สรุปการเดินทาง
Day
|
Highlight
|
Meal
|
Hotel
*หรือเทียบเท่า
|
B |
L |
D |
1 |
กรุงเทพฯ(สุวรรณภูมิ) - สนามบินโคลัมโบ - ถ้ำดัมบูลล่า - เมืองสิริกิยา |
|
|
|
Browns Hotels - Sigiriya
|
2 |
เมืองสิริกิยา - พระราชวังสิริกิยา(ภูเขาสิงโต) - เมืองแคนดี้ - นมัสการพระเขี้ยวแก้ว - วัดกัลยาณีราชมหาวิหาร - สนามบินโคลัมโบ - มุมไบ(สนามบินฉัตราปตีศิวะจี) |
|
|
|
Kohinoor Continental Hotel
|
3 |
เมืองมุมไบ - เกาะเอลิฟันต้า ถ้ำเอลิฟันต้า(มรดกโลก) ไหว้ขอพรพระศิวะ - มุมไบ |
|
|
|
Kohinoor Continental Hotel
|
4 |
เมืองมุมไบ(บินภายใน) - สนามบินออรังกาบัด - ถ้ำแอลโรล่า(ถ้ำมรดกโลก) - บีบี กา มักบารา(ทัชมาฮาลน้อย) - เมืองออรังกาบัด |
|
|
|
Fern Hotel
|
5 |
เมืองออรังกาบัด - ถ้ำอาชันต้า(ถ้ำมรดกโลก ศาสนาพุทธ) - ออรังกาบัด |
|
|
|
Fern Hotel
|
6 |
เมืองออรังกาบัด(บินภายใน) - สนามบินมุมไบ - วัดสิทธินัยยัค(ขอพระพิฆเนศ) - โดบิบาด(ลานซักผ้ามุมไบที่ใหญ่ที่สุดในโลก) - ถ่ายรูปกับประตูชัย โรงแรมทัชมาฮาลพาเลซ - สนามบินมุมไบ - สนามบินโคลัมโบ |
|
|
|
บินกลับประเทศไทย
|
7 |
สนามบินโคลัมโบ - สนามบินสุวรรณภูมิ(กรุงเทพฯ) |
|
|
|
-
|
อัตราค่าบริการ (ราคารวมตั๋วเครื่องบิน)
กำหนดการเดินทาง
ธันวาคม 2567
วันเดินทาง |
จำนวนผู้เดินทาง ราคาท่านละ (บาท) |
4 ท่าน
|
6 ท่าน
|
8 ท่าน |
10 ท่าน |
พักเดี่ยวเพิ่ม |
3-9 ธ.ค. 67
|
68,900
|
67,900
|
66,900
|
64,900
|
13,000
|
4-10 ธ.ค. 67
|
68,900
|
67,900
|
66,900
|
64,900
|
13,000
|
6-11 ธ.ค. 67
|
68,900
|
67,900
|
66,900
|
64,900
|
13,000
|
7-12 ธ.ค. 67
|
68,900
|
67,900
|
66,900
|
64,900
|
13,000
|
17-23 ธ.ค. 67
|
66,900
|
65,900
|
64,900
|
62,900
|
13,000
|
หมายเหตุ:
- *กรณีผู้เดินทาง จำนวนต่ำกว่า 4 ท่าน หรือมากกว่า 10 ท่าน กรุณาเช็คกับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง
- **กรุณาเช็คที่นั่งและห้องว่างกับเจ้าหน้าที่อีกครั้งก่อนทำการจอง
- ค่าทิปไกด์ และค่าทิปคนขับรถ ลูกค้าจ่ายทิปท่านละ 60 USD(ท่านละ 2,200.-บาท) /ท่าน/ตลอดการเดินทาง
รถนำเที่ยวพร้อมคนขับแบบส่วนตัว เที่ยวแบบส่วนตัวเฉพาะคุณเท่านั้น
รถที่ใช้เดินทาง
|
จำนวนผู้เดินทาง
|
|
เดินทางโดยรถ Toyota Innova (สำหรับเดินทาง 4 ท่าน)
|
|
เดินทางโดยรถ Tempo Traveler (สำหรับเดินทาง 6-10 ท่าน)
|
แพลนการเดินทาง
วันแรก :: กรุงเทพฯ(สุวรรณภูมิ) - สนามบินโคลัมโบ - ถ้ำดัมบูลล่า - เมืองสิริกิยา
|
ออกเดินทางสู่ โคลัมโบ
|
- 05.00 น. พร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 2 เคาน์เตอร์ S สายการบิน SriLankan Airlines
- 07.45 น. เดินทางสู่ ประเทศศรีลังกา โดยสายการบิน SriLankan Airlines เที่ยวบินที่ UL403
- 09.35 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานบันดานารานัยเก ประเทศศรีลังกา (เวลาช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชม.) ให้ท่านได้แลกเงินรูปีศรีลังกาที่สนามบิน
|
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
|
|
= เดินทางสู่ เมืองดัมบุลลา = (ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง ระยะทาง 130 กิโลเมตร)
|
|
วัดถ้ำดัมบุลลา (Dambulla Cave Temple)
|
|
|
วัดถ้ำดัมบุลลา (Dambulla Cave Temple) เป็นที่รู้จักกันในชื่อวัดทองคำแห่งดัมบุลลา วัดพุทธที่สำคัญแห่งหนึ่งของศรีลังกา เป็นวัดถ้ำที่ใหญ่ที่สุดและมีการทำนุบำรุงไว้อยู่ในสภาพดีที่สุดในศรีลังกา ประกอบด้วยถ้ำ 5 ถ้ำ แต่ละถ้ำมีขนาดไม่เท่ากัน ถ้ำเทวราชา เป็นถ้ำที่เก่าแก่ที่สุดในจำนวน 5 ถ้ำ มีพระพุทธรูปปางปรินิพพานขนาดใหญ่แกะสลักจากหินอ่อนยาว 49 เมตร ถ้ำมหาราชา เป็นถ้ำที่มีขนาดใหญ่และมีความสำคัญที่สุด ภายในมีพระพุทธรูปและประติมากรรมจำนวนมาก ถ้ำมหาอลุต มีพระนอนขนาดเกือบ 10 เมตรประดิษฐานอยู่ ถ้ำภัคชิมา มีขนาดเล็กที่สุดแต่มีภาพจิตรกรรมเต็มไปทั่วพื้นที่เพดานถ้ำและ ถ้ำเทวนะอลุต เป็นถ้ำที่สร้างขึ้นหลังสุด ภายในมีพระนอนขนาดใหญ่
|
รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารโรงแรม
|
|
ที่พัก Browns Hotels - Sigiriya ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
|
|
|
วันที่สอง :: เมืองสิริกิยา - พระราชวังสิริกิยา(ภูเขาสิงโต) - เมืองแคนดี้ - นมัสการพระเขี้ยวแก้ว - วัดกัลยาณีราชมหาวิหาร - สนามบินโคลัมโบ - มุมไบ(สนามบินฉัตราปตีศิวะจี)
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
|
|
= เดินทางสู่ เมืองสิกิริยา = (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที)
|
|
ยอดเขาสิกิริยา(Sigiriya)
|
|
|
เดินขึ้นบันได 2,200 ขั้น ขึ้นไปบนยอดเขาสิกิริยา ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด ชมอดีตร่องรอยแห่งอดีตอันรุ่งเรืองของ พระราชวังลอยฟ้า สิกิริยา (Sigiriya Palace) , อ่างเก็บน้ำโบราณ , ป้อมปราการ หรือประตูสิงโต เป็นสิ่งมหัศจรรย์แห่งเดียวบนเกาะนี้รู้จักกันดีในชื่อ Lion Rock หรือ แท่นศิลาราชสีห์, ชมภาพเขียนสีเฟรสโก เป็นภาพนางอัปสรสวรรค์ ที่มีอายุพันกว่าปีและถูกจัดให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก และมองวิวทิวทัศน์ของเมืองสิกิริยาได้จากจุดที่สูงที่สุด
|
สวนสมุนไพร (New Ranweli Spice Garden)
|
|
|
ชม สวนสมุนไพร (New Ranweli Spice Garden) ที่ได้รวบรวมปลูกไว้มากมาย อาทิ ต้นอบเชย ต้นกระวาน ต้นกานพลู ต้นจันทน์ ต้นโกโก้ ต้นวานิลลา ต้นชา กาแฟ ตะไคร้ เป็นต้น พร้อมมีป้ายบอกสรรพคุณกำกับ โดยมีผู้เชี่ยวชาญนำชมและอธิบายเป็นภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ต่างๆจากสมุนไพร จากธรรมชาติแท้ปลอดสารเจือปนจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ที่ขื้นชื่อของสวนสมุนไพรในเมือง Matale เช่น น้ำยาปลูกผมสกัดจากน้ามันพะพร้าวคิงส์โคโคนัท หรือน้ำยาสมุนไพรแก้โรคไขข้อเสื่อม
|
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
|
|
= เดินทางสู่ เมืองแคนดี้ = (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)
|
|
วัดพระเขี้ยวแก้ว (Dalada Valigawa)
|
|
|
กราบนมัสการ พระบรมธาตุเขี้ยวแก้ว (The Sacred Tooth Relic of the Buddha) ซึ่งเป็นพระทันตธาตุเบื้องซ้ายของของพระพุทธเจ้า เป็นเพียงองค์เดียวที่ปรากฏบนโลกมนุษย์ โดยมีหลักฐานรองรับความถูกต้องตรงตามพระคัมภีร์มหาวังศา นับเป็นสิ่งสักสิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่โบราณ และเป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวศรีลังกา พระธาตุเขี้ยวแก้วนี้ได้ถูกบรรจุอยู่ในเจดีย์ทองคำ และผอบทองคำ 7 ชั้น ประดิษฐานในห้องกระจกกันกระสุนอย่างแน่นหนา และไม่เคยเสด็จออกนอกประเทศเลยนับตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 9 **ทุกท่านต้องสวมชุดสีขาวสุภาพเท่านั้น เพื่อพิธีกรรมทางศาสนาตอนเข้าสักการะ**
|
= เดินทางสู่ กรุงโคลัมโบ = (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)
|
|
วัดเกลาณียะราชมหาวิหาร (Kelaniya Raja Maha Vihara)
|
|
|
วัดเกลาณียะราชมหาวิหาร (Kelaniya Raja Maha Vihara) หรือ วัดกัลณียาราชมหาวิหาร ตามพงศาวดารมหาวงศ์ กล่าวว่าในพรรษาที่ 8 หลังจากตรัสรู้ พระพุทธเจ้าเสด็จมาเทศน์โปรดพญานาคาที่บริเวณวัดกัลณียาแห่งนี้ ต่อมาได้มีการสร้างพระเจดีย์ครอบบริเวณที่เชื่อกันกันว่าเป็นพุทธอาสนะในครั้งนั้น ถือเป็นวัดที่ชาวศรีลังกาให้ความเคารพอย่างสูงสุด
เมืองโคลัมโบ เมืองหลวงของศรีลังกา ที่มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ตึกระฟ้าตั้งตระหง่านขึ้นทัดเทียมกับสิ่งก่อสร้างทางวัฒนธรรม ผสมผสานด้วยความสวยงามของธรรมาชาติที่ยังคงสมบูรณ์ ผ่านชม รัฐสภานครโคลัมโบ ผ่านย่านศูนย์กลางธุรกิจ, วัดคงคาราม ซึ่งเป็นวัดของนิกายสยามวงศ์ และเป็นที่ตั้งของโรงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์แห่งแรกของศรีลังกา ย่านที่พัก CINNAMON GARDEN, อาคารรัฐสภา BMIC, ที่ทำการสหราชอาณาจักรในปัจจุบัน, กรมการทหาร, โบสถ์คริสต์ (DUTCH WOLVENDHAL CHURCH) ที่ถูกสร้างขึ้นโดยชาวดัตช์ในอดีตกาล, จัตุรัสอิสรภาพ ซึ่งสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นที่ระลึกในการ เป็นเอกราชของศรีลังกาหลังจากตกอยู่ภายใต้การปกครองของสหราชอาณาจักรมากกว่า150 ปี, หอนาฬิกาเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี สิ่งก่อสร้างและสถาปัตยกรรมที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยอาณานิคม ซึ่งศรีลังกาอยู่ภายใต้การปกครองของประเทศอังกฤษ นอกจากนี้ในเขตราชการท่านจะได้พบกับสภาพบ้านเมืองที่ถูกสร้างอย่างโอ่อ่าตระการตา
|
รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารโรงแรม
|
|
= สนามบินโคลัมโบ เดินทางสู่อินเดีย =
|
- ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่ สนามบินกรุงโคลัมโบ เพื่อเดินทางสู่ประเทศอินเดีย
- 23.40 น. เดินทางสู่ เมืองมุมไบ โดยสายการบิน SriLankan Airlines เที่ยวบินที่ UL143
วันที่สาม :: เมืองมุมไบ - เกาะเอลิฟันต้า ถ้ำเอลิฟันต้า(มรดกโลก) ไหว้ขอพรพระศิวะ - มุมไบ
|
บินสู่นครมุมไบ
|
- 02.10 น. ถึงสนามบินนานาชาติฉัตรปตี ศิวาจี มหาราช นครมุมไบ ประเทศอินเดีย (เวลาช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชม) หลังจากนั้นท่านผ่านพิธีตรวจคน เข้าเมืองและศุลกากร และรับกระเป๋าสัมภาระเรียบร้อยแล้ว (เจ้าหน้าที่บริษัท คอยต้อนรับ)
- นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม รอรับท่าน ชูป้ายต้อนรับ “ WONDERFUL PACKAGE ”
|
เข้าสู่ที่พัก Hotel Kohinoor Continental หรือเทียบเท่า 4 ดาว (ให้ท่านได้นอนพักผ่อนหลังการเดินทางสู่เมืองมุมไบ)
|
|
|
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
|
|
ผ่านชมเมืองมุมไบ
|
|
|
ผ่านชม ประตูอินเดีย (Gateway of India) สัญลักษณ์ของเมืองมุมไบ ผ่านชมเมืองชมตึกสวยๆ เมืองมุมไบ หรือที่เคยรู้จักกันในชื่อ “บอมเบย์” เมืองท่าเก่าแก่ของอินเดียตอนใต้ืที่ร่ำรวยด้วยแหล่งโบราณสถานวัดถ้ำมรดกโลกอันล้ำค่า และวิจิตรตระการตา มุมไบยังเป็นศูนย์รวม ของศรัทธาความเชื่อและวัฒนธรรมหลากหลายมีฐานะเป็นฮอลีวู้ด (บอลลีวู้ด) ของอินเดีย
|
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
|
|
เดินทางสู่ เกาะเอเลเฟ่นต้า
|
|
ถ้ำเอลิฟันต้า (Elephanta Caves) เดินทางโดยเรือประมาณ 45 นาที
|
|
|
นั่งเรือจาก เกาะเอเลเฟ่นต้า เพื่อชมเทวาลัยถ้ำอันอลังการ ถ้ำเอลิฟันต้า (Elephanta Caves) เป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศิลปะ ถ้ำหินแกะสลักที่มีความสวยงามอลังการ เป็นเทวสถานของศาสนาฮินดู งานประติมากรรมชิ้นเอกเป็นเทวรูปพระศิวะครึ่งองค์ สูง 5 เมตร มีสามเศียร แสดงปางผู้สร้าง ผู้รักษา และผู้ทำลาย
|
เดินทางกลับเมืองมุมไบ โดยเรือประมาณ 45 นาที
|
|
รับประทานอาหารเย็น ณ โรงแรมที่พัก
|
|
พักที่ Hotel Kohinoor Continental ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
|
|
|
วันที่สี่ :: เมืองมุมไบ(บินภายใน) - สนามบินออรังกาบัด - ถ้ำแอลโรล่า(ถ้ำมรดกโลก) - บีบี กา มักบารา(ทัชมาฮาลน้อย) - เมืองออรังกาบัด
|
รับประทานอาหารเช้า แบบกล่อง จากโรงแรมที่พัก พร้อมเช็คเอ้าท์
|
|
= เดินทางสู่ เมืองออรังกาบัด(Aurangabad) = บินภายในประเทศ
|
- 03.30 น. นำท่านเดินทางสู่ สนามบินมุมไบ เพื่อบินสู่เมืองออรังกาบัด
- 05.15 น. ออกเดินทางสู่ สนามบิน เมืองออรังกาบัด โดยสายการบิน Indigo เที่ยวบินที่ 6E 6227 หรือ 6E 567
- 06.20 น. ถึง สนามบินออรังกาบัด รัฐมหาราษฏระ ประเทศอินเดีย
- รับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ไกด์อินเดีย เมืองออรังกาบัด ชูป้าย WONDERFULL PACKAGE
|
ถ้ำเอลโลร่า (Ellora Caves)
|
|
|
ถ้ำเอลโลร่า (Ellora) มรดกโลกจากยูเนสโก้ที่มีอายุราวพันกว่าปี หมู่ถ้ำนี้เป็นวัดและศาสนาสถานที่เจาะเข้าไปในภูเขา เป็นหมู่ถ้ำที่มีถึง 3 ศาสนา คือ พุทธ ฮินดู และเชน มีทั้งหมด 34 ถ้ำ ในบรรดาหมู่ถ้ำทั้งหมด ถ้ำที่ 16 เป็นถ้ำที่สำคัญที่สุด คือ เทวาลัยถ้ำเขาไกรลาส (Kailasanatha Temple) กับการแกะสลักสุดอัศจรรย์ โดยเริ่มแกะสลักจากด้านบนสุด แล้วค่อยๆไล่ลงมา เป็นภาที่วิจิตรงดงามของเหล่าทวยเทพทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นรูปองค์พระศิวะ พระพรหม พระนารายณ์ และ พระพิฆเนศ ช้างเอราวัณตลอดทั้งเหล่านางเทพ อัปสร และอีกมากมาย
|
รับประทานกลางวัน ณ ภัตตาคาร
|
|
บีบี กา มักบารา (Bibi Ka Maqbara)
|
|
|
บีบี กา มักบารา (Bibi Ka Maqbara) เป็นอนุสรณ์สำคัญในเมืองเอารังกาบัด และมีชื่อเสียงในฐานะ "ทัชมาฮาลแห่งเดคคาน" (Taj Mahal of the Deccan) เนื่องจากมีลักษณะสถาปัตยกรรมที่คล้ายคลึงกับทัชมาฮาล โดยอนุสรณ์สถานแห่งนี้สร้างขึ้นโดยเจ้าชายอาซัม ชาห์ (Azam Shah) เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระมารดา ราบีอา-อุด-ดูรานี (Rabia-ul-Daurani) ภรรยาของจักรพรรดิเอารังเซบ (Aurangzeb)
|
ช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย
|
|
รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารโรงแรม
|
|
พักที่ Hotel The Fern Residency Hotel ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
|
|
|
วันที่ห้า :: เมืองออรังกาบัด - ถ้ำอาชันต้า(ถ้ำมรดกโลก ศาสนาพุทธ) - ออรังกาบัด
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
|
|
เดินทางสู่ ถ้ำอชันตา (Ajanta Caves) (ระยะทาง 105 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง)
|
|
รับประทานกลางวัน ณ ภัตตาคาร
|
|
ถ้ำอชันตา (Ajanta Caves)
|
|
|
ถ้ำอชันตา (Ajanta Caves) อีกหนึ่งมรดกโลกจากยูเนสโก้ โดยหมู่ถ้ำอซันต้า แท้จริงแล้วคือวัดในพุทธศาสนา ที่เจาะและแกะสลักเข้าไปในภูเขาอยู่เรียงกันเป็น หมู่รวม 30 ถ้ำ เป็นถ้ำยุคแรกที่เก่าแก่กว่าสองพันปี หมู่ถ้ำอซันต้า เป็นถ้ำพุทธศาสนาทั้งหมด สร้างโดยช่างฝีมือชั้นครู โดยการอุปถัมภ์ของกษัตริย์และเสนาบดีระดับสูงในสมัยนั้นๆ ภายในถ้ำสลักเสลาเป็นเสาประดับลวดลายอันงดงามของพระพุทธรูปและเจดีย์ศิลาที่สกัดและตบแต่งขึ้นจากหินชิ้นเดียวกับพื้น และผนังถ้ำเป็นภาพจิตรกรรมเก่าแก่ที่มีความงดงามสมบูรณ์ด้วยเทคนิคการเขียนภาพสามมิติอันน่าอัศจรรย์ พระพุทธรูปศิลาที่แสดงอารมณ์พระพักตร์เมื่อแสงตกสะท้อนจากมุมต่าง
|
เดินทางกลับสู่เมืองออรังกาบัด
|
|
รับประทานอาหารเย็น ณ โรงแรมที่พัก
|
|
พักที่ Hotel The Fern Residency Hotel ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
|
|
|
วันที่หก :: เมืองออรังกาบัด(บินภายใน) - สนามบินมุมไบ - วัดสิทธินัยยัค(ขอพระพิฆเนศ) - โดบิบาด(ลานซักผ้ามุมไบที่ใหญ่ที่สุดในโลก) - ถ่ายรูปกับประตูชัย โรงแรมทัชมาฮาลพาเลซ - สนามบินมุมไบ - สนามบินโคลัมโบ
|
รับประทานอาหารเช้า แบบกล่อง จากโรงแรมที่พัก พร้อมเช็คเอ้าท์
|
|
= เดินทางกลับสู่ เมืองมุมไบ (Mumbai) = บินภายในประเทศ
|
- 04.30 น. นำท่านเดินทางสู่ สนามบินออรังกาบัด เพื่อบินกลับสู่นครมุมไบ
- 06.55 น. ออกเดินทางสู่ นครมุมไบ โดยสายการบิน Indigo เที่ยวบินที่ 6E 6569
- 07.50 น. ถึง สนามบินมุมไบ ท่านรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ไกด์อินเดีย เมืองมุมไบ ชูป้าย WONDERFULL PACKAGE
|
วัดสิทธิวินัยยัค (Siddhivinayak Temple)
|
|
|
วัดสิทธิวินัยยัค(Siddhivinayak Temple) เป็นวัดที่เก่าแก่ในศาสนาฮินดู สร้างขึ้นราว 200 กว่าปี ภายในเป็นที่ประดิษฐานองค์ “พระพิฆเนศ” เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ ซึ่งตั้งอยู่ในองค์มณฑปศักดิ์สิทธิ์ ที่ท่านจะสามารถสัมผัสได้ถึงพลังศรัทธาทันทีที่ท่านก้าวเข้าสู่ภายในวัด หลักการขอพรจากท่านต้องกระซิบคำอธิษฐานต่อรูปปั้นหนู 2 ตน ที่ถือเป็นพระสหายขององค์ท่านด้วย และให้ท่านได้มีเวลาบูชารูปบูชาขององค์ท่าน และเครื่องราง ตามอัธยาศัย
|
โดบิกาต (Dhobi Ghat)
|
|
|
โดบิกาต (Dhobi Ghat) เป็นลานซักผ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ใจกลางนครมุมไบ ใช้ลูกจ้างซักผ้ามากกว่า 5,000 คน/วัน และที่นี่ยังเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์เรื่อง Dhobi Ghat ทำให้ลานซักผ้าแห่งนี้มีชื่อเสียงและกลายเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยว เป็นเอกลักษณ์ของอินเดียที่ซ่อนเสน่ห์ของชุมชนที่นี่ได้เป็นอย่างดี จนมีผู้มาเยือนและเดินชมไม่ขาดสายตลอดทั้งวัน
|
รับประทานกลางวัน ณ ภัตตาคาร
|
|
สถานีรถไฟวิคตอเรีย เทอร์มินัส (Victoria Terminus)
|
|
|
ถ่ายรูปด้านนอก สถานีรถไฟวิคตอเรีย เทอร์มินัส (Victoria Terminus) หรือชื่อปัจจุบันคือ สถานีรถไฟฉัตราปตี ศิวาชิ (Chhatrapati Shivaji Maharaj Terminus หรือ CST) เป็นหนึ่งในสถานีรถไฟที่สำคัญที่สุด อีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของมุมไบ สร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการครองราชย์ครบ 50 ปีของพระราชินีวิกตอเรีย เป็นแบบวิคตอเรียนโกธิคผสมผสานกับสถาปัตยกรรมอินเดีย โดดเด่นด้วยหอคอยสูง ซุ้มประตูโค้ง และการแกะสลักที่ประณีตบนผนังและหลังคา และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก
|
ประตูชัยอินเดีย (Gateway of India)
|
|
|
ถ่ายรูปกับ ประตูชัย สัญลักษณ์ของเมืองมุมไบ สร้างขึ้นในสมัยของราชวงศ์อังกฤษ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเสด็จเยือนของกษัตริย์จอร์จที่ 5 และพระราชินีแมรีในปี 1911 ออกแบบในสไตล์อินโด-ซาราเซนิก ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมฮินดูและมุสลิม ประตูชัยมีความสูง 26 เมตร ประกอบด้วยซุ้มประตูโค้งใหญ่สี่ซุ้มและเสากลมสี่ต้น มีรายละเอียดการแกะสลักที่ซับซ้อนและสวยงาม
|
Taj Mahal Palace Hotel
|
|
|
ใกล้กับประตูชัยอินเดีย นั้นจะมีโรงแรมชื่อดัง Taj Mahal Palace Hotel ที่พักระดับ 5 ดาวสุดหรูในนครมุมไบ สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบอินโด-ซาราเซน เป็นสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างฮินดูกับมุสลิม พร้อมให้ท่านถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกครั้งหนึ่งท่านเคยมาเที่ยวที่นี่
|
รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
|
|
สนามบินมุมไบ
|
- สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ สนามบินมุมไบ เพื่อเดินทางสู่กรุงโคลัมโบ แวะต่อเครื่องกลับสู่กรุงเทพฯ
- 20.40 น. เดินทางสู่ ประเทศศรีลังกา โดยสายการบิน SriLankan Airlines เที่ยวบินที่ UL403
- 23.05 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานบันดานารานัยเก ประเทศศรีลังกา ต่อเที่ยวบินกลับประเทศไทย(สนามบินสุวรรณภูมิ)
วันที่เจ็ด :: สนามบินโคลัมโบ - สนามบินสุวรรณภูมิ(กรุงเทพฯ)
|
เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ
|
- 01.15. น. เดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน SriLankan Airlines เที่ยวบินที่ UL402
- 06.15 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ