สรุปการเดินทาง
Day
|
Highlight
|
Meal
|
Hotel
*หรือเทียบเท่า
|
B |
L |
D |
1 |
กรุงเทพฯ(สุวรรณภูมิ) - โคลัมโบ - ถ้ำดัมบูลล่า - เมืองสิริกิยา |
|
|
|
Browns Hotels - Sigiriya
|
2 |
เมืองสิริกิยา - พระราชวังสิริกิยา(ภูเขาสิงโต) - เมืองแคนดี้ - นมัสการพระเขี้ยวแก้ว - วัดกัลยาณีราชมหาวิหาร - สนามบินกรุงโคลัมโบ - สนามบินเจนไน |
|
|
|
Radisson Blu Hotel Chennai City Centre
|
3 |
ถึงสนามบินเจนไน - เข้าสู่ที่พัก - พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ(เจนไน) - มหาวิหาร ซานโตเม่ - หาดมารีน่า บีช |
|
|
|
Radisson Blu Hotel Chennai City Centre
|
4 |
เทวลัยกปาลีศวร(Kapaleewarar Temple) - ช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเจนไน ย่าน T. Nagar |
|
|
|
Radisson Blu Hotel Chennai City Centre
|
5 |
ช้อปปิ้งห้างที่ดีที่สุด Phoenix Market City - สนามบินเจนไน - สนามบินโคลัมโบ - สนามบินสุวรรณภูมิ(กรุงเทพฯ) |
|
|
|
บินกลับสู่กรุงเทพฯ
|
6 |
สนามบินสุวรรณภูมิ(กรุงเทพฯ) |
|
|
|
-
|
อัตราค่าบริการ (ราคารวมตั๋วเครื่องบิน)
กำหนดการเดินทาง
ธันวาคม 2567
วันเดินทาง |
จำนวนผู้เดินทาง ราคาท่านละ (บาท) |
4 ท่าน
|
6 ท่าน
|
8 ท่าน |
10 ท่าน |
พักเดี่ยวเพิ่ม |
3-8 ธ.ค. 67
|
47,900
|
46,900
|
45,900
|
43,900
|
9,500
|
4-9 ธ.ค. 67
|
47,900
|
46,900
|
45,900
|
43,900
|
9,500
|
6-11 ธ.ค. 67
|
47,900
|
46,900
|
45,900
|
43,900
|
9,500
|
7-12 ธ.ค. 67
|
47,900
|
46,900
|
45,900
|
43,900
|
9,500
|
8-13 ธ.ค. 67
|
46,900
|
45,900
|
44,900
|
42,900
|
9,500
|
10-15 ธ.ค. 67
|
46,900
|
45,900
|
44,900
|
42,900
|
9,500
|
17-22 ธ.ค. 67
|
46,900
|
45,900
|
44,900
|
42,900
|
9,500
|
หมายเหตุ:
- *กรณีผู้เดินทาง จำนวนต่ำกว่า 4 ท่าน หรือมากกว่า 10 ท่าน กรุณาเช็คกับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง
- **กรุณาเช็คที่นั่งและห้องว่างกับเจ้าหน้าที่อีกครั้งก่อนทำการจอง
- ค่าทิปไกด์ และค่าทิปคนขับรถ ลูกค้าจ่ายทิปท่านละ 60 USD(ท่านละ 2,200.-บาท) /ท่าน/ตลอดการเดินทาง/เจ้าหน้าที่ 4 คน
รถนำเที่ยวพร้อมคนขับแบบส่วนตัว เที่ยวแบบส่วนตัวเฉพาะคุณเท่านั้น
รถที่ใช้เดินทาง
|
จำนวนผู้เดินทาง
|
|
เดินทางโดยรถ Toyota Innova (สำหรับเดินทาง 4 ท่าน)
|
|
เดินทางโดยรถ Tempo Traveler (สำหรับเดินทาง 6-10 ท่าน)
|
แพลนการเดินทาง
วันแรก :: กรุงเทพฯ(สุวรรณภูมิ) - โคลัมโบ - ถ้ำดัมบูลล่า - เมืองสิริกิยา
|
ออกเดินทางสู่ โคลัมโบ
|
- 05.00 น. พร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 2 เคาน์เตอร์ S สายการบิน SriLankan Airlines
- 07.45 น. เดินทางสู่ ประเทศศรีลังกา โดยสายการบิน SriLankan Airlines เที่ยวบินที่ UL403
- 09.35 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานบันดานารานัยเก ประเทศศรีลังกา (เวลาช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชม.) ให้ท่านได้แลกเงินรูปีศรีลังกาที่สนามบิน
|
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
|
|
= เดินทางสู่ เมืองดัมบุลลา = (ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง ระยะทาง 130 กิโลเมตร)
|
|
วัดถ้ำดัมบุลลา (Dambulla Cave Temple)
|
|
|
วัดถ้ำดัมบุลลา (Dambulla Cave Temple) เป็นที่รู้จักกันในชื่อวัดทองคำแห่งดัมบุลลา วัดพุทธที่สำคัญแห่งหนึ่งของศรีลังกา เป็นวัดถ้ำที่ใหญ่ที่สุดและมีการทำนุบำรุงไว้อยู่ในสภาพดีที่สุดในศรีลังกา ประกอบด้วยถ้ำ 5 ถ้ำ แต่ละถ้ำมีขนาดไม่เท่ากัน ถ้ำเทวราชา เป็นถ้ำที่เก่าแก่ที่สุดในจำนวน 5 ถ้ำ มีพระพุทธรูปปางปรินิพพานขนาดใหญ่แกะสลักจากหินอ่อนยาว 49 เมตร ถ้ำมหาราชา เป็นถ้ำที่มีขนาดใหญ่และมีความสำคัญที่สุด ภายในมีพระพุทธรูปและประติมากรรมจำนวนมาก ถ้ำมหาอลุต มีพระนอนขนาดเกือบ 10 เมตรประดิษฐานอยู่ ถ้ำภัคชิมา มีขนาดเล็กที่สุดแต่มีภาพจิตรกรรมเต็มไปทั่วพื้นที่เพดานถ้ำและ ถ้ำเทวนะอลุต เป็นถ้ำที่สร้างขึ้นหลังสุด ภายในมีพระนอนขนาดใหญ่
|
รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารโรงแรม
|
|
ที่พัก Browns Hotels - Sigiriya ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
|
|
|
วันที่สอง :: เมืองสิริกิยา - พระราชวังสิริกิยา(ภูเขาสิงโต) - เมืองแคนดี้ - นมัสการพระเขี้ยวแก้ว - วัดกัลยาณีราชมหาวิหาร - สนามบินกรุงโคลัมโบ - สนามบินเจนไน
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
|
|
= เดินทางสู่ เมืองสิกิริยา = (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที)
|
|
ยอดเขาสิกิริยา(Sigiriya)
|
|
|
เดินขึ้นบันได 2,200 ขั้น ขึ้นไปบนยอดเขาสิกิริยา ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด ชมอดีตร่องรอยแห่งอดีตอันรุ่งเรืองของ พระราชวังลอยฟ้า สิกิริยา (Sigiriya Palace) , อ่างเก็บน้ำโบราณ , ป้อมปราการ หรือประตูสิงโต เป็นสิ่งมหัศจรรย์แห่งเดียวบนเกาะนี้รู้จักกันดีในชื่อ Lion Rock หรือ แท่นศิลาราชสีห์, ชมภาพเขียนสีเฟรสโก เป็นภาพนางอัปสรสวรรค์ ที่มีอายุพันกว่าปีและถูกจัดให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก และมองวิวทิวทัศน์ของเมืองสิกิริยาได้จากจุดที่สูงที่สุด
|
สวนสมุนไพร (New Ranweli Spice Garden)
|
|
|
ชม สวนสมุนไพร (New Ranweli Spice Garden) ที่ได้รวบรวมปลูกไว้มากมาย อาทิ ต้นอบเชย ต้นกระวาน ต้นกานพลู ต้นจันทน์ ต้นโกโก้ ต้นวานิลลา ต้นชา กาแฟ ตะไคร้ เป็นต้น พร้อมมีป้ายบอกสรรพคุณกำกับ โดยมีผู้เชี่ยวชาญนำชมและอธิบายเป็นภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ต่างๆจากสมุนไพร จากธรรมชาติแท้ปลอดสารเจือปนจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ที่ขื้นชื่อของสวนสมุนไพรในเมือง Matale เช่น น้ำยาปลูกผมสกัดจากน้ามันพะพร้าวคิงส์โคโคนัท หรือน้ำยาสมุนไพรแก้โรคไขข้อเสื่อม
|
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
|
|
= เดินทางสู่ เมืองแคนดี้ = (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)
|
|
วัดพระเขี้ยวแก้ว (Dalada Valigawa)
|
|
|
กราบนมัสการ พระบรมธาตุเขี้ยวแก้ว (The Sacred Tooth Relic of the Buddha) ซึ่งเป็นพระทันตธาตุเบื้องซ้ายของของพระพุทธเจ้า เป็นเพียงองค์เดียวที่ปรากฏบนโลกมนุษย์ โดยมีหลักฐานรองรับความถูกต้องตรงตามพระคัมภีร์มหาวังศา นับเป็นสิ่งสักสิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่โบราณ และเป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวศรีลังกา พระธาตุเขี้ยวแก้วนี้ได้ถูกบรรจุอยู่ในเจดีย์ทองคำ และผอบทองคำ 7 ชั้น ประดิษฐานในห้องกระจกกันกระสุนอย่างแน่นหนา และไม่เคยเสด็จออกนอกประเทศเลยนับตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 9 **ทุกท่านต้องสวมชุดสีขาวสุภาพเท่านั้น เพื่อพิธีกรรมทางศาสนาตอนเข้าสักการะ**
|
= เดินทางสู่ กรุงโคลัมโบ = (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)
|
|
วัดเกลาณียะราชมหาวิหาร (Kelaniya Raja Maha Vihara)
|
|
|
วัดเกลาณียะราชมหาวิหาร (Kelaniya Raja Maha Vihara) หรือ วัดกัลณียาราชมหาวิหาร ตามพงศาวดารมหาวงศ์ กล่าวว่าในพรรษาที่ 8 หลังจากตรัสรู้ พระพุทธเจ้าเสด็จมาเทศน์โปรดพญานาคาที่บริเวณวัดกัลณียาแห่งนี้ ต่อมาได้มีการสร้างพระเจดีย์ครอบบริเวณที่เชื่อกันกันว่าเป็นพุทธอาสนะในครั้งนั้น ถือเป็นวัดที่ชาวศรีลังกาให้ความเคารพอย่างสูงสุด
เมืองโคลัมโบ เมืองหลวงของศรีลังกา ที่มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ตึกระฟ้าตั้งตระหง่านขึ้นทัดเทียมกับสิ่งก่อสร้างทางวัฒนธรรม ผสมผสานด้วยความสวยงามของธรรมาชาติที่ยังคงสมบูรณ์ ผ่านชม รัฐสภานครโคลัมโบ ผ่านย่านศูนย์กลางธุรกิจ, วัดคงคาราม ซึ่งเป็นวัดของนิกายสยามวงศ์ และเป็นที่ตั้งของโรงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์แห่งแรกของศรีลังกา ย่านที่พัก CINNAMON GARDEN, อาคารรัฐสภา BMIC, ที่ทำการสหราชอาณาจักรในปัจจุบัน, กรมการทหาร, โบสถ์คริสต์ (DUTCH WOLVENDHAL CHURCH) ที่ถูกสร้างขึ้นโดยชาวดัตช์ในอดีตกาล, จัตุรัสอิสรภาพ ซึ่งสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นที่ระลึกในการ เป็นเอกราชของศรีลังกาหลังจากตกอยู่ภายใต้การปกครองของสหราชอาณาจักรมากกว่า150 ปี, หอนาฬิกาเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี สิ่งก่อสร้างและสถาปัตยกรรมที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยอาณานิคม ซึ่งศรีลังกาอยู่ภายใต้การปกครองของประเทศอังกฤษ นอกจากนี้ในเขตราชการท่านจะได้พบกับสภาพบ้านเมืองที่ถูกสร้างอย่างโอ่อ่าตระการตา
|
รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารโรงแรม
|
|
= สนามบินโคลัมโบ เดินทางสู่อินเดีย =
|
- ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่ สนามบินกรุงโคลัมโบ เพื่อเดินทางสู่ประเทศอินเดีย
- 00.40 น. เดินทางสู่ เมืองเจนไน โดยสายการบิน SriLankan Airlines เที่ยวบินที่ UL125
วันที่สาม :: ถึงสนามบินเจนไน - เข้าสู่ที่พัก - พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ(เจนไน) - มหาวิหาร ซานโตเม่ - หาดมารีน่า บีช
|
สนามบินเจนไน
|
- 02.00 น. ถึง สนามบินนานาชาติเมืองเจนไน(Chennai Airport) ประเทศอินเดีย (เวลาของเมืองเจนไน ช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชม)
- นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม รอรับท่าน ชูป้ายต้อนรับ “ WONDERFUL PACKAGE ”
|
ที่พัก Radisson Blu Hotel Chennai City Centre หรือเทียบเท่า 5 ดาว (ให้ท่านได้นอนพักผ่อนหลังการเดินทางสู่เมืองเจนไน)
|
|
|
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
|
|
เที่ยวชมเมืองเชนไน (Chennai)
|
|
|
เที่ยวชม เมืองเชนไน (Chennai) หรือชื่อเดิม มัทราส (Madras) ตั้งอยู่ริมชายฝั่งโคโรมันเดล ของอ่าวเบงกอล ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศ
เชนไนตั้งขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 17 โดยที่ราชาแห่งจันทีคีรี ที่มีอำนาจปกครองเหนือดินแดนแถบนี้ได้อนุญาตให้บริษัทอีสต์อินเดียเข้ามาตั้งสถานีการค้าพร้อมป้อมปราการขึ้นที่หมู่บ้านมัทราสปัฏฏินัม อันเป็นที่ มาของชื่อ "มัทราส" อังกฤษได้พัฒนาเมืองนี้ให้เป็นเมืองหลักและฐานทัพเรือ ในคริสต์ศตวรรษที่ 20 ก็กลายเป็นศูนย์กลางการบริหารที่สำคัญแห่งหนึ่งในฐานะเมืองหลวงของเขตมัทราส (Madras Presidency)
โดยเมืองเชนไน มีทั้ง การผลิตรถยนต์ เทคโนโลยี ฮาร์ดแวร์ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ โดยเป็นผู้ส่งออกซอฟต์แวร์และบริการทางเทคโนโลยี สารสนเทศรายใหญ่อันดับที่ 3 ของประเทศรองจากบังคาลอร์และไฮเดอราบาด อังกฤษเรียกเมืองใหม่นี้ว่า “จอร์จทาวน์” George Town ในขณะที่ชาวอินเดียพื้นเมืองเรียกว่า “เจนนะปัฏฏินัม” ตามชื่อราชา “เจนนัปปะ” รัฐบาลท้องถิ่นทมิฬนาฑูเลือกใช้ชื่อ "เชนไน" ที่ฟังดูเป็นพื้นเมืองไว้แทน มัทราส ที่มีกลิ่นอายอาณานิคม
|
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
|
|
พิพิธภัณฑ์มัทราส (Madras)
|
|
|
พิพิธภัณฑ์สถานเจนไน (Government Museum) หรือ พิพิธภัณฑ์มัทราส (Madras) มีการจัดแสดงงานโบราณวัตถุที่ดีที่สุดของอินเดียใต้ โดยเฉพาะงานหล่อสำาริดโบราณฝีมือเยี่ยม ทั้งของศาสนา ฮินดู พุทธ และเชน สำหรับชาวพุทธมีห้องพุทธประติมากรรมสมัยอมราวดี (พุทธศตวรรษที่ 7-9) ที่เป็นต้นกำเนิดศิลปะแบบ ทวารวดีในประเทศไทย (พุทธศตวรรษที่ 12-16) และที่ห้องอมราวดี เคยมีชาวพุทธจากไทยเคยเดินทางมาชมและจำลองภาพสลักหินพุทธประวัติไปไว้ที่โรงมหรสพทางวิญญาณในสวนโมกขผลารมไชยา สุราษฎร์ธานี (ปิดทุกวันศุกร์)
|
มหาวิหารซาน โตเม่ (Santhome Cathedral)
|
|
|
มหาวิหารซาน โตเม่(Santhome Cathedral) มหาวิหารที่สวยงาม สร้างโดยชาวโปรตุเกสในสมัยศตวรรษที่ 16 และต่อมาได้รับการบูรณะโดยชาวอังกฤษ โบสถ์คริสต์เก่าแก่แห่งนี้ของเจนไน มีอีกชื่อหนึ่ว่า โบสถ์เซนต์โทมัส (National Shrine of St.Thomas Basilica)
คำว่า “Santhome” กลายมาจากชื่อนักบุญโทมัส หนึ่งในสิบสองอัครสาวกของเยซูคริสต์รุ่นแรกที่ออกเผยแพร่ศาสนา ชาวอินเดียเชื่อว่านักบุญโทมัสได้มาถึงอินเดียในปีพ.ศ. 592-595 ต่อมาถูกทรมานเนื่องจากความเห็นต่างทางศาสนา ณ ภูเขาเซนต์โทมัส ร่างของท่านถูกนำามาฝังไว้ ณ สถานที่นี้ ที่ต่อมากลายเป็นโบสถ์เซนต์โทมัส และถูกยกให้เป็นศูนย์รวมของนักแสวงบุญสำหรับคริสเตียนที่อยู่ในประเทศอินเดียจนปัจุบัน
|
หาดมารีน่า บีช (Marina Beach)
|
|
|
ถ่ายรูปกับ หาดมารีน่า บีช (Marina Beach) ชายหาดในเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ชมพระอาทิตย์ตกน้ำที่สวยงามซึ่งจะทำให้คุณหลงใหล ด้วยเฉดสีที่กระจายไปทั่วผืนน้ำที่ส่องแสงระยิบระยับ และเพลิดเพลินไปกับสายลมอ่อนๆ ที่พัดกระทบใบหน้า พร้อมให้ท่านถ่ายรูปอิสระตามอัธยาศัย
|
รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารโรงแรม
|
|
ที่พัก Radisson Blu Hotel Chennai City Centre หรือเทียบเท่า 5 ดาว
|
|
|
วันที่สี่ :: เทวลัยกปาลีศวร(Kapaleewarar Temple) - ช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเจนไน ย่าน T. Nagar
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
|
|
เทวาลัยกปาลีศวร (Kapaleeswarar Temple)
|
|
|
เทวาลัยกปาลีศวร (Kapaleeswarar Temple) เป็นวัดของพระศิวะ ตั้งอยู่ในเขตไมลาปอร์ใจกลางเมืองเชนไน เป็นศิลปะการก่อสร้างของชาวดราวิเดียนที่นิยมสร้างวัดสูงใหญ่ โคปุรัม หรือหอคอยประตูทางเข้าโบสถ์มีความสูง 37 เมตร ตกแต่งด้วยรูปปั้นเทวรูปและเหล่าเทวดานับร้อยนับพัน ประดับลวดลายสีสันฉูดฉาดและงดงามตามเอกลักษณ์ของอินเดียใต้แท้ๆ นำท่านขอพรพระแม่ลักษมี พระนารายณ์ พระพิฆเนศ
หมายเหตุ:
- สามารถสั่งจองดวงไฟ เพื่อจุดถวายพระแม่ลักษมี และ พระนารายณ์ พระพิฆเนศ และเพื่อเสริมดวงให้เจริญรุ่งเรือง ทำการใดประสบผลสำเร็จทุกประการ (ความเชื่อส่วนบุคคล)
- สุภาพสตรีกรุณาแต่งกายสุภาพ (ควรเตรียมผ้าถุง ไว้คลุมเมื่อเข้าวัด)
|
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
|
|
ย่าน ที นาการ์ (T. Nagar)
|
|
|
ย่าน ที นาการ์ (T. Nagar) แหล่งช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเชนใน สัมผัสถึงวัฒนธรรมอันน่าสนใจท่ามกลางบรรยากาศแสนคึกคักในเมืองเชนใน ให้ท่านเดินเล่นเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สินค้าพื้นเมือง หรืองานศิลปะอย่างประติมากรรรมหินอ่อน เครื่องแต่งกาย กระเป๋า เครื่องประดับ และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย
|
รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารโรงแรม
|
|
ที่พัก Radisson Blu Hotel Chennai City Centre หรือเทียบเท่า 5 ดาว
|
|
|
วันที่ห้า :: Phoenix Market City - สนามบินเจนใน - สนามบินกรุงโคลัมโบ
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
|
|
Phoenix Market City
|
|
|
Phoenix Market City ห้างที่ดีที่สุดในเมืองเชนไน ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าแบรนด์ดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นอย่าง เวชภัณฑ์ยี่ห้อ Himalaya หรือแบรนด์เนมชั้นนำ อาทิ Adidas, Chales & Keith, Fossil, Lacoste, Zara เป็นต้น รวมไปถึงร้านอาหารหลากหลายให้ท่านได้เลือกรับประทานในระหว่างช้อปปิ้ง เช่น Starbucks, Burger King, coffee Beans And Tea Left เป็นต้น
|
อิสระอาหารกลางวันและอาหารเย็น เพื่อสะดวกในการช้อปปิ้ง
|
|
สนามบินเจนไน
|
- สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ สนามบินเจนไน เพื่อเดินทางสู่กรุงโคลัมโบ แวะต่อเครื่องกลับสู่กรุงเทพฯ
- 20.55 น. เดินทางสู่ ประเทศศรีลังกา โดยสายการบิน SriLankan Airlines เที่ยวบินที่ UL124
- 22.15 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานบันดานารานัยเก ประเทศศรีลังกา ต่อเที่ยวบินกลับประเทศไทย(สนามบินสุวรรณภูมิ)
วันที่หก :: กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ)
|
กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ)
|
- 01.15. น. เดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน SriLankan Airlines เที่ยวบินที่ UL402
- 06.15 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ