมีความสวยงามมาก ตั้งอยู่ที่ วงเวียนจาวาฮาร์ (Jawahar Circle) ประกอบไปด้วย 7 ซุ้มประตู ภายในแต่ละซุ้มจะมีการเขียนและวาดลวดลายสวยงาม นอกจากนั้นยังมีความเชื่อว่าประตูเลข 9 นี้ เป็นเลขศักดิ์สิทธิ์ แตกต่างจากประตูอื่นๆ ทั่วไป
|
รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
|
|
ที่พัก Hotel Sunday Jaipur / Sarover Premier ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
|
|
|
วันที่สี่ :: พระราชวังสายลม - ตลาดฮาวามาฮาล - จุดถ่ายรูป Wind View Café - ซีตี้ พาเลส (City Palace) - วัดพระพิฆเนศ - แอมเบอร์ ฟอร์ท (Amber Fort) รวมนั่งรถจิ๊ป ขึ้น-ลง
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
|
|
พระราชวังสายลม (Hawa Mahal)
|
|
|
พระราชวังสายลม (Hawa Mahal) พระราชวังอันงดงาม สร้างด้วยหินทรายสีชมพูและสีแดง ถอดแบบมากจากทรงของมงกุฎพระนารายณ์ ลักษณะเด่นของพระราชวังสายลมแห่งนี้ มีความสูงถึง 5 ชั้น และสูงถึง 15 เมตร มีหน้าต่างทั้งหมด 953 บาน เป็นช่องลมลายฉลุเพื่อให้อากาศถ่ายเทและให้แสงลอดผ่านได้คล้ายกับรังผึ้ง สร้างขึ้นเพื่อให้นางสนมในวังสามารถมองเห็นวิถีชีวิตผู้คนในเมือง หรือขบวนพิธีการต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายนอกเมืองได้
|
ตลาดฮาวามาฮาล (Hawa Mahal Bazar)
|
|
|
ช้อปปิ้ง ตลาดฮาวามาฮาล (Hawa Mahal Bazar) สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อผ้า ผ้าพิมพ์ลายแบบชัยปุระ กระเป๋าย่าม รองเท้าหนัง และสินค้าต่างๆ อีกมากมาย
|
Wind View Café
|
|
|
ไปถ่ายรูปเช็คอินที่จุดถ่ายรูปกับคาเฟ่สวย Wind View Café เป็นร้าน กาแฟ ชา ผลไม้ กาแฟ น้ำปั่นผลไม้ และขนมปัง ซึ่งร้านอยู่ตรงข้ามกับพระราชวังสายลม สามารถเก็บภาพบรรยากาศสวยๆ ของพระราชวังได้
|
พระราชวังหลวง (City Palace)
|
|
|
พระราชวังหลวง (City Palace) พระราชวังที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมแบบราชปุตกับโมกุลในปัจจุบัน เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้สามารถเข้าชมได้ จุดไฮไลท์ที่ต้องเช็คอิน คือ “ลานนกยูง” ซึ่งเป็นลานแสดงของเหล่านางรำที่จะมาร่ายรำ ณ ลานแห่งนี้ และล้อมรอบด้วยประตู 4 บาน ที่ทุกบานจะมีภาพวาดที่เป็นสัญลักษณ์ของ 4 ฤดู ประตูที่ 1 จะเป็นตัวแทนของฤดูฝน ที่จะเป็นประตูที่ใช้ในการเข้าออก ประตูที่ 2 คือประตูดอกบัวเป็นตัวแทนของฤดูร้อน ประตูที่ 3 ประตูโค้งสีเขียวเป็นตัวแทนของฤดูใบไม้ผลิ และประตูที่ 4 ประตูดอกไม้สีม่วงตัวแทนของฤดูหนาว และเมื่อมองไปยังด้านบนสุดของพระราชวังก็จะเห็นห้องพักส่วนพระองค์ของราชวงศ์
|
วัดพระพิฆเนศ (Ganesh Temple)
|
|
|
เป็นสถานที่ยอดนิยมที่ชาวต่างชาติและชาวอินเดียเดินทางมาเคารพสักการะเพื่อเป็นสิริมงคล วัดพระพิฆเนศ (Ganesh Temple) ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ซึ่งพระพิฆเนศวรช้างหัวเทพในศาสนาฮินดู ถือว่าเป็นพระเจ้าแห่งความเป็นมงคล ภูมิปัญญา ความรู้ และความมั่งคั่ง เปรียบเสมือนชีวิตแห่งการค้นหาความสุขนิรันดร์
|
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
|
|
แอมเบอร์ฟอร์ท (Amber Fort) นั่งรถจี๊ปชมพระราชวัง
|
|
|
แอมเบอร์ฟอร์ท (Amber Fort) ป้อมปราการใหญ่แห่งเมืองชัยปุระ ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงของเมืองอาเมร์ แต่เดิมที่แห่งนี้เป็นป้อมปราการที่สำคัญสามารถป้องกันข้าศึกที่มารุกรานได้ มีทั้งแม่น้ำล้อมรอบ และขนาดกำแพงของป้อมปราการที่มีขนาดใหญ่และหนาแน่น มีความยาวกว่า 13 กิโลเมตร และสามารถมองเห็นได้ระยะไกลจากมุมสูงของปราการ ภายในยังประกอบไปด้วยพระตำหนักอันสวยงามมากมาย ออกแบบสถาปัตยกรรมภายในเป็นการผสมผสานระหว่างราชปุตกับโมกุล (พิเศษ... ให้ท่านนั่งรถจี๊ปขึ้นไปชมพระราชวัง)
|
ผ่านชม พระราชวังกลางน้ำ (Jal Mahal)
|
|
|
พระราชวังกลางน้ำ (Jal Mahal) ตั้งอยู่กลางทะเลสาบ Man Sagar Lake โดยมีเทือกเขานหาร์การห์ตั้งอยู่ด้านหลัง และตัวอาคารสร้างด้วยหินทรายสีแดง พระราชวังแห่งนี้มีทั้งหมด 5 ชั้น ซึ่ง 4 ชั้นล่างจะถูกน้ำท่วมเมื่อทะเลสาบมีระดับน้ำสูงสุด และเหลือให้เห็นเพียงชั้นบนสุดเท่านั้น
|
รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
|
|
ที่พัก Hotel Sunday Jaipur / Sarover Premier ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
|
|
|
วันที่ห้า :: เมืองชัยปุระ - เมืองอัครา - พระราชวังอัคราฟอร์ด
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
|
|
= เดินทางสู่ เมืองอัครา (Agra) = (ระยะทาง 246 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-5 ชั่วโมง)
|
|
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
|
|
อัคราฟอร์ท (Agra Fort)
|
|
|
อัคราฟอร์ท (Agra Fort) ป้อมปราการที่สำคัญ และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ใช้เวลาในการสร้างยาวนานถึงสามยุคของกษัตริย์แห่งราชวงศ์โมกุล มีความโดดเด่นด้วยอิฐส้มที่ล้อมรอบด้วยกำแพงถึงสองชั้น ภายในแบ่งเป็นโซนต่างๆ ทั้งห้องส่วนพระองค์ ท้องพระโรง ลานน้ำพุ สวนดอกไม้ และยังเป็นป้อมที่พระเจ้าชาห์ชะฮานถูกขุมขัง โดยลูกชายของพระองค์เอง เนื่องจากทรงโศกเศร้าเสียพระทัยที่พระมเหสี มุมตัช มาฮาล สิ้นพระชนม์ และทรงได้ใช้ชีวิต ณ ป้อมแห่งนี้ เฝ้ามองทัชมาฮาล จากอัคราฟอร์ท เพื่อระลึกถึงพระมเหสีอันเป็นที่รักจนสิ้นพระชนม์
|
รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
|
|
ที่พัก Hotel Clarks Shiraz / Hotel Royal Sarovar ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
|
|
|
วันที่หก :: ทัชมาฮาล ชมตอนพระอาทิตย์ขึ้น - เมืองอัครา - กรุงเดลี - ประตูชัยอินเดีย - สนามบินอินทิราคานธี - สนามบินโคลัมโบ - กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ)
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
|
|
ทัชมาฮาล (Taj Mahal)
|
|
|
ชมพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้าที่ ทัชมาฮาล (Taj Mahal) ซึ่งถือเป็นวิวที่สวยที่สุดในการชมทัชมาฮาล สุสานหินอ่อนที่เป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรัก ที่สวยที่สุดในโลก 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าชาห์ชะฮานที่มีต่อพระมเหสี พระองค์เรียกพระมเหสีว่า มุมตัช มาฮาล ที่แปลว่า “อัญมณีแห่งราชวัง” อีกทั้งยังเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโกในฐานะ “เพชรน้ำเอกของศิลปะมุสลิมใน อินเดีย และเป็นหนึ่งในงานชิ้นเอกที่ได้รับการชื่นชมในระดับสากล”
|
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
|
|
ประตูชัย (India Gate)
|
|
|
ประตูชัย (India Gate) เป็นอนุสรณ์สถานของเหล่าทหารหาญที่เสียชีวิตจากการร่วมรบกับอังกฤษในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 และสงครามอัฟกานิสถาน ประตูชัยแห่งนี้จึงถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งหนึ่งของกรุงนิวเดลี โดยซุ้มประตูแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมคล้ายประตูชัยของกรุงปารีส และนครเวียงจันทน์
|
รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
|
|
= สนามบินแห่งชาติอินทิราคานธี เดินทางสู่ศรีลังกา =
|
- สมควรแก่เวลานำทุกท่านเดินทางสู่ สนามบินแห่งชาติอินทิราคานธี เตรียมตัวเดินทางกลับ
- 18.35 น. เดินทางสู่ ประเทศศรีลังกา โดยสายการบิน SriLankan Airlines เที่ยวบินที่ UL196
- 22.10 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานบันดานารานัยเก ประเทศศรีลังกา
|
เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ
|
- 01.15น. เดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน SriLankan Airlines เที่ยวบินที่ UL402
วันที่หก :: กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ)
|
กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ)
|
- 06.15 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ